หนีไม่พ้น

1120 Words
ตอนที่ 9 หนีไม่พ้น มะลิ ไม่แน่ใจว่าในห้องรับรองแขกของบ้านรัตนโสภา มีการพูดคุยอย่างไร เพราะหลังจากที่ ไพศาล กับภูมินทร์ เดินหายเขาไปในห้อง เธอก็ปลีกตัวมาด้านหลังยังห้องนอนของตัวเอง ทว่าไม่นานนัก เชิดชัยก็เดินมาตาม “มะลิ คุณไพศาลเชิญที่ห้องรับแขก” “ค่ะ” หญิงสาวมองหน้าของผู้เป็นพ่อ แม้ตามบทในนิยายจะไม่ได้กล่าวลงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวประกอบคนนี้อย่างลึกซึ้ง แต่ก็พอทราบว่า เชิดชัย มารับใช้ตระกูลรัตนโสภาตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ ตกหลุมรักกับแม่ครัวในบ้านและมีลูกคือ มะลิ จากนั้นแม่ก็มะลิก็เสียเพราะโรคมะเร็งกระเพราะอาหาร โรคเดียวกับตัวเธอในอีกโลกนึงเลย มะเร็งนี่มันน่ากลัวเสียจริง... “ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร ถึงต้องดึงลูกเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย” เชิดชัย ถอนหายใจอย่างไม่สบายใจ ยิ่งมี ราเชนท์ เจ้าพ่อมาเฟียไซเบอร์ ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญของภูมินทร์ เข้ามาเกี่ยวข้อง คนรับใช้อย่างเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ “ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาให้ทำอะไร ให้แกล้งโง่ไว้นะลูก อย่าเป็นคนเก่งท่ามกลางคนพวกนี้” นี่คงเป็นคำสอนที่ดีที่สุด ...และเธอก็ชอบมัน “ไม่ต้องห่วงหนูนะพ่อ หนูเอาตัวรอดได้” ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ได้มาเฉิดฉายบนโลกนี้แล้ว เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องอยู่ใต้อาณัติของใครอีกต่อไป แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอเป็นคนที่มีส่วนในการชักใยสิ่งเหล่านั้น ให้แกล้งโง่งั้นเหรอ? ...เรื่องถนัดซะด้วย! “อ้าวมะลิ นั่งซิๆ” เสียงทุ้มของ ไพศาล เอ่ยบอก ทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้าไปในห้อง และมะลิ ก็รู้สึกได้ถึงดาเมจรุนแรงบางอย่างที่ส่งมาจากร่างหนาของแขกผู้มาเยือน ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าง เยื้องกับ ภูมินทร์ ราเชนท์ โชติวัฒน์ “ทำไมถึงอยากจะคุยกับน้องมิลลิเหรอครับ? ระดับคุณราเชนท์มาสนใจหนูตัวเล็กๆด้วยเหรอครับ?” ภูมินทร์ แค่นเสียงถาม แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายรู้แล้วว่าสาเหตุการอัมพาตของระบบมาจากใคร ทว่าเขาก็ไม่ทราบดีเทลอะไรมากกว่านั้น เพราะมะลิไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่แปลก! หากราเชนท์ จับได้จริง ทำไมถึงปล่อยมะลิมาได้ มันอาจจะแค่สงสัย หรือระแคะระคายเท่านั้น “น้องเขามีบางอย่างที่ต้องทำต่อให้เสร็จ ผมก็เลยอยากจะขอเสนอความร่วมมือผ่านทางคุณไพศาลด้วยผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่จะอยากจะให้รัตนโสภามีส่วนร่วมในบางโครงการของเราเจ็ดเปอร์เซ็นต์” “เจ็ดเปอร์เซ็นต์” คำนั้นทำให้ ไพศาล ตาลุกวาว แม้ว่านี่จะเป็นคู่แข่งของว่าที่ลูกเขย ทว่าเจ็ดเปอร์เซ็นต์ของโชติวัฒน์ นี่ก็มหาศาล อาจจะมากกว่ารายได้ยิบย่อยลุ่มๆดอนๆที่ กลุ่มรัตนโสภามีในตอนนี้อีก “คุณพ่อครับ!” ภูมินทร์ ถึงกับเอ่ยปรามกับการแสดงกริยาออกหน้าของว่าที่พ่อตา ที่แทบจะไม่ไว้หน้าเขาเอาเสียเลย ทว่าเหมือนไพศาลจะไม่ใส่ใจนัก “คุณราเชนท์ ต้องการตัวหนูมะลิไปช่วยงานใช่มั้ยครับได้ๆ” คำบอกนั้นทำให้ เชิดชัย ตาลุกวาวอย่างไม่พอใจ นั่นลูกสาวเขา ไม่ใช่ลูกสาวไพศาล ทำไมถึงไม่ถามความเห็นเขาและลูกก่อนสักคำ “ใช่ครับ” ราเชนท์ ตอบเสียงราบเรียบ ดวงตาคมเข้มเปรยมองร่างบางที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ตรงหน้าเพียงครู่ ก่อนจะหลุบตาลงต่ำสะกดกั้นอารมณ์บางอย่างของตัวเองไว้ “อะไรกันครับ” เชิดชัย เอ่ยอย่างตระหนก รวมทั้ง ภูมินทร์ที่มองหน้าไพศาลหรอหรา ไม่คาดว่าพ่อตาตัวเองจะเปลี่ยนขั้วได้ง่ายแบบนี้ “นั่นซิครับคุณพ่อ ถามน้องมะลิรึยังว่าอยากไปมั้ย? อีกอย่างคนอย่างราเชนท์จะอยากได้ลูกกระจ๊อกไปทำไมกัน?” “มะลิไม่ใช่ลูกกระจ๊อกนะครับ” ราเชนท์แค่นยิ้ม “รึว่า เพราะระบบ RN เริ่มมีปัญหาเลยอยากได้คนของรัตนโสภาไปช่วย ได้ข่าวว่าวันก่อนระบบแหงกไปเกือบห้านาทีใช่มั้ยครับ แย่จัง!” ภูมินทร์ เอ่ยอย่างเย้ยหยัน นั่นทำให้มุมปากของ ราเชนท์ ยกโค้งขึ้น ก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวเล็กในชุดเดรสแขนดอกบัว ใบหน้าเนียนใสนั้นแดงระเรื่อปราศจากเครื่องสำอางใดๆ ช่างแตกต่างจากภาพลักษณ์นางแมวป่าในวันก่อน “ก็แค่สะดุดนิดหน่อย เพราะมีหนูตัวหนึ่งไปกัดสายไฟเล่นเท่านั้น แต่ระบบของRN ไม่ใช่จะล่มง่ายๆ นั่นเป็นแค่การเทสจุดอ่อนของเราเท่านั้น” ร่างหนาเหยียดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปมอง เชิดชัย “ไม่ต้องห่วงมะลิหรอกนะครับ ผมดูแลพนักงานของผมอย่างดีทุกคน พวกเราเหมือนครอบครัวเดียวกัน” เชิดชัย อึ้งไปเพียงครู่ เมื่อสบสายตาดุเข้มของหนุ่มรุ่นลูกที่ดูน่าเกรงขามยิ่ง สมแล้วที่เป็น มาเฟียไซเบอร์ ที่ว่ากันว่าหาตัวจับยากที่สุดในวงการ “มะลิ” น้ำเสียงของ เชิดชัย อ่อนลง เมื่อหันหน้าไปมองลูกสาว ใช่ว่าเขาเองจะมองเกมส์นี้ไม่ออก แต่อะไรบางอย่างลึกๆทำให้เชิดชัยรู้สึกไว้ใจ ราเชนท์ มากกว่า ภูมินทร์ มะลิ จึงเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ “ได้ค่ะ หนูจะไปช่วยงานคุณราเชนท์ค่ะ” ใครจะทะเลาะเบาะแว้ง แย่งชิงผลประโยชน์กัน ก็ทำไปเถอะ เธอสนใจที่ไหนกันเล่า ในเมื่อจุดประสงค์ของการเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ เธอต้องการเข้ามาช่วยราเชนท์ และนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะได้กันเขาออกจาก พระเอกธงดำ และนางเอกเจ้าปัญหาจอมสร้างเรื่อง “ถ้างั้นวันนี้ผมรับมะลิไปเลยนะครับ” ราเชนท์ หันไปบอกไพศาล “ส่วนเรื่องสัญญาผลประโยชน์จะมีคนของผมติดต่อมาอีกที ไม่เกินสองวันนี้” ชายหนุ่มปรี่เข้าไปจับต้นแขนของคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าขัดแล้ว แม้หน้าตาของ ภูมินทร์จะแสดงความไม่พอใจ แต่ราเชนท์ไม่คิดจะใส่ใจ “อะไรกันเนี่ย!!” “ไปกันได้แล้ว!” เขาหันไปทำเสียงดุ เมื่อมะลิยังคงนั่งนิ่ง “หนูขอเวลาเก็บของแปปได้มั้ยคะ” “ฉันให้เวลาสิบนาที” สิบนาที! มะลิรีบกระวีกระวาด ลุกออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ ภูมินทร์ หันกลับมามองหน้า ไพศาล แล้วกำหมัดเข้าหากันแน่นด้วยความเคียดแค้น ....แสบนักนะ ไอ้ราเชนท์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD