"ถวายบังคมเพคะ ฝ่าบาท" นางกำนัลของพระสนมบีนูถวายบังคมองค์ฟาโรห์ทันที
"ทำไมเจ้าไม่ไปอยู่กับบีนู" องค์ฟาโรห์ตรัสถามด้วยความสงสัย
"ทูลฝ่าบาท สนมเอกทรงเป็นไข้มาสองสามวันแล้วเพคะ" นางกำนัลของพระสนมเอกบีนูทูลบอกองค์ฟาโรห์ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
องค์ฟาโรห์เสด็จจากตรงนี้อย่างรวดเร็วไปยังตำหนักสนมเอกทันที พอได้ถึงตำหนักของนาง พระสนมเอกบีนูก็ทรงบรรทมอยู่บนพระแท่น องค์ฟาโรห์นั่งลงบนพระแท่นบรรทมทันที องค์ฟาโรห์จับพระเศียรของพระนางแผ่วเบา กลับร้อนราวกับไฟสุม
"ฝ่าบาทมาหาหม่อมฉันจริงๆ ด้วย" พระสนมเอกบีนูตรัสด้วยสุรเสียงแผ่วเบา
"เจ้าเป็นไงบ้าง" องค์ฟาโรห์คาโมสตรัสถาม
"หม่อมฉันยังไม่เป็นอะไรมากหรอกเพคะ...แค่ก...แค่ก..." พระนางตรัสเช่นนี้ แล้วทรงไอออกมา แล้วลุกขึ้นประทับนั่ง องค์ฟาโรห์ทรงเข้ามาประคองพระนางทันที
"ฝ่าบาทกินน้ำก่อนซิเพคะ ฝ่าบาทเดินมาตั้งไกล" พระนางตรัสเช่นนี้ แล้วทรงรินพระสุธารสถวายให้พระองค์ (พระสุธารส แปลว่า น้ำดื่ม)
"ก็ได้" องค์ฟาโรห์คาโมสตรัสเช่นนี้ แล้วรับถ้วยทองคำจากพระนาง แล้วเสวยพระสุธารสทันที แต่หารู้ไหมว่า พระสุธารสที่เสวยไปนั่นเป็นยากำหนัดอ่อนๆ ที่พระนางใส่ไว้ให้พระองค์เสวย
"ข้าจะกลับตำหนักไปสะสางงาน" พระองค์ตรัสด้วยพระสุรเสียงเรียบเฉย
"ไม่อยู่เป็นเพื่อนหม่อมฉันหรือเพคะ" พระสนมเอกตรัสถามแผ่วเบาราวกับทรงอ้อนให้องค์ฟาโรห์ประทับอยู่ต่อ องค์ฟาโรห์หันไปทอดพระเนตรพระนาง และประคองพระนางให้ประทับนอน
"ไม่ เจ้าพักผ่อนเถิด" องค์ฟาโรห์คาโมสตรัสเรียบเฉย แล้วทรงลุกขึ้นประทับยืนเสด็จออกตำหนักไปทันที พระนางได้แต่นึกเสียพระทัยว่า
ทำไมต้องใส่ยากำหนัดอ่อนให้พระองค์เสวย น่าจะใส่ให้มันแรงๆ กว่านี้
องค์ฟาโรห์คาโมสที่เสด็จกลับตำหนักตะวันออกได้ชั่วครู่ พระองค์ทรงรู้สึกร้อนรุ่มระส่ำระสาย จึงรีบเสด็จกลับตำหนักทันที โดยมีพระดำริว่า
อาจจะไม่สบายก็ได้ ถึงทำให้รู้สึกเช่นนี้ หรือบีนูใส่ยากำหนัดให้ข้าดื่ม
อารอสก้าวเดินเข้ามาภายในห้องพระบรรทมเห็นองค์ฟาโรห์เสด็จเข้ามาในพระตำหนัก ด้วยท่าทีที่กระวนกระวายยิ่งนักจึงรีบเข้าไปถามพระองค์ทันที
"ฝ่าบาทเป็นอะไรหรือพระเจ้าค่ะ" อารอสทูลถามเช่นนี้ แล้วจึงเข้ามาประคองพระองค์เข้ามาในห้องพระบรรทม
"อารอส ข้าโดนยากำหนัด รีบพาข้าไปหาอาร์ทีน่า"
องค์ฟาโรห์คาโมสตรัสแผ่วเบา ทรงรู้องค์เองตั้งแต่จะออกจากตำหนักพระสนมเอกบีนูไม่ตรัสสิ่งใดกับพระนาง ถ้ายังคงอยู่กับพระสนมเอกเช่นนั้น พระองค์คงไม่ได้ออกจากตำหนักพระนางแน่แท้
"พระเจ้าค่ะ"
อารอสน้อมรับพระราชบัญชาทันที เขาจึงประคองพระองค์ และข้าหลวงเข้ามาช่วยกันประคองที่พระสติเริ่มจะหลุดลอยเสียแล้ว
"องค์หญิง"
อารอสทูลเรียกองค์หญิงอาร์ทีน่าเข้าไปในตำหนักตะวันตก ขณะที่พระนางกำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันกับเหล่านางกำนัล
"องค์หญิงอาร์ทีน่า องค์หญิงอาร์ทีน่าพระเจ้าค่ะ"
อารอสตะโกนสุดเสียงจากนอกพระตำหนัก กลัวว่าพระนางจะทรงบรรทมไปแล้ว
องค์หญิงอาร์ทีน่า และเซียร่าลงมาจากตำหนัก ตรงมาหาเขากับองค์ฟาโรห์คาโมสที่เขาประคองอยู่ ความเป็นชายในใต้สาบพระภูษานั้นตรงอยู่ใต้ผ้าสีดำขององค์ฟาโรห์คาโมส และเริ่มขยายใหญ่แทบจะล้นออกมาจากพระภูษา
"มีอะไรหรือ อารอส แล้วฝ่าบาททรงเป็นอะไร" องค์หญิงถามด้วยความตกใจ ทอดพระเนตรเห็นหน้าองค์ฟาโรห์คาโมสแดงก่ำเช่นนี้
"แล้วพรุ่งนี้หม่อมฉันจะเล่าให้ฟัง วันนี้หม่อมฉันขอร้องเจ้าหญิงอยู่เป็นเพื่อนฝ่าบาทได้ไหมพระเจ้าค่ะ ได้โปรด" อารอสทูลขอร้องพระนาง
"ได้พาฝ่าบาทกลับตำหนักเลย ข้าจะเดินตามเจ้าไป" องค์หญิงอาร์ทีน่าตรัสเช่นนี้ ทอดพระเนตรเห็นว่าองค์ฟาโรห์ดูท่าไม่ค่อยดี
องค์หญิงอาร์ทีน่าไม่ทรงรู้ว่าพระสนมเอกบีนูให้ฟาโรห์เสวยยากำหนัด อีกทั้งพระสนมเอกบีนูไม่รู้ว่า ทำให้สตรีอีกคนที่กำลังจะได้ครอบครององค์ฟาโรห์ในค่ำคืนนี้
องครักษ์อารอสพาองค์ฟาโรห์เสด็จมายังสระสรงน้ำของตำหนักองค์ราชินี องค์หญิงอาร์ทีน่าเสด็จตามอารอสมาจากด้านหลัง อารอสไม่ได้เอ่ยสิ่งใดกับพระนาง กลับถวายบังคมก้าวออกไปจากพระตำหนักทันที แต่พระนางกลับทรงสงสัยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับองค์ฟาโรห์ พระนางจึงเสด็จไปหาองค์ฟาโรห์ที่สระสรงน้ำ
องค์หญิงอาร์ทีน่าเสด็จมาใกล้องค์ฟาโรห์ กลับต้องตกพระทัยกับความเป็นชายที่ใหญ่โตยิ่งนัก พระนางมีพระดำริว่า
เคยเห็นภาพวาดชายหญิงบนจิตรกรรมฝาผนัง และปูนปั้นของชาวบาบิโลนของเรา ยังไม่ใหญ่โตเท่ากับความเป็นชายขององค์ฟาโรห์ที่อยู่เบื้องหน้า
อีกทั้งความเป็นชายยังออกมาจากผ้าลินินสีดำที่ปิดช่วงล่างขององค์ฟาโรห์คาโมส พระองค์ทรงใช้พระหัตถ์สาวขึ้นสาวลงด้วยความปวดร้าว พระนางมีพระดำริจะกำลังเสด็จออกจากห้องสรงน้ำ แต่ในหทัยหนึ่งมีพระดำริว่า
ไหนๆ ก็ไหนๆ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะได้อภิเษก ก็คงไม่เป็นไรหรอกที่จะถวายตัว
เมื่อมีพระดำริได้เช่นนี้องค์หญิงอาร์ทีน่าทรงเปื้อนฉลองพระองค์ออกจากพระวรกายของพระนาง เหลือเพียงพระวรกายเปลือยเปล่าอวบอิ่ม ขาวราวกับน้ำนม พระนางเสด็จลงไปในสระสรงน้ำขนาดใหญ่ทันที มาประทับนั่งลงบนระหว่างพระเพลาขององค์ฟาโรห์ พระนางจับพระหัตถ์ขององค์ฟาโรห์ออกจากความเป็นชาย พระนางลูบขึ้นลงบนความเป็นชายทันที
องค์ฟาโรห์ทรงทอดพระเนตรองค์หญิงอย่างตกตะลึงในความงดงามของพระนาง ทอดพระเนตรมองพระวรกายขาวผ่องราวกับน้ำนมตามแบบฉบับของสตรีชาวบาบิโลน พระนางมีพระวรกายที่งดงามเช่นนี้ ทำให้พระองค์แทบหยุดหายพระหทัย แต่ต้องข่มพระอารมณ์ที่ยากเย็น เพราะเสวยพระโอสถที่ปลุกกำหนัดลงไป
"น้องหญิงเจ้าออกไปเถอะ ข้าไม่อยากให้น้องหญิงเจ็บตัว" องค์ฟาโรห์ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่แผ่วเบาข่มพระอารมณ์ขณะที่พระนางสาวความเป็นชายของพระองค์ขึ้นลง
"หม่อมฉันไม่เป็นอะไรหรอกเพคะ ให้หม่อมฉันได้รับใช้ถวายตัวฝ่าบาทเถอะเพคะ" พระนางตรัสแผ่วเบา และทอดพระเนตรพระองค์ด้วยสายพระเนตรหวานจับพระทัย อีกตรัสแผ่วเบาเหมือนหลอกล่อพระองค์ให้ทรงเชื่อฟังอย่างที่หญิงไม่เคยมีสตรีคนไหนทำได้กับพระองค์เช่นนี้
องค์ฟาโรห์ทอดพระเนตรไปยังที่พระถันอวบอิ่มทั้งสองข้าง ใช้พระหัตถ์หนาทั้งสองข้างมาขยำอย่างรุนแรงไม่กลัวว่าจะบอบช้ำแต่อย่างใด
"อืม...ฝ่าบาท..."
"อา..." องค์ฟาโรห์ทรงครางหนักๆ สายธารนั้นไหลออกมาตามสายน้ำ และองค์หญิงสัมผัสได้ เพราะสายน้ำตรงนั้นไหลอุ่นเล็กน้อย
"ไปที่เตียง ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุข" องค์ฟาโรห์ตรัสด้วยพระสุรเสียงที่เร่าร้อน วาบหวาม และหื่นกระหาย
องค์หญิงทรงลุกจากพระเพลาทั้งสองข้าง เสด็จขึ้นจากสระสรงน้ำทันที องค์ฟาโรห์จึงเสด็จขึ้นตามพระนางมาเช่นกัน แล้วทรงอุ้มองค์หญิงมาที่พระแท่นบรรทม วางพระนางลงทันที