ไม่นานเขาก็เดินทางมาถึงและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเมธาวิน น้องชายที่ดูหน้าตาไม่คล้ายกับเหมือนฝันนัก แต่ก็พอรู้มาว่าเขาเป็นน้องชายต่างแม่ของเธอ
“โดมสวัสดีคุณซันสิจ๊ะ ท่านเป็นเจ้านายใจดีที่พี่บอกไง”
“สวัสดีครับคุณซัน” เมธาวินพยายามยกมือไหว้แต่เขาก็รีบยกมือห้ามไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องไหว้หรอก เราเพิ่งผ่าตัดมาไม่ใช่เหรอ แค่ทักทายกันเฉยๆ ก็พอแล้ว”
“ขอบคุณครับ คุณซันใจดีเหมือนที่พี่ดรีมบอกเลย ขอบคุณนะครับที่ให้พี่สาวของผมยืมเงิน ผมสัญญาว่าถ้าผมเรียนจบแล้วมีงานทำ ผมจะช่วยพี่ดรีมหาเงินมาคืนคุณให้ได้แน่นอนครับ” เด็กหนุ่มบอกอย่างมุ่งมั่น
“เรื่องนั้นน่ะ...” อาทิตย์ยังไม่ได้พูดจบเหมือนฝันก็พูดขึ้นเสียก่อนเพราะกลัวเขาจะเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา
“รอให้จบก่อนแล้วค่อยโม้เถอะจ้ะ คุณซันยังไม่ได้กินข้าวเย็นใช่มั้ยคะ ดรีมเองก็หิวเหมือนกัน เราลงไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารข้างล่างดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่ซื้อผลไม้มาฝากนะโดม”
“ครับพี่ดรีม”
เมธาวินมองพี่สาวคว้ามือเจ้านายของเธอแล้วพาเดินออกไปด้านนอกอย่างสงสัยแต่ก็คิดว่าพวกเขาทำงานด้วยกันมานานคงจะสนิทกันพอสมควร ไม่อย่างนั้นอาทิตย์คงไม่ยอมให้เหมือนฝันยืมเงินมากขนาดนั้น
อาทิตย์มองมือใหญ่ที่อยู่ในมือเล็กขณะที่เธอจูงเขาเดินออกมาจากห้องน้องชาย และเมื่อประตูนั้นปิดลงเธอก็รีบหันมามองเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับปล่อยมือนั้นให้เป็นอิสระ เขาจึงได้เงยหน้ามามองสบตากับเธอ
“พาผมออกมาข้างนอกทำไม ผมยังคุยกับน้องชายของคุณได้แป๊บเดียวเองนะดรีม”
“ดรีมมีเรื่องต้องคุยกับคุณก่อนค่ะ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ดรีม...อยากขอความกรุณาจากคุณ”
“ขอความกรุณา? เรื่อง?”
“ก็เรื่องที่ดรีมจะนอนกับคุณหนึ่งคืนเพื่อแลกกับเงินสองล้านไงคะ คุณอย่าให้โดมรู้นะคะว่าเราตกลงกันแบบนี้ ดรีม...ไม่อยากทำให้น้องรู้สึกผิดแล้วก็คิดมากจนล้มป่วยไปอีก”
“อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง หืม? ยังไงนะ นี่คุณบอกว่า...คุณจะนอนกับผมหนึ่งคืนงั้นเหรอ?”
อาทิตย์แทบช็อกเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอกเพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้าใจแบบนั้นตั้งแต่แรก หรือเป็นเขาเองที่ไม่เข้าใจเธอ
“ดรีมขอร้องนะคะ ดรีม...โกหกน้องไปว่าคุณแค่ให้ยืมเงินและจะหักเงินเดือนของดรีมไปใช้หนี้ทุกเดือน ถ้าน้องรู้ว่าดรีมทำอะไรลงไป น้องคงจะยิ่งเสียใจเพราะเค้ารู้สึกผิดมาตลอดที่เห็นดรีมต้องทำงานหนักตั้งแต่รับเค้ามาอยู่ด้วยกัน ถึงจะเป็นน้องชายคนละแม่ แต่เค้าก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ หวังว่าคุณซันจะเข้าใจดรีมนะคะ"
“อันที่จริงผมเองก็...”
“ดรีมรู้ว่าคุณก็คงรู้สึกไม่ดีที่ทำแบบนี้ แต่สำหรับดรีมแล้วนี่ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าค่ะ การได้เห็นรอยยิ้มของน้องชายอีกครั้งมันทำให้ดรีมไม่รู้สึกเสียใจสักนิดกับสิ่งที่ตัดสินใจลงไป และ...ถ้าคุณซันต้องการให้ดรีมทำงานใช้หนี้เมื่อไหร่ คุณก็บอกดรีมได้เลยนะคะ ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น”
ความจริงเขาควรจะบอกเธอไปว่าเขาไม่ได้คิดจะนอนกับเธอเลยสักนิด แต่ไม่รู้ทำไมในใจของเขามันกลับร้อนรุ่มเมื่อคิดไปถึงค่ำคืนที่เขาจะได้อยู่เคียงข้างเธอ และสุดท้ายความต้องการก็อยู่เหนือเหตุผลใดๆ ในเมื่อเธอเข้าใจไปแบบนั้นโดยที่เธอยินยอมพร้อมใจเองก็ดี เขาก็จะไม่รู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น
เพราะมันก็แค่การแลกเปลี่ยน โดยที่เธอจะได้ไม่ต้องมาโดนเขาหักเงินเดือนทุกเดือนให้ต้องชักหน้าไม่ถึงหลังอีก
แบบนี้...คงดีที่สุดแล้ว
“คืนพรุ่งนี้...เลิกงานแล้วไปรอผมที่คอนโดนะ เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก เสร็จธุระแล้วผมจะรีบตามไป” เขาบอกพร้อมกับยื่นมือไปแตะที่แก้มเนียนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน และสัมผัสนั้นก็เล่นเอาหัวใจของเธอเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นเช่นกัน
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับเพราะไม่ว่าจะเป็นพรุ่งนี้หรือเดือนหน้า ยังไงเธอก็จะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเขาอยู่แล้ว
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ คุณไปดูแลน้องเถอะ”
“เดี๋ยวสิคะ ดรีมบอกน้องว่าเราจะลงไปกินข้าวกัน ถ้ากลับเข้าไปตอนนี้น้องคงสงสัยแย่เลย เราไปกินข้าวกันก่อนนะคะ คุณเองก็ยังไม่ได้กินอะไรมาไม่ใช่เหรอคะ”
“เอางั้นก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าอาหารที่โรงพยาบาลจะถูกปากผมรึเปล่าน่ะสิ”
“เราไม่ได้กินอาหารของโรงพยาบาลจริงๆ นี่คะ ข้างล่างนี้เค้ามีร้านอาหารด้วย อาหารที่ไม่ต้องเป็นคนป่วยก็กินได้ค่ะ ไปเถอะ”
เธอส่งยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะเดินนำเขาไปด้วยท่าทีปกติเหมือนว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้คุยเรื่องสำคัญอะไร แต่เพราะอยู่กับเธอมานานพอ เขาจึงรู้ว่าทุกสิ่งที่เธอแสดงออกมาอย่างคนเข้มแข็งนั้นแท้จริงก็เพื่อปกปิดความอ่อนแอในใจของตัวเองเท่านั้น
เธอกลัว...กลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ไป
หลายวันผ่านไป
“ช่วงนี้งานหนักมากเหรอครับ”
เสียงของน้องชายทำให้คนที่นั่งใจลอยอยู่นานรีบหันมามอง
“จ๊ะ โดมว่าอะไรนะ”
“ผมถามว่าช่วงนี้งานหนักมากเหรอครับ”
“ก็เรื่อยๆ จ้ะ ทำไมเหรอ” เธอตอบยิ้มๆ พลางก้มลงปอกผลไม้ในมือต่อไป