บทที่ 4 คนฉวยโอกาส 2/2

1086 Words
‘โควิดเพิ่งจะซาไป หวังว่าคงไม่มีเชื้ออะไรสายพันธุ์ใหม่อีกหรอกนะ’ มาวินได้แต่ภาวนาไม่ให้เรื่องมันเลวร้ายลง เมริษาที่รับหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก็แวะเวียนมาดูสามหนุ่มที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยง เธอก็อดเป็นห่วงทุกคนไม่ได้เช่นกัน ในซากปรักหักพังนั้นพร้อมจะทับร่างของใครสักคนตลอดเวลา เขากันทุกคนออก และมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเข้าไปในพื้นที่ได้ เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็จำต้องยืนให้กำลังใจห่าง ๆ “หมอเมย์ หมอเมย์ ทราบแล้วเปลี่ยน” วิทยุสื่อสารดังขึ้นในกระเป๋าเสื้อกาวน์ของเมริษา เธอล้วงมันออกมาเพื่อตอบกลับ “แจ้งประสานขอห้องผ่าตัดด่วน คนไข้ต้องผ่าตัดหลังช่วยออกไปได้” ชวกรแจ้ง เพราะตอนนี้เหล็กใกล้ตัดหลุดออกแล้ว “ทราบแล้วค่ะ” เมริษาจัดการไปประสานงานกับหน่วยแพทย์อื่นขอห้องผ่าตัด แต่ทุกที่ปฏิเสธการรับผู้ป่วยทั้งหมดเนื่องจากห้องปลอดเชื้อไม่มีห้องไหนว่าง แล้วพื้นที่ในเมืองนี้ก็เป็นเมืองที่ไม่เจริญ “พี่กรคะ ห้องผ่าตัดเต็มหมดเลยค่ะ” เสียงขอเธอดังขึ้นผ่านวิทยุสื่อสาร ‘เรียกคนอื่นพี่ เรียกเขาคุณหมายความว่าอะไร’ แม้จะหงุดหงิดแต่งานตรงหน้าก็สำคัญ จึงเลิกสนใจส่วนนี้ไปก่อน ค่อยไปชำระความกับเธอทีหลัง “หาให้ได้สักที่ ไม่มีหมอฉันจะผ่าเอง” เสียงอ้อนวอนของคนไข้ที่บอกว่ามีลูกที่ยังเล็กต้องดูแลทำให้คนเป็นหมอจะทิ้งให้เขาตายไม่ได้ ครอบครัวขาดที่พึ่งอยู่ในเมืองนี้ลำบาก เมืองที่เต็มไปด้วยผู้ชายที่เป็นผู้นำครอบครัว “ค่ะ...จะพยายาม” เมื่อเสียงสั่งการอย่างคนเอาจริง เอาจังของมาวินดังขึ้นเมริษาก็ต้องจัดการให้ดีที่สุด เธอไม่รู้หรอกว่าจะมีที่ไหนไหมแต่เธอจะทำให้เต็มที่ พื้นที่หน้างานส่วนช่วยเหลือคนเจ็บนั้นเต็มไปด้วยความเครียดและการลุ้นระทึกเอาใจช่วยของทุกคน หวังให้คนที่ติดใต้ซากนั้นปลอดภัย “1 2 3 ยก” เสียงสัญญาณสั่งให้ยกท่อนปูนที่ทับร่างอยู่ออก แล้วทั้งหมดก็ช่วยกันนำผู้ป่วยออกมา “เย่ๆ ๆ ๆ ” เสียงปรบมือให้กับทีมกู้ภัยเมื่อทำการยกร่างชายที่ติดใต้ซากออกมาได้ “คณิณประคองเอาไว้ อย่าให้ร่างพลิก” มาวินสั่งเสียงเครียด เขาประเมินจากอาการแล้วน่าจะรั้งไว้ได้สักครึ่งชั่วโมง “คุณหมอมาวินคะ ได้แล้วค่ะ” เธอรีบวิ่งมาบอกเขาเมื่อเมืองใกล้ ๆ มีห้องผ่านตัดฉุกเฉิน “ที่ไหน” “เมืองใกล้ ๆ ห่างจากนี่ราวยี่สิบกิโลเมตร” เธอบอกเขา “เอาตัวขึ้นรถประสานทางโน้นเตรียมเครื่องมือผ่าตัดแล้วก็เป็นหมอผ่าตัดช่วยฉันด้วย” เขารู้สึกล้าเล็กน้อยที่ไปช่วยงัดแงะร่างของชายคนเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับให้เขาขณะนั่งในรถไปด้วยกัน ชายหนุ่มหันมายิ้มให้เธอบาง ๆ รู้สึกดีไม่น้อยที่เธอยังเป็นห่วงเขา “กลัวคนไข้ไม่มีหมอผ่าตัดค่ะ” เธอว่าอย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั้นของเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจหรอก อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ตัดเยื้อใยจากเขาเลยเสียทีเดียว ‘แค่นี้ก็ดีมากแล้ว’ เมื่อคนไข้นำตัวเข้ามาในโรงพยาบาลมาวินและ เมริษาก็เข้าไปร่วมกันผ่าตัด เมริษาสังเกตว่าเขาจริงจังกับงานมากในห้องผ่าตัดแล้วพาลให้เธอเริ่มเกร็งไปด้วย เธอนำผ่าเปิดแผลแล้วให้เขาเข้ามาจัดการต่อในส่วนที่สำคัญ การผ่าตัดเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเมื่อความดันของคนไข้เริ่มตก และมีเลือดออกมาก “เพิ่มเลือด” เหล่าพยาบาลที่อยู่ในหน้าที่นั้นบีบเลือดให้กับคนไข้เร่งให้เลือดเข้าสู่ร่างกายเร็วขึ้น นาทีชีวิตของคนไข้ที่มีหมอผู้มีประสบการณ์นำผ่าตัดถือว่าโชคดี ไม่นานการผ่านตัดก็จบไปด้วยดี “จัดการต่อที่เหลือให้หน่อย” เขาวางมีดผ่าตัดลงในถาดแล้วก็ออกไปยืนยืดเส้นอยู่ข้าง ๆ เธอที่เย็บปิดปากแผล “มือนิ่ง ๆ เย็บสวย ๆ ” เมื่อเห็นเธอสั่นนิด ๆ เขาก็คอยพูดอยู่ใกล้ ๆ เมริษาสูดหายใจลึก ๆ แล้วก็ตั้งใจเย็บต่อไป ‘ที่สั่นเพราะเขานั่นแหละไม่ใช่คนอื่นเลย’ “เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณทุกคนมาก” เธอยืนขึ้นโค้งให้อย่างขอบคุณคนที่ร่วมผ่าตัดจนผ่านได้ด้วยดี ส่วนอีกคน นั้นเขายืนจ้องเธอเสียจนขยับมือไม่ออก ขณะยืนล้างมืออยู่ เขาก็มายืนข้าง ๆ ของเธออีก “เพิ่งผ่าครั้งแรกหรือไงทำไมต้องสั่นขนาดนั้น” เขาว่าพลางล้างมือไปด้วย “ชิ!” เธอไม่ว่าอะไร แล้วเดินออกมา ‘ใครจะเก่งเทพแบบเขากันเล่า’ หญิงสาวออกมาหาน้ำดื่มแล้วก็นั่งพัก เริ่มงานวันแรกก็เจอของหนักเสียแล้ว ชวกรกับคณิณกลับไปที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเธอและเขาที่ต้องกลับไปทีหลัง เมื่อเขามานั่งข้าง ๆ เธอจึงส่งน้ำเย็นให้ “ขอบคุณครับ” เขาเปิดขวดยกขึ้นดื่ม รู้สึกว่าตอนพบกับเธอครั้งนี้ดีไม่น้อย “ทำไมเรียกชวกรว่าพี่ แล้วเรียกผมว่าคุณ ห่างเหินไปนะ” “ก็ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทกันเสียหน่อย” “แล้วอยากแนบชิดสนิทไหมล่ะ” สายตามาวินกวาดมองเธอตั้งริมฝีปาก หน้าอก จวบจนส่วนกึ่งกลางกายที่เคยได้ไปเยี่ยมชมมาเมื่อห้าปีก่อน พร้อมกับคลี่ยิ้มจนปากขึ้นเป็นรูปหัวใจ สายตากรุ่มกริ่มที่มองมายังเธอ ทำเอาหัวใจของร่างบางเต้นโครมครามจนแทบหลุดออกมาอีกแล้ว เขาโน้มกายลงมาใกล้อีกนิด แต่เธอไม่อยู่ให้เขาแกล้งเป็นหมาหยอกไก่อีกแล้ว เมริษาลุกขึ้นพรวดแล้วเอ่ยตัดบท “กลับกันได้แล้วจะมืด” ขณะนั่งไปในรถของโรงพยาบาลที่มาใช้ห้องผ่าตัดพาไปส่งยังที่พักชั่วคราว ในรถเต็มไปด้วยความเงียบงัน หญิงสาวสับสนว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD