ตัวร้ายโดยกำเนิด

1217 Words
ตอนที่ 10 ตัวร้ายโดยกำเนิด “ทำไมรับปากง่ายจังมะลิ ลูกอยากไปจริงเหรอ?” คำทักของ เชิดชัย ผู้เป็นพ่อ ทำให้ มะลิ ชะงักมือที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บของ และหันมามองหน้าที่ดูกังวลใจของอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มหวานออกมา “หนูอยากไปค่ะ พ่ออย่าห่วงเลยคุณราเชนท์เขาไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอย่างที่ใครๆมองขนาดนั้นหรอกค่ะ” “ทำไมทำเหมือนรู้จักเขาดีขนาดนั้น ใครก็บอกเขาโหดและเลือดเย็นมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่บริหาร RN จนตระกูลโชติวัฒน์ร่ำรวยขนาดนั้นหรอก” นั่นซินะ! “บทเขามาเป็นแบบนั้นค่ะ” อธิบายไป พ่อของมะลิก็คงไม่มีวันเข้าใจอย่างแน่นอน คนเราต่อให้ดีแค่ไหน ถ้าถูกวางไว้เป็นตัวร้ายยังไงก็ต้องเป็นตัวร้าย ส่วนคนที่เป็นพระเอกต่อให้ทำเลวแค่ไหน ก็ยังเป็นพระเอกอยู่วันยังค่ำ ความคิดของคนเราที่มีต่อคนอื่นๆก็คงเป็นแบบนั้น ดังนั้นจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม เราก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวเอกและตัวร้ายในสายตาของคนอื่นได้เสมอ “ยังไงก็ระวังตัวละกัน มีอะไรติดต่อพ่อมาตลอดได้เลยนะ” แม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกสาวเอ่ยมากนัก หากแต่เมื่อมะลิตัดสินใจแบบนี้แล้ว เชิดชัยก็คงจะต้องเลยตามเลย อีกอย่างการออกจากบ้านนี้ไปอยู่ที่อื่น อาจจะทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นกว่านี้ก็ได้ เพราะอย่างน้อยก็ห่างไกลจากคนพวกนี้ เขารู้สึกแบบนั้น... “ฉันขอคุยกับมิลลิหน่อย” เสียงเข้มของ ภูมินทร์ พระเอกของเรื่องดังอยู่หน้าห้อง นั่นทำให้ เชิดชัย หันมามองบุตรสาวตน ก่อนจะปลีกตัวออกไป มะลิ มองตามหลังผู้เป็นพ่อห่างออกไป ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อหันมามองหน้าขาวของพระเอก ด้วยไม่เข้าใจว่าเขาถือสิทธิ์อะไรเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของเธอแบบนี้ “คุณภูมิมีอะไรจะคุยกับมิลเหรอคะ?” “ฉันรู้ว่าเธอมีแผนอะไรแน่นอน ที่ตกปากรับคำไอ้ราเชนท์ไปแบบนั้น” “คะ?” แผนอะไรหว่า? ในหัวเธอตอนนี้ไม่มีแผนอะไรอยู่ทั้งสิ้น “ฉันว่าการที่มันเข้ามาขอตัวเธอไปช่วยงานดื้อๆตรงๆแบบโปร่งใสแบบนี้ และยังเสนอผลประโยชน์ให้กับไพศาลที่ยากจะปฎิเสธอีก มันคงคิดว่ายังไงมันคงจะได้เปรียบแน่นอน ทั้งที่มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าความจริงเธอเป็นคนของฉัน” คนของแก! ไอ้พระเอกหน้าหม้อ!ฉันเป็นคนของแกเมื่อไหร่ “แบล็คโรเซ่ไม่ได้อยู่ได้อาณัติใคร คุณภูมิเองก็ทราบดี” “อ้อเหรอ?” พระเอกขยับเข้ามาใกล้ “ทำไมวันนี้กับเมื่อเจ็ดวันที่แล้วเธอไม่ได้พูดแบบนี้ซะหน่อย” ก็ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ทะลุมิติเข้ามานี่ย่ะ! “มิลลิต้องรีบเก็บของค่ะ” “จะรีบไหนละมิลลิ” มือขาวของพระเอกเอื้อมมากุมมือเล็กของเธอ “ฉันรู้น่าว่าเธอน่ะแอบชอบฉันมานานแล้ว เอาอย่างนี้ไหมถ้าเธอเข้าไปทำงานใกล้ชิดกับมันได้ และสืบข้อมูล Data Center มาให้ฉันได้จนครบทุกที่ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่แต่งงานกับช่อฟ้าและจะมาเลือกเธอแทน” อะไรนะ!! นี่แกเป็นพระเอกแน่เหรอ? “ทำไมคุณภูมิพูดแบบนี้ คุณฟ้าได้ยินคงจะเสียใจมาก” ถึงจะอย่างไร นี่คือนิยายเรื่องโปรดของเธอ มะลิยังคงห่วงความรู้สึกนางเอกและเอฟซีนักอ่านคนอื่นอยู่ แม้พระเอกจะธงดำแค่ไหนก็เถอะ! “ไม่เกี่ยวกับฟ้าซิ! นี่เป็นเรื่องของเรานะมิลลิ แม้ตอนแรกฉันจะไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอไปทำงานกับไอ้ราเชนท์ แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเข้าถึงข้อมูลของมัน และฉันรู้ว่าเธอเองทำได้อย่างแน่นอนและตอนนั้นฉันจะเป็นของเธอ” ไอ้พระเอกคนนี้! แกเอาความมั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหน “ทำไมคุณภูมิไม่ตั้งใจบริหารงาน TIT ด้านการพัฒนาระบบต่างๆให้ดีขึ้น ทำไมต้องเสียเวลากับอะไรแบบนี้ของคู่แข่ง มิลลิไม่เข้าใจเลย” อยากจะด่าตรงๆนะ ว่ามึงเอาเวลาไปทำงานตัวเองให้ดีขึ้นจะดีกว่ามั้ย!! แต่เกรงใจที่เห็นว่าเป็นพระเอก “ฉันก็ทำอยู่ไง แต่การทำลายมันก็เป็นสิ่งสำคัญเธอต้องช่วยฉันนะมิลลิ เธอสำคัญสำหรับฉันมาก” หน้าขาวตี๋ของพระเอกยื่นเข้ามาใกล้ จนเกือบจะชิด ทว่าเสียงดุห้าวดังขึ้นก่อน “เก็บของเสร็จรึยัง? เลยเวลาไปสิบห้านาทีแล้ว” “ค่ะ” มะลิ รีบผละตัวออกห่างจากพระเอก และรีบกระวีกระวาดเก็บของอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงหันไปมอง ภูมินทร์ ที่ยังยืนอยู่ในห้องไม่ยอมขยับออกไปไหน และมองตัวร้ายกลับด้วยสายตายียวน ขณะที่หน้าหล่อเข้มของ ราเชนท์ นั้นเรียบเฉยราวกับฉาบไว้ด้วยน้ำแข็ง เฮ้อ! กลุ้มใจในความสวยของตัวเองจริงๆ พระเอกกับตัวร้าย เลยต้องมาเขม่นกันจนได้ “คุณภูมิถอยออกไปก่อนดีกว่าค่ะ มิลลิกำลังรีบ” เธอจำเป็นต้องเอ่ยปากไล่พระเอกไปตามตรง นั่นทำให้ ภูมินทร์ขยับตัว เพื่อจะเดินออกจากห้อง แต่ยังคงหันมามองเธอและยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไว้ฉันจะโทรหาเป็นระยะ อย่าลืมที่คุยกันไว้นะมิลลิ” เข้าใจพูดนะไอ้พระเอก! ทิ้งระเบิดตูมใหญ่ ให้ตัวร้ายเข้าใจตัวประกอบอย่างฉันผิดอีกแล้ว และไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่ ราเชนท์ จะได้ยินประโยคเมื่อสักครู่มากน้อยแค่ไหน สงสัยเธอคงจะโดนเข้าห้องเย็นไม่เห็นเดือนตะวันแน่ๆ . . และก็เป็นอย่างที่คาด ปึก!! กระเป๋าเสื้อผ้าของเธอถูกโยนเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่มีเตียงนอนประมาณสามฟุตครึ่งอยู่ริมห้อง นี่คือบทลงโทษของ ราเชนท์ ใช่มั้ย! “ยะ...อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันนอนห้องนี้!” มะลิ หันไปถามคนของเขาที่คาดว่าน่าจะชื่อ ธเนศ ซึ่งเป็นมือขวาคนสำคัญของตัวร้าย “ใช่ครับ นี่ห้องพักของคุณมะลิไม่ต้องห่วงครับ มีห้องน้ำในตัว ส่วนหน้าต่างหนึ่งบานนั้นเป็นแบบนิรภัยขั้นสูงไม่สามารถทุบให้แตกได้ง่ายๆ อาหารจะมาเสิร์ฟสามเวลาตอนเช้าแปดโมงตรง ตอนเที่ยง ตอนเย็นห้าโมงครึ่ง อุปกรณ์ในห้องใช้ได้ทุกอย่างยกเว้นเครื่องมือสื่อสารที่ไม่สามารถคอนเน็คได้!” ไม่นะ! เงื่อนใขแบบนี้ มะลิ ตัวชาวาบขึ้นมาทันที เมื่อมองไปรอบห้องอย่างสำรวจ และตระหนักได้ว่า ห้องนี้น่าจะเป็นห้องใดห้องหนึ่งในตึกโชติวัฒน์ที่อยู่ประมาณชั้นยี่สิบห้า ที่เป็นชั้นสำหรับกักขังคนทำความผิดขององค์กร อย่าบอกนะว่าเธอจะโดนขังอยู่ในนี้!! ไม่ต่างจากนักโทษ ราเชนท์ ....จะใจร้ายกับเธอเกินไปแล้ว ******************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD