Ep.6

1378 Words
Ep.6 Baibua talk. "เอ่อ...มาหาคุณจีโน่ค่ะ" ฉันพูดบอกคนที่มาเปิดประตูห้องให้ฉันหลังจากที่ฉันเคาะห้องไปสักพัก ผู้ชายคนที่มาเปิดประตูห้องให้ฉันมองฉันอย่างกำลังพิจารณาอะไรสักอย่างอยู่สักพักก่อนจะพูดออกมา "...อยู่ข้างใน" พูดจบเขาก็ถอยหลังเพื่อหลีกทางให้ฉันเดินเข้าไปในห้องทันที "!?!" และทันทีที่ฉันก้าวขาเดินเข้าไปภายในห้องผู้ป่วย คนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่เห็นฉันเดินเข้ามา ฉันเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วยพร้อมกับมองเขาอย่างสำรวจอาการสักพักก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบๆ "...ก็ไม่เห็นตายหนิ" "เธอ!!" เขาพูดออกมาอย่างโกรธจัดอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ฉันพูดจบ พร้อมกับทุกคนที่อยู่ในห้องก็รีบหันมามองหน้าฉันอย่างตกใจปนไม่เข้าใจที่ฉันพูดแบบนั้นออกไป แต่มันก็จริงอย่างที่ฉันพูดนี่คะ ทำสำออยว่าแพ้นักแพ้หนา แต่จริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ออกจะดูปกติซะด้วยซ้ำ "..." "หึ! ปากดีไม่เลิก แล้วนี่น่ะเหรอที่เธอบอกว่าจะรับผิดชอบฉันน่ะ ทำไมเพิ่งจะมาเอาป่านนี้" ผู้ป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงพูดออกมาพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงใดๆ เลย "ก็ไม่เห็นว่าฉันต้องรับผิดชอบอะไรเลยนี่คะ นายก็ดูปกติดี ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย..." "แล้วพี่ฉันต้องเป็นมากขนาดไหนล่ะ!? คุณถึงจะรับผิดชอบพี่ฉัน" และทันทีที่ฉันพูดจบ ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ในห้องนี้ด้วยก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้ามายืนตรงหน้าฉันและมองฉันอย่างเอาเรื่อง "..." "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ยังไง แต่การที่คุณเดินเข้ามาพูดแบบนี้กับพี่ชายของฉัน ฉันว่ามันเกินไปนะคะ" "เจ้าขา..." ผู้ชายที่ยืนอยู่ในห้องอีกคนเรียกชื่อผู้หญิงคนนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อย่างพยายามจะปรามเธอ "ไม่ต้องห้ามเจ้าขาเลยนะพี่เตอร์ เจ้าขาทนไม่ได้หรอกนะที่มีคนมาว่าพี่เจ้าขาแบบนี้ ...ตัวเองไม่ได้เป็นคนป่วยตัวเองก็พูดได้สิว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก! คุณลองมาเป็นคนป่วยดูบ้างมั้ยล่ะ!?" พอเธอพูดกับคนที่ชื่อเตอร์จบ เธอก็ตวัดสายตามามองฉันแบบโกรธๆ ทันที "..." ฉันยืนมองหน้า 'เจ้าขา' ด้วยสีหน้านิ่งๆ อย่างรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อ "คุณลองคิดกลับกันสิ ถ้าคุณเองเป็นคนป่วยที่แพ้อะไรสักอย่างจนเกิดอาการสาหัสหายใจแทบไม่ออก คุณจะรู้สึกยังไง คุณรู้มั้ยว่ามันทรมานแค่ไหน" "..." "อ้อ! และภาพที่คุณตอนนี้...ใช่ค่ะ เขาไม่ได้เป็นอะไร เพราะเขาดีขึ้นแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ล่ะ ?" "..." "แล้วคุณรู้อะไรมั้ยคะ พี่จีโน่น่ะเขาแพ้ขนสัตว์ทุกชนิดมากถึงขั้นรุนแรง นี่ถ้าเขามาถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้อีกนิดก็อาจจะถึงตายได้ และคุณอาจจะไม่ได้มาเห็นเขาในสภาพนี้หรือไม่ได้มายืนว่าเขาแบบนี้เลยก็ได้!" "!!!" อยู่ๆสิ่งที่เจ้าขาพูดทำให้ฉันรู้สึกหน้าชาขึ้นมาเสียดื้อๆ อะ...อะไรนะ แพ้ขั้นรุนแรงอาจถึงขั้น...'ตาย' เลยงั้นเหรอ กะอีแค่แพ้ขนสัตว์เนี่ยนะ ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยจริงๆ เหรอ "เจ้าขา...พอแล้ว ออกไปข้างนอกกับพี่" เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเจ้าขาเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างเต็มที่ ผู้ชายคนที่ชื่อเตอร์ก็พูดขึ้นพร้อมกับเดินมาดึงแขนเจ้าขาให้เดินออกไปข้างนอก ตอนแรกเจ้าขาก็ขัดขืนไม่ยอมเดินออกไป แต่พอเจอสายตาดุๆ ของคนที่จับแขนเธออยู่ก็ทำให้เธอยอมเดินตามออกไปอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่วายหันมามองฉันด้วยสายตาโกรธๆ อีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินพ้นประตูออกไป "..." พอเจ้าขาเดินออกจากห้องไปได้สักพัก ฉันก็ค่อยๆ หันกลับมามองคนที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกที่มัน...บอกไม่ถูกเหมือนกัน จะว่าสำนึกที่เจ้าขาพูดมั้ย มันก็ไม่ได้สำนึกขนาดนั้นค่ะ เพราะฉันยังไม่ปักใจเชื่อจริงๆ ว่าแค่แพ้ขนสัตว์มันจะอันตรายถึงชีวิตได้ขนาดนั้น... "ธะ..." ก็อกๆๆ "ขออนุญาตตรวจอาการผู้ป่วยหน่อยนะคะ" ในขณะที่จีโน่จะพูดอะไรก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะ พร้อมคุณหมอที่เดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น "ครับ" จีโน่ตอบพร้อมกับยิ้มให้คุณหมอไปตามมารยาท ส่วนฉันก็เตรียมจะหมุนตัวเดินออกจากห้องนี้ไปเพื่อให้หมอได้ตรวจอาการเขาได้แบบสะดวกๆ และก็อาจจะชิ่งหนีกลับออกไปเลย เพราะก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม "เดี๋ยว!" แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เดินพ้นประตูห้อง จีโน่ก็พูดขึ้นมาก่อน "อะไร" ฉันหันไปถามเขา "อยู่ก่อนสิ ฟังหมอพูดถึงอาการฉันก่อน" พูดจบเขาก็มองหน้าฉันนิ่งๆ คงจะอยากให้ฉันรู้สึกนะว่าอาการเขาเป็นยังไง... ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เลือกที่จะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับมองหมอที่กำลังทำหน้าที่ตรวจอาการเขาอยู่ด้วยสีหน้าเรียบๆ "อาการตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะคะ แต่หมออยากจะให้คุณพยายามเลี่ยงไปในที่ที่ฝุ่นเยอะๆ หรือที่ที่มีสัตว์มีขน เพราะอาการแพ้ของคุณมันไม่ได้ดีขึ้น ถ้ามีสิ่งเข้ามากระตุ้นอาการของคุณอาจจะทรุดลงเร็วกว่าเดิม และอาจจะไม่มียาตัวไหนมารักษาได้" "ครับ" "เพราะจากที่ทีมแพทย์ของเราได้วินิจฉัย การแพ้ของคุณไม่ได้พบได้ทั่วไป เรียกได้ว่าหนึ่งในล้านเลยก็ว่าได้ ยังไงหมอก็ขอให้คุณพยายามอย่าพาตัวเองไปในที่ที่มีมลพิษกันไว้ก่อนดีกว่านะคะ" "...ครับ" "แต่ครั้งนี้คุณโชคดีมากๆ เลยนะคะที่คุณมาโรงพยาบาลได้ทันเวลา แล้วก็โชคดีที่ว่าคุณกินยาแก้แพ้กันไว้ก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็อาจจะไม่ได้ฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ หรืออาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาเลยก็ได้" พูดจบคุณหมอก็ปรับสายน้ำเกลือ ก่อนจะเขียนอะไรก็ไม่รู้ลงไปในชาร์ตผู้ป่วย แล้วส่งมันให้เพยาบาลถือเก็บไว้ "..." หมอหันไปมองหน้าจีโน่นิดนึงก่อนจะหันมามองหน้าฉันแล้วพูดขึ้น "หมอฝากด้วยนะคะ" จากนั้นหมอก็เดินออกจากห้องไปเลยทันที ทำให้ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง "..." ฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ เงียบๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่เริ่มพุ่งเข้าหาตัวฉันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกไป ...นี่ถ้าเกิดว่าเขามาโรงพยาบาลไม่ทัน...เขาก็คงไม่รอด...ฉันก็จะกลายเป็นคนที่มีตราบาปไปตลอดชีวิต ฉันเกือบ...ฆ่า...คนไปแล้ว "เธอกลับไปเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว" เสียงของจีโน่ดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขาอย่างคนไม่ค่อยกล้าสู้หน้าเท่าไหร่ และฉันก็จะไม่อะไรเลยถ้าก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ไปพูดจาแย่ๆ ใส่เขา จะขอโทษก็ปากหนักอีก ฉันมีข้อเสียตรงนี้แหละค่ะคือฉันเป็นคนปากหนัก ชอบพูดอะไรที่ทำให้อีกคนรู้สึกแย่ เป็นนิสัยที่แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย "นาย..." ฉันพูดออกไปเบาๆ พร้อมกับเม้มปากตัวเองเข้าหากันและกำชายเสื้อตัวเองไปด้วยอย่างเกร็งๆ "อะไร?" "นายจะให้...ฉัน...รับผิดชอบนายยังไง?" "หึ" 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD