บ่ายของวันนั้นภัทรกฤชพาหญิงสาวขับรถมาหาของอร่อยทานในร้านอาหารริมน้ำชื่อดังติดบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม มองเลยสายตาไปอีกนิดจะเห็นวัดโบราณเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งชอบสวมใส่ชุดไทยถ่ายรูปกับวัดวาอารามของไทย ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งหรูสวยงามลงตัวทำให้แขกในร้านส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะต้องจองก่อนล่วงหน้า แต่เพราะชายหนุ่มใช้สิทธิพิเศษสนิทกับเจ้าของร้านอาหารชื่อดังเพราะเคยเป็นเพื่อนเชฟที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เมืองนอก ทำให้เขาได้มุมที่นั่งที่ดีที่สุด เห็นทั้งทิวทัศน์ของแม่น้ำและยังมีบรรยากาศของวัดชื่อดังให้ได้มองเห็นความสวยงาม
อาหารที่นี่ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยโบราณเน้นรสชาติจัดจ้านแต่การตกแต่งอาหารสไตล์ฟิลชั่น แบบไทยโมเดิร์น ยิ่งทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบและพึงพอใจจนทำให้มีนักรีวิวจำนวนมากตบเท้าเข้ามามากมาย ยิ่งทำให้ร้านได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากขึ้น
รัญลฎาอดใจไม่ไหวที่จะหยิบกล้องมาถ่ายรูปและคลิปวีดีโออัพลงโซเชี่ยลอย่างน้อยก็เป็นความทรงจำที่ดีของเธอ ข้อดีของการที่เธอและเขาไม่เคยแอดเพื่อนเฟสบุ๊กกันคือเขาไม่เคยรับรู้ หรือเห็นว่าในแต่ละวันเธอโพสอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเขา เธอมักอัพรูปลงในสื่อโซเชี่ยลของเธอเสมอจนเพื่อนๆของเธอรู้จักเขาผ่านช่องทางนี้แม้จะไม่เคยเจอตัวหรือพบหน้ากันเลยสักครั้ง
ในขณะที่ตัวเขาเองนั้น กลับไม่เคยโพสหรืออัพเรื่องราวใดๆที่เกี่ยวกับข้องกับเธอเลยสักนิด หลายครั้งที่เธอแอบเข้าไปส่องดูความเคลื่อนไหวของเขา แม้จะไปสถานที่เดี่ยวกัน รูปวิวทิวทัศน์เดียวกันหรือแม้แต่รูปถ่ายตัวเขาเองเธอจะเป็นคนถ่ายเองกับมือด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะเอ่ยหรือให้เครดิตเธอเลยสักครั้ง เสมือนว่าเราไม่เคยสนิทกันหรือมาด้วยกันจนอดที่จะเก็บมาเสียใจหรือน้อยใจไม่ได้
อาหารที่สั่งถูกจัดเสิร์ฟวางบนโต๊ะ แต่ละจานตกแต่งได้อย่างสวยงามประณีตมีผักแกะสลักเป็นรูปต่างๆพลอยทำให้อาหารในจานดูน่ารับประทานมากขึ้น กอปรกับวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวได้ฉีกยิ้มกว้างมีความสุขมากที่สุด การที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากอีกฝ่าย คอยตักอาหารให้ทาน ได้พูดคุยในเรื่องสัพเพเหระทั่วไป มันทำให้หัวใจของเธออิ่มฟูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ลืมความหมองหม่นขุ่นเคืองในใจก่อนหน้านี้ไปจนสิ้น
เมื่อได้ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ภัทรกฤชที่อยากชดเชยเวลาที่เคยผิดนัดหญิงสาวมาหลายครั้ง จึงตัดสินใจขับรถพาเธอมาดูหนังเรื่องดังที่คราวก่อนพลาดไป โดยครั้งนี้เขาได้จองตั๋วผ่านออนไลน์ไว้เรียบร้อยแล้ว
สองมือที่เกาะกุมประสานกัน คลอเคลียไม่ห่างระหว่างเดินเล่นฆ่าเวลาก่อนหนังจะได้รอบเข้าฉาย สายตาคมกริบของเชฟหนุ่ม สบประสานกับเพื่อนสนิทกำลังควงคู่มากับแฟนสาว ที่เขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดีพลอยทำให้มือที่จับประสานกันก่อนหน้าสะบัดหลุดจากกันแทบจะทันทีราวกับต้องของร้อน
ร่างเล็กเหลือบสายตามองเสี้ยวหน้าคนรักด้วยไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ถาม เสียงคำทักทายจากคนคุ้นหน้าที่เธอเคยได้เห็นผ่านสื่อโซเชี่ยลและรู้จักเขาแต่เพียงข้างเดียวเพราะเคยเห็นภาพถ่ายและการพูดคุยพิมพ์แซวกันตามประสาเพื่อนจากในเฟสบุ๊ก
“อ้าวเห้ย มาทำไรวะ” น้ำเสียงและสายตาของคนถามเจาะจงมองมาที่หญิงสาวหน้าตาสวยหวาน รูปร่างดียืนเคียงข้างเพื่อนสนิทของเขา และถ้าหากเขาตาไม่ฝาดเมื่อครู่ยังเห็นว่าทั้งคู่เดินจูงมือกันมาแต่ไกลแต่เมื่อเพื่อนสนิทตัวดีดันมาเห็นเขาเข้าจึงรีบปล่อยมือออกแทบจะทันที
ทำไมเขาจะไม่เห็นหึ! ธารานึกขบขันเพื่อนในใจ
ใบหน้าเรียบตึงคล้ายกับหงุดหงิดไม่พอใจของภัทรกฤชทำให้หญิงสาวข้างกายมองด้วยความฉงนสงสัย ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับชายหนุ่มเพื่อนสนิทของเขารวมไปถึงแฟนสาวที่ยืนจ้องมองเธอตาเขม็งก่อนแล้วอย่างเป็นมิตร
“มาทำธุระ” เสียงห้าวห้วนตอบคนเป็นเพื่อน พลางถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะหันมาหาเธอเอ่ยกระซิบเสียงเข้มให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“บัวไปเดินเล่นรอพี่ก่อน พี่จะคุยธุระกับเพื่อน”
“ค่ะ” หญิงสาวมองหน้าเขานิ่ง รู้สึกอึ้งเล็กน้อยเพราะคาดหวังเอาไว้ว่าเขาจะแนะนำเธอให้เพื่อนเขาได้รู้จัก แต่กลับบอกให้เธอเดินเล่นรอจึงได้แต่ยิ้มแห้ง เหลือบสายตามองไปทางเพื่อนเขาสลับไปมาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยขอตัวคนทั้งคู่ เดินเลี่ยงไปอีกทาง
“อะไรวะ มึงไม่คิดจะแนะนำให้กูรู้จักหน่อยเหรอ”
“ไม่ต้องหรอก มึงจะอยากรู้จักไปทำไม”
“อ้าว...ก็แฟนเพื่อน”
“บัวไม่ใช่แฟนกู”
“แคทกำลังจะถามพี่พอดี วันก่อนยังบอกต่อหน้าเพื่อนแคทอยู่เลยว่าโสด” สาวตัวเล็กหน้าติดเหวี่ยงเล็กน้อย อดแขวะเขาไม่ได้ด้วยความหมั่นไส้ เพราะลึกๆเธอก็ยังอยากให้เขากลับมาเพื่อนคืนดีกับเพื่อนสนิทตนเอง
“พี่บอกไปแล้วว่าบัวไม่ใช่แฟนพี่”
“เออๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แล้วนี่มาทำไรล่ะ”
“มาทำธุระในห้างนี่ล่ะมึงอย่ามาเซ้าซี้ เดี๋ยวกูไปก่อนละกันไว้ค่อยนัดทานข้าวกันใหม่” ชายหนุ่มชักสีหน้าเล็กน้อย รีบตัดบทเพราะไม่อยากให้ซักไซ้อะไรมากมาย
“เออๆ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ธาราโบกมือให้เพื่อนอย่างเข้าใจ ในขณะภัทรกฤชนั้นเดินแยกตัวออกด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขาเองยังไม่สะดวกใจที่จะให้ใครรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับบัว ที่มันยังไม่รู้ทิศทางว่าตัวเขาจะคบเธอในแบบไหน ลึกๆแล้วเขาเองก็ยังไม่มั่นใจความรู้สึกตัวเองด้วยซ้ำ
เขายอมรับว่าในวันนั้นวันที่เขาได้เจอกับบัวครั้งแรก เขาถูกใจใบหน้าสวยหวาน รอยยิ้มน่ารักๆที่มองเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ ความใส่ใจ คอยออดอ้อนเอาอกเอาใจ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกประทับใจ แม้แววตาจะฉายความเศร้าหมองที่เกิดจากปัญหาชีวิตของเธอในช่วงเวลานั้น แต่เธอกลับมีรอยยิ้มให้กับเขาในวันที่เขาเองก็มีปัญหาชีวิตเพราะเพิ่งเลิกรากับมุกรดาไปได้ไม่นาน เมื่อได้เจอกับเธอที่เข้ามาในชีวิตเขาในช่วงเวลานั้นก็ทำให้หัวใจที่กำลังเสียศูนย์ กลับมารู้สึกดีมีความสุขขึ้นได้บ้าง
ความเหงา ความว้าเหว่ เพราะอยากมีใครมาแทนที่ผู้หญิงที่เขารัก ทำให้เขาเปิดใจให้เธอเข้ามาในชีวิตได้อย่างง่ายดาย แม้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะดูเห็นแก่ตัวมากขนาดไหน และตัวเขาเองก็รู้สึกผูกพันและชื่นชอบเธออยู่ไม่น้อย สามปีกว่าเกือบสี่ปีที่ได้อยู่ด้วยกัน ผ่านความทุกข์และสุขร่วมกันไม่มากก็น้อย
แต่เขาก็ยังไม่พร้อมเปิดใจที่จะให้สถานะกับเธอ หรือป่าวประกาศให้ใครต่อใครรับรู้ ส่วนลึก แล้วเขายังเฝ้ารอและคาดหวังว่าสักวันหนึ่งอดีตคนรักเขาจะกลับมาอีกครั้ง และตอนนี้เธอคนนั้นก็วนเวียนกลับเข้ามาในชีวิตของเขาแล้ว มันทำให้เขาต้องกลับมาคิดหนักและคิดทบทวนตัวเอง ว่าควรคิดหรือตัดสินใจอย่างไรดี
ตลอดสองชั่วโมงกว่านับตั้งแต่เข้ามานั่งชมภาพยนตร์ตัวอย่างจนถึงเรื่องที่เธอและเขาตั้งใจมาดูฉายจนเกือบใกล้จบ คนข้างตัวที่คอยแต่นั่งนิ่งเฉย เย็นชา มองแต่จอภาพยนตร์ตรงหน้านิ่งไม่แม้แต่หันมาสนใจเธอเลยสักนิด ทั้งๆที่เธอพยายามเอ่ยถาม หรือชวนคุยในบางครั้ง แต่ก็ได้รับการตำหนิทางสายตากลับมา เอ่ยชวนทานป็อบคอร์นที่อุตสาห์ซื้อมาถังใหญ่เพื่อหวังจะได้ทานด้วยกันแต่กลับเป็นเธอคนเดียวที่ต้องเป็นฝ่ายหยิบใส่ปาก
ความมึนตึงเฉยชาที่เธอเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราก็ยังดีๆกันอยู่ หัวเราะหยอกเอินเฉกเช่นคู่รักทั่วไป จนรถของเขาขับมาถึงหน้าคอนโดหรูเขาถึงได้เอ่ยกับเธอเป็นคำแรก
“ขึ้นห้องไปก่อนนะ ไม่ต้องรอพี่...นอนได้เลย พี่อาจกลับดึก”
“ค่ะ” หล่อนรับคำ ในใจนั้นก็อยากเอ่ยถาม แต่เพราะกลัวว่าจะละลาบละล้วงเขามาจนเกินไปเธอจึงได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ ก้าวลงจากรถไปอย่างเงียบๆโดยไม่คิดจะถามอะไร ความน้อยใจจู่โจมเข้ามาในห้วงความคิดของเธอทุกขณะที่ก้าวเดิน ทุกจังหวะที่เหลือบสายตามองไปยังรถคันนั้นที่ค่อยๆขับเคลื่อนออกไปห่างไกลสายตาเธอเรื่อยๆความเหงา ความว้าเหว่ในใจ เริ่มเกาะกินพื้นที่ข้างในหัวใจเธอเงียบๆ
ความรู้สึกอ่อนไหว ไม่มั่นคงเข้ามาในความรู้สึกนึกคิดของเธอเรื่อยๆ
เขาถึงว่าความไม่ชัดเจน นั่นล่ะคือความชัดเจน!
มันทำให้เธออดที่จะตั้งคำถาม และสงสัยไม่ได้ว่าเธอจะต้องอยู่ในเงามืด ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม้แต่คนในที่ทำงานซึ่งเป็นสังคมเดียวกัน ก็ต้องเป็นความลับ เพราะเขาไม่อยากให้ใครคิดหรือสงสัย ว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์กันถึงขั้นไหน เพียงเพราะคำกล่าวอ้างของเขาในวันนั้นว่าไม่อยากถูกสังคมในที่ทำงานคอยจับจ้อง ซึ่งก็ทำให้เธอเข้าใจได้ แต่วันนี้แม้กระทั่งเพื่อนของเขาเอง เขาก็ไม่คิดแม้แต่จะแนะนำให้เธอได้รู้จัก เสมือนมีเส้นแบ่งโลกของเขาและโลกของเธอมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆจนเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะทนอยู่กับความรู้สึกนี้ไปได้นานอีกแค่ไหน
รัก...และรักมาก รักจนลืมแม้แต่ที่จะรักตัวเอง เพียงเพราะคิดว่าถ้าหากไม่มีเขาเธออาจจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ
หยดน้ำตาไหลรินอาบแก้ม ก่อนจะปาดทิ้งเดินเข้ามาในห้องชุดสุดหรูของเขาที่เธอใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่นี่ หลังจากที่เขาขอให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่ต้องไปๆมาๆระหว่างห้องเขาและห้องเธอ และเธอก็ใจง่าย ยินยอมที่จะเก็บกระเป๋ามาอยู่กับเขา ทั้งๆที่ยังไม่มีสถานะแน่ชัดด้วยซ้ำ
เป็นเธอเองนั้นล่ะ ที่เที่ยวทึกทักไปเองว่าเขาเป็นคนรักเธอ! แต่เธอล่ะ เป็นคนรักของเขาไหม!!!