ตอนที่ 2 2/3

1587 Words
สายตาทุกคู่หันไปจับจ้องที่ร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์สีซีดขากระบอกที่ดูจากทรงแล้วก็ยังเป็นของแบรนด์เนมที่เธอเอาติดตัวมาด้วยตอนเดินทางมาที่นี่ แขนเรียวของคนผิวขาวปานน้ำนมยกขึ้นไขว้กันเพื่อกอดอก ผมยาวสลวยถูกมัดรวบและสวมหมวกทับอีกที ดูยังไงคนอย่างคุณหนูเพียงขวัญก็ไม่เหมาะกับการมาทำงานที่ไร่จริงๆ ผิวเอย หน้าเอย หุ่นเอย ทุกอย่างที่เป็นเธอมันดูขัดแย้งกับที่นี่อย่างสิ้นเชิง “นี่คือชุดมาทำงาน?” สงครามปรายสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งเห็นใบหน้าสวยๆ เชิดๆ ของเธอก็ยิ่งมองเห็นปลายทาง ถึงยังไงซะยัยคุณหนูนี่ก็ไม่มีทางอยู่ที่นี่ได้เกินหนึ่งเดือน ไม่มีทาง… “ฉันไม่ได้อยากมาทำงาน” “แต่เธอต้องทำงาน ที่นี่ไม่มีข้าวฟรีให้เธอกินเหมือนตอนเธออยู่ที่บ้านหรอกนะ” “ฉันซื้อกินเองได้” “ไหนล่ะเงิน?” สงครามย้อนถามคนที่ไม่มีเงินสดติดตัวเลยสักบาท และหากจะอ้างว่าใช้เงินในบัญชีธนาคารจ่ายได้ แล้วใครล่ะจะเป็นคนอาสาไปซื้อให้เธอ ในเมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นคนของเขาทั้งหมด “แน่จริงก็พาออกไปกดสิ หรือจะให้ใครไปกดเงินสดมาให้ฉันก็ได้ เว้นแต่นายจะบีบไม่ให้ฉันไปกดแค่นั้น” “ฉลาดดีนี่… ฉลามแกมโกง” “อย่ามากล่าวหาฉันแบบนี้นะ” “อยู่ที่นี่เงินของเธอมันไม่มีค่า แต่ข้าวที่ฉันจะให้เธอกินสามมื้อต่อวันต่างหากล่ะที่มีค่า” “ฉันไม่ใช่นักโทษของนายนะ ฉันแค่มาอยู่ที่นี่เพื่อรอวันที่พี่เพลิงจะมารับกลับก็แค่นั้น” “ดี! ภาวนาให้วันนั้นมาถึงวันนี้พรุ่งนี้เลยละกัน ที่นี่มันไม่ได้เหมาะกับเธอเลยจริงๆ หรืออยากฟังไปด้วยเลยว่าที่ไหนมันเหมาะกับเธอ” คนถามปรายตามองเรือนร่างสมส่วนของคนตรงหน้า ที่จริงนายนี่ก็ไม่ได้เลวนะ รูปร่างหน้าตาถือว่าหล่อจัด แต่ก็นั่นแหละ หล่อแบบเถื่อนๆ นี่ก็ไม่ใช่ทางของเธอเหมือนกัน “ลองมาเป็นของเล่นหรือตุ๊กตาบนเตียงให้ฉันสักวันสองวันไหม เผื่อเธอจะค้นพบว่ามันเหมาะกับเธอมากกว่าการมาทำงานที่ไร่” “หยาบคาย” “นี่คือด่าปะ?” สงครามยิ้มถาม มันยิ่งเป็นการกระตุ้นให้อีกคนหายใจแรงขึ้น “ถ้าต้องให้นอนกับคนเถื่อนๆ แบบนาย ฉันกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่า” “โห… คุณหนูก็ใจกล้าดีเหมือนกันนะครับ” สงครามแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยัน ยิ่งเห็นเธอทำหน้าไม่พอใจ ทำเหมือนอยากเข้ามาตบหน้าเขาแต่ทำไม่ได้ก็ยิ่งสะใจ “ทนได้ไหมล่ะ… ถ้าทนไม่ได้ก็ไปเรียกไอ้เพลิงมา เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ไอ้เพลิงโผล่หัวมา เธอจะเป็นอิสระทันที” “ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว” “ไม่ได้อยากให้อยู่เหมือนกัน อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้คนงานของฉันทำงานได้มาตรฐานที่ต่ำลง” “เกี่ยวอะไรกับฉัน” “รำคาญที่พวกมันบอกว่าเธอสวย… ทั้งที่มองยังไงก็ไม่เห็นความสวยเลย” “ไม่สวยก็เรื่องของฉัน และนั่นมันก็เป็นปัญหาของพวกนายไม่เกี่ยวกับฉัน อ้อ… และนายก็พูดจาย้อนแย้งดีนะ บอกว่าฉันไม่สวย แต่กลับอยากได้ฉันไปเป็นตุ๊กตาบนเตียงนี่นะ?” “แก้ขัด… ของขาดน่ะ” คำตอบของคนตรงหน้าส่งผลให้เพียงขวัญกำหมัดแน่น ชักจะไม่ไหวแล้วนะ ชักจะหมดความอดทนกับคนอย่างนายนี่แล้วจริงๆ ในขณะที่เธอโกรธ เขากลับยิ้ม ภาวนาให้เธอได้ไปจากที่นี่ๆ เร็วๆ สักที นายนี่จะเป็นคนแรกที่เธอจะพยายามลืม ไม่ขอจดจำอะไรเกี่ยวกับเขาเลย… “…พี่คราม” เสียงของบุคคลที่สามส่งผลให้ทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เพียงขวัญได้เห็นหน้าคะนิ้ง ผู้หญิงที่บอกว่าท้องกับพี่ชายเธอ “คะนิ้ง ออกมาทำไม วันนี้ลมแรงจะตาย” น้ำเสียงของคนถามบ่งบอกถึงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน “แค่อยากออกมาดูให้เห็นกับตาว่าพี่ครามให้เขาออกมาทำงานแล้วจริงๆ” คะนิ้งปรายตามองคนตรงหน้า ต่อให้เธอจะเป็นน้องสาวของพระเพลิง มันก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะต้องญาติดีด้วยในเมื่อตอนนี้พระเพลิงไม่ได้น่ารักกับเธอแล้ว รู้ว่าไม่มีความรักใดๆ หลงเหลือ เพราะแบบนี้ไงเธอถึงบีบให้พี่ชายเธอต้องร้ายกับฝ่ายนั้นแทนเธอ “ที่จริงพี่ครามควรให้ออกมาทำงานตั้งนานแล้วนะคะ ไม่จำเป็นต้องใจดีปล่อยให้ปรับตัวนานขนาดนั้นเลย เอาให้อยู่ไม่ได้จนพี่เพลิงต้องรีบกลับมาหาน้องจะดีกว่านะคะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วเข้าหากัน พอมาได้ยินกับหูของตัวเองแบบนี้เธอถึงบางอ้อขึ้นมาเลย “ที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้แปลว่าเธอรู้ตัวดีว่าเธอกับพี่เพลิงไม่หลงเหลือความรักให้กันแล้ว ใช้ตัวเองรั้งเขาไม่ได้แล้วเลยต้องทำแบบนี้สินะ” “นี่เธอ!” “โตๆ กันแล้วควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ปะ แบบนี้ต่อให้พี่ชายฉันกลับมารับผิดชอบเธอ ชีวิตที่จะใช้ร่วมกันมันก็ไม่ได้ขับเคลื่อนไปด้วยความรักอยู่ดี” เพียงขวัญตอบกลับทันที เจอคนนิสัยเสีย อย่าได้คิดว่าเธอจะยอมให้มาข่มได้ง่ายๆ “ไม่ต้องมาเสนอหน้ารู้ดี” “พอแล้วคะนิ้ง” สงครามโอบตัวคนที่กำลังจะถลาเข้าไปหาอีกฝ่าย ไม่ลืมที่จะตวัดสายตาไปมองคนที่ทำให้น้องเขาไม่พอใจ “ส่วนเธอ รีบไปทำงานที่ได้รับมอบหมายซะ อย่าทำตัวเป็นภาระไปมากกว่านี้” “ฉันนี่นะภาระ?” เพียงขวัญเตรียมจะโต้แย้งในขณะที่คนท้องยกแขนขึ้นกอดอก ประกาศชัยชนะเหมือนเด็กไม่รู้จักโต “คนที่สมควรอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เธอ แต่เป็นพี่เพลิง” “งั้นก็รู้ไว้ซะว่าไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้เลยสักคน” “นี่แกคงไม่อยากให้พี่เพลิงมารับผิดชอบฉันสินะ” “ฉันมั่นใจว่าฉันโตกว่าเธอ อายุมากกว่าเธอนะ ขนาดฉันเป็นน้องพี่เพลิงแท้ๆ เธอยังพูดจากับฉันแบบนี้ คงถูกสปอยจนเสียนิสัยสินะ รู้ตัวใช่ไหมว่าพี่ฉันไม่ได้รักเธอแล้ว ถึงได้บีบบังคับกันด้วยวิธีนี้” “อีบ้า!” “คะนิ้ง… พอ” “แกสิบ้า นังเด็กบ้า” คนตอบกลับลอยหน้าลอยตายิ้ม เจอคนประสาท อย่าได้คิดว่าเธอจะประสาทตาม “อย่าได้คิดนะว่าจะกีดกันฉันกับพี่เพลิงได้ ถึงยังไงซะพี่ชายแกก็ต้องกลับมาหาฉัน จะไม่มีใครแย่งอะไรไปจากฉันได้ทั้งนั้น” “เหอะ! ที่จริงก็ไม่ได้อยากทำบาปทำกรรมกับคนท้องหรอกนะ แต่ไหนๆ ก็ถูกสปอยจนเสียนิสัยแล้ว ฉันก็ขอเตือนด้วยความหวังดีว่าให้ปรับปรุงตัวซะ แล้วถ้าปรับปรุงตัวไม่ได้ ก็เตรียมตัวเป็นประสาทของจริงได้เลย” “กรี้ดดดด อีบ้า!” “นี่เธอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ใครใช้ให้เธอพูดแบบนี้วะ” “คงเป็นนายสินะที่สปอยจนยัยเด็กนี่เอาแต่ใจได้ขนาดนี้” “เงียบ” “ไม่เงียบ” เพียงขวัญตอบกลับและสบตาคนที่กัดฟันกรอด “มีอะไรบ้างล่ะที่น้องสาวนายหวง พี่ชายอย่างนายนี่หวงปะ? ถ้าหวง… จะได้แย่งมาเป็นของตัวเองจนใครบางคนแถวๆ นี้เป็นประสาทของจริง” “กรี้ดดดด อีบ้า!” เพียงขวัญขยับยิ้มพลางใช้สองมือแนบสองข้างแก้มเพื่อปิดหู ไม่รับรู้ว่ากำลังมีเปรตมาขอส่วนบุญ “ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันคิดบัญชีกับเธอแน่” สงครามคาดโทษคนที่ปั่นหัวคะนิ้งจนสำเร็จ จากนั้นก็ลากน้องตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที “…พี่คราม น้องไม่ยอมนะ พี่ห้ามยุ่งกับมันเด็ดขาด” “ไม่ยุ่ง ไม่ได้บอกว่าจะยุ่งเลย ใจเย็นๆ สิคะนิ้ง ทำแบบนี้มันกระทบต่อเด็กในท้องนะ” สงครามปลอบคนตัวเล็กด้วยการยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยเล็ก “พี่ครามห้ามยุ่งกับมันเด็ดขาด พี่จะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนน้องไม่เคยว่า แต่ห้ามยุ่งกับมัน” “เขาแค่ปั่นให้เราโมโหเท่านั้น” “ไม่รู้แหละ น้องไม่ยอมให้มันมายุ่งกับพี่เด็ดขาด” “พี่บอกให้ใจเย็นๆ ไงคะนิ้ง” คนตัวโตถอนหายใจยาว เขาไม่ชอบที่น้องตัวเองเป็นแบบนี้เลยเหมือนกัน “อย่าคิดว่าน้องไม่เห็นนะสายตาที่พี่มองมัน คำพูดที่พี่พูดกับมัน แม้ให้เป็นของเล่นของพี่น้องก็ไม่ยอม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD