ตอนที่ 7 นอนแก้ผ้า

1289 Words
เธอเงยหน้าขึ้นมองกระจกเธอเห็นว่านฤดลปลดกระดุมเสื้อเสร็จสิ้น และถอดเสื้อเชิ้ตออกจากร่างกาย ทำให้เธอเห็นซิกแพคเป็นลอนสวย เขาปลดหัวเข็มขัดออกมา และปลดกางเกงลงมาด้วย เธอเห็นความเป็นชายของเขาที่มันทั้งใหญ่และยาวจนน่าตกใจ เธอจึงเมินหน้าหนีขณะที่ใบหน้าของเธอนั้นร้อนผ่าวอย่างยิ่ง เธอจึงรีบบ้วนปาก ล้างแปลงจนหมดฟอง วางแปลงที่ชั้นวาง และก้าวเดินออกไปโดยทันที การกระทำของเธอเช่นนี้ ทำให้เขาเผยยิ้มทันที เพราะรู้ว่าเธอเองก็มีความรู้สึกต้องการเขาเช่นกัน แต่เธอคงต้องการเวลา และรักษาระยะห่างไม่ให้หวั่นไหวไปกับเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบของเขา นฤดลก้าวเดินออกจากห้องน้ำทอดสายตามองโรซารี่นอนหันหน้าไปทางหน้าต่าง เขามองเธอด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอนอนระส่ำระสายไปมา ราวกับว่าเธอมีเรื่องว้าวุ่นในใจ และหมุนกลับมามองเขาที่มีสภาพที่เปลือยเปล่าเช่นนี้ เธอจึงหันหลังกลับไปทางหน้าต่างอีกครั้ง และข่มตาลง เขาจึงก้าวเดินขึ้นมานอนบนเตียง ไอเย็นและกลิ่นหอมสบู่ของเขาทำให้เธอรู้สึกได้ “ทำไมคุณถึงไม่ใส่เสื้อผ้านอน” โรซารี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะที่หลับตาอยู่ “ผมนอนแก้ผ้าแบบนี้ทุกคืน” นฤดลเอ่ยบอกเช่นนี้ ขณะที่เขานอนตะแคงข้างมองเธอ “คุณไม่ได้นอนคนเดียวนะ” “ใช่ผมไม่ได้นอนคนเดียว เพราะผมนอนกับคุณเมีย” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม “อย่าเรียกฉันแบบนี้ไงเล่า” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน และลืมตาขึ้น “คุณเมีย” นฤดลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายเสียงกระเส่า ทำให้เธอขนลุกขึ้นมาทันที “บอกว่าอย่าเรียก” “ผมจะเรียก เมียจ้า” นฤดลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงยั่วยวน เธอชักสีหน้าไม่พอใจทันที แต่ว่าเธอกลับมองเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของเขา มันทำให้เธอรู้สึกเร่าร้อน แอบกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เขาเผยรอยยิ้มที่เธอกำลังมองเธอร่างของเขา เขาจึงนอนหงายโดยทันที ราวกับว่าโชว์เรือนร่างเปลือยเปล่าให้เธอเห็นได้ชัด “เย็นสบายดีจัง” นฤดลเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มและหลับตาลง โรซารี่จึงรีบเมินหน้าไปทางอื่น แล้วใช้มือดึงผ้าห่มที่อยู่บนตัวเธอโยนใส่เขา ทำให้เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง “หัดอายผีสางบ้าง ไม่ใช่มานอนแก้ผ้าแบบนี้” โรซารี่เอ่ยบอกเช่นนี้ “โรส ผมรู้ว่าคุณกลัวใจตัวเองใช่ไหม” เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่” เธอเอ่ยบอกเสียงแข็ง “ถ้าไม่ใช่ก็นอนลง” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอนอนลงหันไปทางหน้าต่างอีกครั้ง เขาจึงเอาผ้าห่มคลุมเรือนร่างของเธอ เธอกลับนิ่งสงบไม่โต้ตอบเขาแต่อย่างใด นฤดลก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลเขาก้าวเดินไปที่แผนกกุมารเวชของโรงพยาบาลชื่อดัง เขาเดินมายังห้องตรวจหนึ่ง ตรงหน้าห้องตรวจติดชื่อว่า นพ. อัฐพล เทียบนภา นฤดลจึงผลักประตูเข้าไป มองเห็นอัฐพลกำลังถอดเสื้อกาวน์ แล้วหันมามองนฤดลด้วยความตกใจ “ดล ลมอะไรหอบมา เพราะหลังจากที่ฉันได้เจอนาย ในงานแต่งได้เดือนเดียว ทำไมหน้านายจึงหมองคล้ำเช่นนี้” อัฐพลเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ฉันนอนไม่ค่อยหลับ” นฤดลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย และนั่งลง “ทำภารกิจหนักไปเหรอ แต่นายนอนกับผู้หญิงทีละหลายคน แต่ไม่เคยโทรมแบบนี้ หรือว่าเมียของนาย...” อัฐพลเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และนั่งบนเก้าอี้ที่มีโต๊ะขาวกั้น “ไม่ใช่ ฉันยังไม่ได้มีอะไรกับเธอ” นฤดลเอ่ยบอกเช่นนี้ ทำให้อัฐพลหัวเราะขึ้นมา “เรื่องล้อเล่นใช่ไหม” “เรื่องจริง” นฤดลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้อัฐพลหุบปากลงโดยทันที “เพราะอะไร เธอถึงไม่ยอมมีอะไรกับด้วย” อัฐพลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันกำลังหาสาเหตุ เลยมาถามนาย ทำอย่างไงที่ทำให้เมียใจอ่อน ฉันเองก็อยากมีลูก อายุฉันก็เข้าเลขสามแล้ว” นฤดลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกังวลใจ “ฉันไม่ใช่นักจิตวิทยานะ ฉันเป็นกุมารเวช รักษาเด็ก จะให้มานั่งอ่านใจคนมันไม่ได้หรือเปล่าวะ” อัฐพลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เมียฉันไม่ยอมมีอะไรกับฉันเลย แล้วฉันควรทำอย่างไงดี” “ดล ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา รอให้เธอเปิดใจที่จะรับนายเข้ามาในใจของเธอ มันไม่ยากหรอก ถ้านายทิ้งอดีต ผู้หญิงที่นายเคยสนุกด้วย” อัฐพลเอ่ยบอกเช่นนี้ “ฉันก็ไม่ได้นอนกับพวกเธอแล้วนะ” นฤดลเอ่ยถามความจริง เพราะหลังที่แต่งงานมาเกือบเดือน เขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในบ้าน แม้แต่คนเดียว “พาเธอไปกินข้าวนอกบ้าน หรือพาไปฮันนีมูนก็ดีเหมือนกัน” อัฐพลเอ่ยบอกเช่นนี้ ทำให้นฤดลเผยยิ้มกว้าง “ขอบใจนะไอ้หมอ นายช่วยได้เยอะเลย” “ด้วยความยินดี” “เมียฉันท้องเมื่อไหร่ ฉันจะพาเธอมาฝากครรภ์กับนาย” นฤดลเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และลุกขึ้นยืน “ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่า ฉันเป็นกุมารเวช ไม่ใช่สูตินารี” อัฐพลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ขณะที่นฤดลออกไปแล้ว วายุก้าวเดินเข้ามาในห้องโถงนั่งเล่น ไม่เห็นโรซารี่นั่งอยู่ในห้องโถง เขากลับได้กลิ่นวานิลลาหอมหวาน และได้ยินเสียงของโรซารี่กับดวงใจอยู่ในห้องครัวที่หยอกล้อเล่นกัน วายุจึงเดินเข้าไปในครัว เห็นว่าโรซารี่อยู่หน้าเตาแก๊สกับดวงใจ เขาก้มหัวเล็กน้อย “นายหญิงครับ” วายุเอ่ยบอกเช่นนี้ ทำให้โรซารี่หยุดกวนช็อกโกแลตในหม้อ ดวงใจจึงสานต่อเธอทันที “มีอะไรหรือวายุ” โรซารี่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “นายท่านให้นายหญิงแต่งตัว และไปหาท่านที่ร้านอาหารที่ท่านจองเอาไว้” วายุเอ่ยบอกเช่นนี้ โรซารี่แปลกใจอยู่ไม่น้อยว่า ทำไมนฤดลพาเธอออกไปทานข้าวนอกบ้าน หรือว่าเขาอยากเปลี่ยนบรรยากาศให้เธอออกไปสู่โลกภายนอก “ได้ขอเวลาฉันหน่อย” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม แล้วให้ไปหาดวงใจที่กวนช็อกโกแลตแทนเธอ “พอละลายเสร็จก็ใส่แป้นพิมพ์เหมือนอันเมื่อกี้นะ” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ค่ะนายหญิง” ดวงใจเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงก้าวเดินออกจากห้องครัวขึ้นไปยังบนบ้าน โรซารี่ก้าวเดินมายังหน้าบ้าน เห็นว่าบอดี้การ์ดสองคนรวมถึงวายุที่ยืนรอเธออยู่ เธอจึงก้าวเดินไปที่รถ วายุมองโรซารี่ที่แต่งชุดเดรสคอถ่วงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง อีกทั้งสั้นยาวเพียงสองคืบสีเงินเลื่อมประกายวิบวับ บนเรียวเท้าของเธอสวมส้นสูงถึงสีนิ้ว แต่งหน้าโทนอ่อนริมฝีปากสีแดงสด ทำให้เขารู้สึกว่าเธอแปลกไปอย่างมาก เพราะเธอไม่เคยแต่งหน้าหรือแต่งตัวแบบนี้มาก่อนอย่างใด อย่าลืมเข้ามากดหัวใจและคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยน๊าาาาาา 1 เม้นท์ 1 กำลังใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD