บทที่ 2 รอยข่วน

1426 Words
บทที่ 2 รอยข่วน มนปรียาถึงบ้านเวลาหนึ่งทุ่ม เดินหน้าเครียดเข้ามานั่งบนโซฟาในห้องรับแขก ดีที่ชาร์วียอมปล่อยหากเขาทำมากกว่ากัดปาก ก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดได้ไหม เพราะมัวจดจ้องอยู่กับเรื่องนี้ จนไม่ทันเห็นว่าเจียมจิตเดินออกจากห้องครัว “ไปแรดที่ไหนมาอีกล่ะถึงกลับช้า” “มิกิลืมโทรบอก..ขอโทษนะคะ” “แล้วก็ปล่อยให้ฉันกะเสือกกะสนทำกับข้าวเอง ทั้งที่กลับมาเหนื่อย ๆ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ” เจียมจิตเป็นหญิงวัยห้าสิบ ที่ยังทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง "บังเอิญมีงานด่วน มิกิเลยอยู่ทำโอทีต่อ" "อย่าตอแหล ฉันเห็นลูกสาวลุงหมายกลับถึงบ้านตั้งแต่ห้าโมงเย็น มันทำงานแผนกเดียวกันกับแกไม่ใช่เหรอ" คงหมายถึงใบตอง ซึ่งฝ่ายนั้นไม่ชอบขี้หน้าเธอตั้งแต่เด็ก ถึงทำงานที่เดียวกันและบ้านอยู่ถัดไปไม่กี่หลัง ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยสุงสิงหรือสนิทสนมเท่าที่ควร ชีวิตเด็กกำพร้าไม่ง่ายเลย รู้แค่พ่อชื่อไมตรี แม่เป็นคนญี่ปุ่น ชื่อเล่น ‘มิกิ’ ก็ตั้งมาจากเชื้อชาติของแม่ ซึ่งทั้งคู่อยู่แห่งหนไหนก็ไม่อาจทราบได้ ถูกเลี้ยงดูจากย่าตั้งแต่แบเบาะ พออายุสิบขวบย่าก็เสียชีวิต ธนดลซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อจึงรับเลี้ยง ด้วยความที่ฐานะไม่ค่อยดี เจียมจิตจึงคิดว่าเธอเป็นส่วนเกินมาตลอด "ขอโทษอีกครั้งแล้วกันค่ะ" มนปรียาไม่แก้ตัว ยกมือไหว้ก่อนลุกเดินไปยังห้องของตัวเอง “เดี๋ยว!” “อะไรอีกคะ” ถึงไม่อยากคุย แต่จำใจต้องคุย กลับมาเจอแบบนี้แทบอยากร้องไห้ ธนดลเป็นเซลขายเครื่องกรองน้ำ ต้องออกต่างจังหวัดเป็นประจำ อยู่บ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์ หรือไม่ก็วันที่ไม่มีงาน และวันนี้คงไม่อยู่เจียมจิตถึงดักรอหาเรื่อง “พอมีเงินสักสามพันไหม ดาวจะไปดูงานกับมหาลัยอาทิตย์หน้า ฉันอยากให้มันติดกระเป๋าไป เผื่อมีเรื่องจำเป็นต้องใช้” เนื่องจากกำลังเร่งเรียนปริญญาโทให้จบดรุณีจึงไม่ทำงาน ธนดลกับเจียมจิตจึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของลูกสาวทั้งหมด ภาระค่าน้ำค่าไฟเลยตกมาที่เธอ “เพิ่งซื้อของสดมาตุนไว้ทำกับข้าว เหลือเงินไม่กี่บาทเองค่ะ” “เห็นไปแต๊ดแต๋กับหลานชายบ้านนั้น มันไม่ให้เงินบ้างเหรอ หรือแกชอบแจกฟรี” “ชาร์จ้างทำรายงาน..ป้าเจียมทำความเข้าใจใหม่ด้วยค่ะ” ชาร์วีมักจ้างทำรายงาน ซึ่งทั้งคู่จะขลุกอยู่ในห้องด้วยกันตลอด เธอเข้านอกออกในบ้านข้างเคียงได้ตามสะดวก เจียมจิตกับดรุณีจึงมักเหน็บแนมหาว่ามีซัมติงกับชาร์วี “อ๋อเหรอ..” เจียมจิตมองหลานสาวนอกไส้ตั้งแต่หัวจรดเท้า “มีอะไรอีกไหมคะ” “บิลค่าไฟวางอยู่หลังตู้เย็น ช่วยจ่ายให้ตรงด้วยนะ ช่วงนี้การไฟฟ้าเข้มงวดขึ้น เดือนก่อนบ้านยายพรเพิ่งโดนตัดไฟ ทั้งที่จ่ายช้าแค่ห้าวันเอง” “ค่ะ” ตอบรับเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินเข้าห้องนอน ปัญหาระหว่างเธอกับสองแม่ลูกสะสมมานาน อยู่บ้านหลังนี้ด้วยความอึดอัด เจียมจิตกับดรุณีไม่เคยญาติดีสักครั้ง คอยพูดแซะ คอยเสียดสีหาว่าเธอเป็นภาระตลอด อยากเก็บเงินดาวน์คอนโดสักห้อง แต่เงินเดือนอันน้อยนิดก็ไม่อำนวย “เฮ้อ..เมื่อไรจะรวย ซื้อลอตเตอรี่ก็ไม่เฉียดรางวัลที่หนึ่งสักงวด” ตัดพ้อดวงชะตาพร้อมทิ้งตัวนั่งบนเตียงขนาดสามฟุต ถัดไปเป็นโต๊ะอ่านหนังสือกับตู้เสื้อผ้า ไม่มีแอร์ มีเพียงพัดลมเพดานกับพัดลมตั้งโต๊ะเอาไว้เปิดตอนนอน ห้องนี้ถูกต่อเติมเพื่อเป็นที่ซุกหัวนอนตั้งแต่เด็กจนโต อยู่ติดครัวชั้นล่างของบ้าน ไม่มีห้องน้ำในตัว เลยต้องใช้ห้องน้ำสำหรับแขก จึงมีตะกร้าไว้ใส่เครื่องใช้ พออาบน้ำเสร็จก็หิ้วมาเก็บ ไม่ได้อ่อนแอโลกสวยจนยอมใครง่าย ๆ แต่หลายอย่างบีบให้ต้องยอม คนอื่นใช้ความอดทนในการใช้ชีวิตมากแค่ไหนไม่รู้ แต่เธอต้องอดทนเกือบสองร้อยเปอร์เซ็นต์ กว่าจะเติบโตและอยู่มาจนทุกวันนี้ . . . เสียงบีตหนักดังกระหึ่มทั่วคลับในยามดึก นักท่องราตรีต่างวาดลวดลายอย่างเมามัน ส่วนแก๊งหนุ่มหล่อกลับนั่งเฉยอยู่โซนวีไอพี เพราะมีเรื่องต้องเคลียร์กับไอ้ตัวดี ที่กระดกเครื่องดื่มตีหน้าขรึมมาเป็นชั่วโมง “จะบอกพวกกูได้ยังว่าโดนแมวที่ไหนข่วน รอยเต็มแขน เต็มคอไปหมด” จิรกรหรือเจคหรี่ตามอง พยายามจับผิดแต่ไม่เจออะไรนอกจากความว่างเปล่า ราชาน้ำแข็งยังคงเดาทางยากเหมือนเดิม “ไม่ใช่แมวหรอกเจค สภาพนี้น่าจะเป็นหญิงมากกว่า” ธันวาหรือธัน เพื่อนในกลุ่มอีกคนออกความเห็น ปกติชาร์วีไม่ชอบให้ใครทำรอยบนตัว ถ้าคราวนี้ยอม..แสดงว่าสำคัญมาก “แมวหรือหญิง..มึงพูดมา” จิรกรสะกิดแขนเร่งเอาคำตอบ “อยากรู้ไปทำไม” ชาร์วีถามกลับ มองสาวสวยโต๊ะฝั่งตรงข้าม ส่งซิกทางสายตาเพื่อตอบรับไมตรีจากเธอ “อย่าบอกนะว่า..พี่สาว” ธันวายิ้มเจ้าเล่ห์ขณะชาร์วีปรายหางตามอง เมื่อเขาเอ่ยถึงสาวรุ่นพี่ “ตกลงได้ฟันยัง?” จิรกรขยับเข้าใกล้ชาร์วีมากขึ้น เมื่อมีเรื่องสนุกให้พูดถึง “ยัง” “เอ้า..นึกว่าเรียบร้อยโรงเรียนชาร์วีไปแล้ว เห็นเทียวไล้เทียวขื่อตั้งหลายเดือน บ้านอยู่ใกล้กันทำไมไม่รีบเผด็จศึก” “นั่นดิ..มึงนี่น่าผิดหวังชะมัด” ธันวาส่ายหน้าหัวเราะ ยกแก้วชนกับสาวสวยที่เดินผ่าน มองก้นเด้ง ๆ แล้วซู้ดปาก ถ้าไม่ติดว่าอยากเสือกเรื่องพี่สาวคงตามไปฟาด ยั่วเยเหลือเกินแม่คุณ “ข้อเสนอของพวกมึงยังเหมือนเดิมหรือเปล่าล่ะ” ชาร์วีทวงถามสิ่งที่เคยคุยกันไว้เมื่อเดือนก่อน “เอาจริงดิ” จิรกรถามเพื่อความแน่ใจ และชาร์วีก็ตอบอย่างจริงจัง “กูไม่เล่น” “พวกกูก็ไม่เล่น อยากรู้ว่ามึงจะกล้าหรือเปล่า” ธันวาเป็นคนตอบ “หึ..” ชาร์วีไม่ตอบ เพียงแต่ยิ้มมุมปาก “น้องเบียร์คณะอักษรจีบถึงไหนแล้วไอ้ชาร์ เมื่อวานเห็นเต้นสะบัดอยู่คลับแถวซอย4 แม่ง..สวยจัด” จิรกรถามถึงดาวเด่นปีสองคณะอักษรศาสตร์ที่ชาร์วีกำลังสนใจ “พรุ่งนี้” คนถูกถามตอบแบบหน้านิ่ง ซึ่งเพื่อนก็ชินเสียแล้ว “หมายถึงพรุ่งนี้ได้ฟัน?” จิรากรย้ำเพื่อให้อีกฝ่ายชัดเจน “เปล่า” “แล้ว?” ธันวาเลิกคิ้วสงสัย และชาร์วีก็ตอบด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย “พรุ่งนี้ทิ้ง” “เอ้า..มึงยังไม่ฟันไม่ใช่เหรอ” “ใครบอกว่ายังไม่ได้” ชาร์วีกระดกเครื่องดื่มลงคอ ยังมองสาวสวยคนเดิม คืนนี้คงจบที่เจ้าหล่อน แค่วันไนท์กับใครก็ย่อมได้..เขาไม่ติด “ตอนไหนวะ!” ธันวากับจิรกรถามพร้อมกัน รู้ว่าชาร์วีไวไฟ แต่ไม่คิดจะรวดเร็วขนาดนี้ เพิ่งได้ยินมันพูดถึงน้องเบียร์เมื่ออาทิตย์ก่อน “สองสามวันที่แล้วมั้ง” “ไอ้เหี้ย..โคตรนับถือมึงเลย” ธันวาตบไหล่เพื่อนหน้านิ่งอย่างชื่นชม ถ้าชาร์วีได้น้องเบียร์เมื่อสามวันก่อน แสดงว่าจีบฝ่ายหญิงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น สุดยอด.. “มึงก็ใช่ย่อยไอ้ธัน..กับระรินมันยังไง ไหนเล่าซิ” จิรกรพูดถึงเพื่อนร่วมคลาส “แค่จ้างทำความสะอาด” “หรา ธัน หรา ถุ้ย..” “เพื่อนก็คือเพื่อนไหมวะ..ใครจะคิดอกุศล” “ไม่เชื่อน้ำคำมึงหรอก เสือหิวอย่างมึงแค่ไม่มีหางก็ฟาดแล้วเถอะ เห็นยัยนั่นเข้าออกคอนโดบ่อย ๆ มึงคงไม่เก็บไว้ทำแม่หรอกมั้ง” “ไม่เชื่อก็เรื่องของมึงครับ” ธันวาไหวไหล่ สองหนุ่มมัวถกเถียงกัน จนไม่ทันมองว่าชาร์วีได้ลุกยืนเตรียมไปที่อื่น “กูไปนะ” “ไปไหน? เดี๋ยวก่อนไอ้ชาร์” ชาร์วีเดินไปหาเป้าหมาย ไม่สนใจเสียงทักท้วงของเพื่อน ทำเพียงโบกมือลา จากนั้นก็หายไปกับสาวสวย คงไม่ต้องสืบว่าค่ำคืนนี้จะเร่าร้อนแค่ไหน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD