วันนี้เป็นวันทำงานอย่างจริงจังวันแรกหลังจากที่สองวันก่อนหน้านี้สาริศาเข้าไปรายงานตัวกับหัวหน้าสำนักงานหอสมุดมาแล้วเธอก็พอจะทราบเครือข่ายงานคร่าวๆ ว่าเธอต้องทำงานที่หอสมุดเป็นหลักแต่ก็อาจจะมีหมุนเวียนไปตามห้องสมุดคณะต่างๆ ถ้าหากว่าช่วงนั้นบรรณารักษ์ประจำคณะไม่อยู่
สาริศาค่อนข้างตื่นเต้นหญิงสาวแต่งตัวเสร็จตั้งแต่เจ็ดนาฬิกาและรอให้ถึงเวลาแปดนาฬิกาเพราะเธอนัดกับปีขาลไว้
พอถึงเวลาแปดนาฬิกาตรงหญิงสาวเปิดประตูออกมากำลังลังเลว่าจะกดออดเรียกปีขาลดีหรือเปล่าแต่มือเล็กๆ ที่กำลังจะเอื้อมก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเขาเปิดประตู
“ทำไมอาเสือยังใส่ชุดนี้อยู่คะ หนูต้องรีบไปทำงานแล้วนะ” หญิงสาวโวยวายเมื่อเห็นปีขาลสวมกางเกงวอร์มกับเสื้อยืดดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนพร้อมจะไปทำงานเลย
“อาก็กำลังจะไปส่งเจ้าเอยอยู่นี่ไง ถ้าไม่อยากสายก็เดินตามมา” ปีขาลก้าวเท้ายาวๆ เดินนำหน้าสาริศาวิ่งตาม
“แล้วทำไมเอาเสือยังใส่ชุดนี้ล่ะคะ”
“อาไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทแต่เช้าหรือเข้าบริษัททุกวันหรอกนะเจ้าเอย”
“หนูลืมไปค่ะว่าอาเสือเป็นเจ้าของบริษัท แล้วแบบนี้ลูกน้องจะไม่ว่าอะไรเหรอคะ เจ้านายไปทำงานสาย” หญิงสาวถามขณะที่เขากำลังกดปิดประตูลิฟต์
“มีลูกน้องที่ไหนมันนินทาเจ้านายบ้างล่ะ”
“มีเยอะแยะไปค่ะ ตอนหนูไปฝึกงานนะพอเจ้านายไม่อยู่พวกเขาก็นินทา”
“รวมถึงเธอด้วยใช่ไหมล่ะ”
“ก็มีนิดหน่อยค่ะ บริษัทของอาเสือก็คงจะมีเหมือนกันนั่นแหละ”
“มันก็มีทุกที่อย่างที่เธอว่านั่นแหละแต่อาไม่สนใจหรอกจะถ้าทำงานออกมามีประสิทธิภาพก็ไม่เห็นจะต้องสนใจเลย”
“แล้วตอนเย็นอาเสือจะไปรับหนูหรือเปล่า”
“ถ้าอาไม่ไปรับเจ้าเอยจะกลับคนเดียวได้ไหมล่ะ” เพราะสองวันมาที่ผ่านมาเขาเธอไปส่งที่มหาวิทยาลัยและพยายามสอนเธอว่าเวลาต้องขึ้นรถไฟฟ้าต้องลงที่สถานีไหมถึงจะใกล้ที่สุด
“หนูยังไม่กล้ากลับคนเดียวอาเสือไปรับได้ไหมคะ”
“ถ้ายังไม่กล้ากลับคนเดียวแล้วจะถามทำไม ว่าอาจะไปรับไหม” ปีขาลรู้สึกหงุดหงิดเพราะปกติแล้วเขาไม่ใช่คนตื่นเช้าเท่าไหร่
ระยะทางจากคอนโดมิเนียมของเขาไปมหาวิทยาลัยที่สาริศาทำงานอยู่กินเวลาไม่ถึงสิบนาที
“อย่าลืมมารับหนูนะคะอาเสือ”
“รู้แล้วไม่ต้องย้ำแล้วจะให้มารับกี่โมง” ปีขาลถามเมื่อจอดรถหน้าสำนักหอสมุด
“เดือนนี้หนูเลิกงานประมาณห้าโมงเย็นค่ะ”
“หมายความว่ายังไงเดือนนี้เลิกงานห้าโมงเย็นแล้วเดือนหน้าล่ะ”
“เดือนหน้าก็แล้วแต่ว่าวันไหนจะเลิกงานตอนไหน เพราะหอสมุดปิดสองทุ่มถ้าเป็นช่วงสอบก็ปิดสี่ทุ่ม”
“แล้วเธอไม่ต้องทำงานตั้งแต่เช้าถึงสี่ทุ่มเลยเหรอ”
“ถ้าวันไหนต้องทำถึงสี่ทุ่มหนูก็เข้างานประมาณสิบโมงค่ะเราจะสลับกันไปไม่ได้ทำดึกทุกวันสักหน่อย”
“แล้วมีวันหยุดกับเขาไหมล่ะ” ชายหนุ่มไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะสมัยที่ตนเองเรียนก็ไม่ได้ค่อยเข้าห้องสมุดเลย
“วันเสาร์ทำงานเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นค่ะ แต่ก็จะมีบางเสาร์ที่เราได้หยุดส่วนวันอาทิตย์และก็วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ได้หยุดเหมือนคนอื่น” เธออธิบายตามที่หัวหน้าบอก
“ค่อยยังชั่วหน่อยนึกว่าจะทำงานตลอด”
“ใครเขาจะทำงานตลอดทั้งเจ็ดวันแบบนั้นล่ะคะ”
“เย็นนี้ก็รออยู่ที่นี่เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ”
หญิงสาวมาถึงก่อนเวลาทำงาน 15 นาทีเธอตอกบัตรเข้างาน จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งรอหัวหน้าหอสมุดเพราะวันนี้นอกจากเธอจะมาทำงานเป็นบรรณารักษ์แล้วยังมีเจ้าหน้าที่หอสมุดยังมีพนักงานอีกสองคนที่มาเริ่มงานพร้อมกับเธอ
สำนักหอห้องสมุดแห่งนี้เป็นหอสมุดขนาดใหญ่เดิมที่มีบรรณารักษ์อยู่แค่สองคนและทางมหาวิทยาลัยก็รับเธอมาเพิ่มซึ่งกว่าสาริศาจะได้มาที่นี่ทำงานที่นี่ก็ต้องมีการสอบแข่งขันทั้งข้อเขียนสอบปฏิบัติและสอบสัมภาษณ์วุ่นวายไปหมดแต่เธอก็สามารถผ่านด่านนั้นมาได้อย่างดี
“มาแต่เช้าเลยนะเจ้าเอย”
“สวัสดีค่ะพี่หญิง สวัสดีค่ะพี่แป้ง” สาริศายกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองที่ตามมาทีหลังเธอไม่ถึงห้านาที
“สวัสดีจ้ะเจ้าเอย เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บด้านหลังนะที่นี่จะมีล็อกเกอร์ให้ไว้เก็บของมีค่า”
“ค่ะพี่แป้ง” สาริศาเดินตามรุ่นบรรณารักษ์ไปยังห้องทางด้านหลัง
ห้องล็อกเกอร์เป็นห้องไม่กว้างมากมีล็อกเกอร์อยู่ประมาณ 20 ล็อก ตรงกลางห้องครึ่งมีโต๊ะสองตัววาง มุมหนึ่งเป็นตู้เย็นและมุมกาแฟ
“ที่นี่จะเป็นห้องพักนะ เอยเราสามารถเข้ามาพักที่นี่ได้ถ้าถึงเวลาพักของเรา มุมกาแฟกับขนมตรงนั้นใครจะกินอะไรก็ได้พวกเราจะผัดกันซื้อมาน่ะ”
“แต่วันนี้เอยยังไม่ได้ซื้อมาเลย”
“ไม่เป็นไรเอยก็กินของพี่ๆ ไปก่อนเอาไว้โอกาสหน้าก็ค่อยซื้อมาเติมก็ได้ ส่วนการทานข้าวจะทานที่นี่หรือจะไปทานที่โรงอาหารของมหาลัยก็ได้นะแต่ที่นั่นคนจะเยอะหน่อยแล้วก็มีอีกที่ตรงตึกคณะวิศวะตรงนั้นจะมีก็จะมีร้านอาหารเหมือนกัน”
“แล้วส่วนใหญ่พี่ๆ ที่นี่เขาจะทานข้าวที่ไหนกันเหรอคะ”
“คนอื่นก็ไปทานโรงอาหารของมหาลัยบ้างออกไปกินข้างนอกหรืออาจจะสั่งมาทานที่นี่ก็ได้ ส่วนก็ทำมาจากบ้าน”
“พี่แป้งขยันจังเลยนะคะ”
“พี่ไม่ได้ขยันอะไรหรอกเอยพี่เป็นความดันโลหิตสูง ทานอาหารนอกบ้านไม่ค่อยได้เพราะเขาจะใส่ผงชูรสเยอะก็เลยเลือกที่จะทำมาจากบ้านดีกว่า แต่ถ้าช่วงไหนยุ่งจริงๆ ก็ต้องพึ่งร้านค้าแต่ก็ต้องบอกเขาว่าไม่ใส่ผงชูรส เดี๋ยวเราเก็บของและแล้วออกไปข้างนอกนะเดี๋ยวพี่จะแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น”
“ค่ะพี่แป้ง” สาริศาเอาของเก็บในล็อกเกอร์ล็อกกุญแจและเดินตามพี่ปิยธิดาหรือพี่แป้งออกไป