บทที่8

1980 Words
‘เสียใจด้วยนะ ปีการศึกษาหน้าทางมหาวิทยาลัยมอบทุนให้เธอไม่ได้แล้ว อาจารย์รบกวนเธอทำเอกสารให้เรียบร้อยภายในอาทิตย์นี้ด้วย’ คำตอบที่ได้ยินทำเอาดุจแพรน้ำตาตกใน หลังพบฝ่ายวิชาการรับทราบถึงต้นเหตุ สาวน้อยตัดสินใจไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะรูปถ่ายระหว่างเธอและวิลล์ในลานจอดรถถูกแปะประจานทั่วมหาวิทยาลัย ส่งผลให้นักศึกษาหลายคนเอาไปพูดกันสนุกปาก วิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหาย ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอราวกับทำเรื่องน่าละอาย ทั้งที่ไม่มีใครรู้ความจริงนอกจากตัวเธอเอง ดุจแพรเป็นเด็กเลี้ยงก็จริง แต่เธอซื่อสัตย์กับนรัณกรแค่คนเดียว ไม่ใช่ใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ตามข่าวลือ ร่างบางเดินเข้าห้องน้ำ เปิดประตูแล้วกักขังตัวเองไว้ในพื้นที่คับแคบ ใบหน้าแดงก่ำก้มลงมองพื้นขณะพยายามกลั้นเสียงสะอื้น เธออยากร้องไห้ ระบายความเสียใจแล้วกลับไปเข้มแข็งเหมือนเดิม แต่ไม่รู้นานเท่าไรถึงจะถ่ายเทความรู้สึกแย่ ๆ นี้ไปทั้งหมด อยากรู้เหลือเกินว่าตนเองทำเวรกรรมอะไรไว้นักหนา ทำไมปัญหาถึงโหมกระหน่ำพัดเข้ามาไม่จบไม่สิ้น ผลกระทบของเหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าเธอจะยอมรับได้ ไม่ใช่จำต้องหาเงินให้เพียงพอสำหรับค่าเทอมอย่างเดียว แต่การขอทุนไปเรียนเฉพาะทางที่ต่างประเทศก็จบลงเช่นกัน ความปรารถนาของดุจแพร ไม่ได้สูงส่งจนเกินตัว เธอไม่ได้อยากรวยพันล้าน ทว่าแค่ต้องการโอกาสเพื่อจะมีชีวิตที่ดี แต่วันนี้ทุกอย่างกลับพังทลาย ไม่ว่าความฝันหรือความรัก เธอไม่สามารถรักษามันไว้ได้แม้แต่อย่างเดียว คนตัวเล็กสะอื้นตัวโยนขณะคิดถึงอนาคตที่หลุดลอย หยดน้ำตาไม่ต่างจากความเจ็บปวดกัดเซาะหัวใจอ่อนแอ ร้องไห้นานนับนาทีเธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตู หญิงสาวกำลังจะปาดน้ำตาและหนีไปที่อื่น แต่คำพูดต่อมาทำให้ขาทั้งสองข้างหยุดชะงัก “โห รอบนี้แกเล่นแรงไปนะอันดา มันขัดใจอะไรแกวะทำไมต้องทำถึงขนาดให้หลุดทุน” “ก็แค่เกลียด ช่วยไม่ได้อยากไม่เจียมตัวเองทำไม” อันดาหัวเราะสะใจ ดุจแพรกำหมัดก่อนหยิบสมาร์ตโฟนกดบันทึกเสียง “ไม่เจียมตัว ยังไง…” “โอ๊ยถามมากน่ารำคาญ ก็อีไซด์ไลน์นั่นมันมายุ่งกับพี่เขยฉัน ฉันก็ต้องสั่งสอนมันหน่อยไหม พี่มินเขาไม่ชอบวุ่นวายกับอะไรแบบนี้ แต่ฉันทนไม่ได้แค่คิดก็ขยะแขยงแทน พูดก็พูดเถอะ สะใจจริง ๆ คราวหน้าจะเล่นให้แรงกว่านี้อีก คอยดู” “แกจะทำอะไร” “จ้างผู้ชายสักคนแล้วถ่ายคลิปแบล็กเมลมันดีปะ แกว่าไง ไอเดียฉันโอเคไหม” “เอาดิ น่าสนุก” หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดระงับอารมณ์ ไม่เคยคิดว่าความคิดน่ารังเกียจเช่นนี้จะออกจากปากลูกผู้หญิงด้วยกัน มือบางเก็บหลักฐานใส่กระเป๋า จากนั้นจึงผลักประตูออกไป “สนุกมากหรือเปล่า” น้ำเสียงเยือกเย็นทำทั้งคู่หุบปากฉับพลัน อันดาผงะเมื่อเห็นหน้าดุจแพร แต่สุดท้ายเพราะมั่นใจว่าเหนือกว่า หล่อนจึงเลิกคิ้วมองคนถามอย่างท้าทาย “มากทำไม คนอย่างแกจะทำอะไรฉันได้ อยากไปฟ้องอาจารย์เหรอ เอาสิ ฉันไม่กลัว เพราะสุดท้ายไม่ว่าแกจะพูดยังไง คนอย่างแกก็ไม่มีทางชนะฉันอยู่ดี” “สิ่งที่เธอทำอยู่มันแย่มากรู้ตัวบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่พอใจทำไมไม่มาพูดกับฉันดีๆ ทำไมถึงต้องทำลายอนาคตกันด้วย” “แล้วทำไมฉันต้องเสียเวลาพูดกับแก หัดดูสภาพตัวเองซะบ้าง แกระดับไหน ฉันระดับไหน ผู้หญิงขายตัวที่แบให้ผู้ชายเอาไม่เลือกหน้า มีสิทธิ์อะไรมา…” เพียะ! สัมผัสหนักหน่วงตบคุณหนูสาวจนใบหน้าชาดิก หล่อนถลึงตามองคู่กรณีแววตาโกรธจัด ตั้งแต่เกิดไม่เคยมีใครกล้าทำกับลูกสาวเจ้าสัวแบบนี้ อันดาทั้งเจ็บทั้งอาย พอตั้งหลักได้จึงพยายามเอาคืนดุจแพร แต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งคู่ทึ้งศีรษะฉุดรั้งกันไปมา ทว่าจังหวะที่ดุจแพรเกือบล้มคะมำ อันดารีบตะโกนสั่งเพื่อนที่มาด้วยกันรวบแขนเล็กข้างหลังทันที “แกกล้าดียังไงถึงมาตบฉัน ก่อนโทษคนอื่นแกหัดโทษตัวเองซะบ้าง ใครใช้ให้อีตัวอย่างแกหน้าด้านคันถึงขนาดขึ้นไปหาพี่เขยฉันบนรถล่ะ!” อันดากดใบหน้างามแนบอ่างล้างหน้า ถ้อยคำหยาบช้าเอ่ยราวกับดุจแพรไม่ใช่คน หล่อนกระชากหางม้าก่อนบังคับให้หญิงสาวเงยหน้าสบตาตนเอง “โกรธเหรอ แกอยากเอาคืนอะไรฉัน” คนไร้ทางสู้น้ำตาคลอ แววตาเคียดแค้นจ้องมองลูกสาวเจ้าสัว สักวันหนึ่งผู้หญิงคนนี้ต้องชดใช้ในสิ่งที่ตนเองทำ “จะบอกอะไรให้นะ ถึงแกอยากเอาชนะแค่ไหนแกก็ทำไม่ได้หรอก และต่อให้ฉันฆ่าแกตายตรงนี้ฉันยังไม่มีความผิดเลย เพราะอะไรรู้ไหม…เพราะคนอย่างแกมันไร้ค่าไง!” “นะ…นี่เธอจะทำอะไร” ดวงตาสั่นระริกมองหญิงสาวที่กำลังหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพาย คัตเตอร์แหลมคมแนบลงมาบนผิวขาวช้าๆ เมื่อเห็นความกลัวบนสีหน้าดุจแพร อันดาก็ยิ้มยียวน “ก็แค่อยากรู้เฉย ๆ ถ้าแกหน้าเละยังจะหน้าด้านไปอ่อยผู้ชายของคนอื่นอีกไหม” อันดากดปลายมีดลงข้างแก้มนวล แต่หล่อนไม่ทันกรีดเฉือนผิวขาว ประตูห้องน้ำกลับถูกผลักเข้ามาเสียก่อน กลุ่มนักศึกษานับสิบหวีดร้องตกใจ คุณหนูสาวหันไปตะคอก และโยนอาวุธลงพื้นตัดความรำคาญ “หุบปาก เรื่องวันนี้อย่าให้ฉันรู้นะว่ามีใครเอาไปพูดต่อ ไม่งั้นฉันเอาตาย ส่วนแก นี่แค่เตือนหลังจากนี้ถ้ายังสะเออะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เจอของจริง!” หล่อนผลักร่างบางล้มไปกองกับพื้นแล้วจึงเดินออกไปทันที ดุจแพรเอื้อมมือคว้ากระเป๋าผ้าที่ถูกเตะไปอีกทาง ความร้าวระบมพลันเล่นงานขณะเขยิบกายไปข้างหน้า “ช่วยเราหน่อยได้ไหม…” เสียงสั่นไหวร้องขอความช่วยเหลือ แต่ผู้คนบริเวณนั้นทอดทิ้งเธออย่างไร้เยื่อใย แววตาสั่นระริกกวาดมองรอบข้างด้วยความผิดหวัง บาดแผลบนใบหน้ายังแจ่มชัดไม่เท่าความปวดร้าวทางใจ ดุจแพรกัดฟันพาตัวเองออกนอกห้องน้ำ กำลังจะกดแอปพลิเคชันเรียกรถโดยสาร ทว่าพาวินดันโทรเข้ามาเสียก่อน จังหวะที่ปลายนิ้วเรียวกำลังจะรับสาย เสียงบีบแตรจากรถคันหรูหน้าอาคารมหาลัยฯ กลับเรียกความสนใจจนต้องหันมอง พาวินเลื่อนกระจกขณะร่างบางเดินเข้าไปหาใบหน้าไม่สู้ดี “แพรเป็นอะไร แล้วนั่นจะไปไหน” ชายหนุ่มถามเสียงเครียดพลางมลอบสังเกตอาการผู้หญิงที่ตนแอบรัก “พอดีแพรไม่สบายนิดหน่อย กำลังจะไปโรงพยาบาล คุณพายล่ะคะมาทำอะไรที่นี่” “แม่ทำขนมเลยขอให้พี่เอามาฝากแพร ท่านอยากขอบคุณเรื่องวันก่อน จะไปโรงบาลฯ เหรอ ขึ้นรถสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” “แต่แพร…” “ไม่ต้องเกรงใจขึ้นมาเถอะ หน้าเราซีดหมดแล้ว” บรรยากาศหน้าห้องตรวจยามบ่ายผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก นางพยาบาลคนสวยซักประวัติ ถามอาการคนป่วยคร่าวๆ จากนั้นก็พาเธอไปตรวจปัสสาวะ ดวงตาเจือแววกังวลเหลือบมองพาวินครู่หนึ่ง พบชายหนุ่มอมยิ้มน้อย ๆ คล้ายต้องการส่งกำลังใจ หลังทำตามขั้นตอนเรียบร้อย ถึงเวลาเจอคุณหมอดุจแพรก็ลุกขึ้นหันหลังเข้าข้างในเพียงลำพัง “หมอขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณท้องได้สี่สัปดาห์แล้ว” เหมือนโลกทั้งใบสั่นสะเทือนไปชั่วขณะ สิ่งที่ได้ยินทำหญิงสาวนิ่งงัน มือเธอชื้นเหงื่อจากการรอคำตอบกว่าหลายชั่วโมง และบัดนี้การรอคอยดังกล่าวถือเป็นอันสิ้นสุดลง “ฉันท้องเหรอคะ” “ครับ คุณแม่จะฝากครรภ์เลยไหมครับ” น้ำเสียงนายแพทย์หนุ่มปลุกดุจแพรให้รู้สึกตัว สาวน้อยก้มมองกระเป๋าสตางค์ มือลูบหน้าท้องพลางเม้มริมฝีปากราวกับลังเลใจ “ค่ะ” การกลายเป็นแม่คนทั้งที่ไม่มีอะไรเป็นใจสักอย่าง ทำเอาดุจแพรไปต่อไม่ถูกทีเดียว หนำซ้ำ ‘พ่อ’ ของเด็กคนนี้ก็กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นั่นแปลว่าเขาไม่มีวันปล่อยให้เธอและลูกเข้ามาเป็นมารขวางผลประโยชน์ หญิงสาวสูดลมหายใจกลั้นหยาดน้ำตา เพราะรักทำให้คนฉลาดพลาดท่า เดินตามทางที่นรัณกรวางไว้เหมือนสัตว์เลี้ยงเชื่อง ๆ “ได้ครับ เดี๋ยวหมอขอตรวจละเอียดอีกรอบแล้วจัดยาบำรุงครรภ์ให้ เชิญบนเตียงเลยครับ” เธอพยักหน้าจากนั้นก็เดินเงอะงะไปยังเตียงที่หมอใจดีผายมือ แพทย์หนุ่มคลุมผ้าสีฟ้าแล้วจึงบีบเจลเย็น เสียงทุ้มอธิบายขณะขยับอุปกรณ์ ซึ่งดุจแพรเคยเห็นผ่านตาแต่ไม่มีโอกาสได้ทดลองใช้ หมอหนุ่มยิ้มหวาน วินาทีถัดมาเสียงรัวราวกับคลื่นสัญญาณก็ก้องกังวานให้คนตัวเล็กได้ยิน มือบางกำหมัดแน่น อารมณ์มากมายพรั่งพรูจนน้ำตาร่วง หญิงสาวทั้งดีใจและเจ็บปวด ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเคลื่อนไหวอย่างหนักเมื่อเห็นภาพบนหน้าจอเป็นครั้งแรก “ลูกฉันแข็งแรงดีใช่ไหมคะ” เสียงอู้อี้ถาม ความรุนแรงก่อนหน้าพัดกลับมาก่อความกังวล ถึงไม่พร้อมแต่ด้วยความเป็นแม่ ดุจแพรไม่ต้องการให้ลูกได้รับอันตรายจากเศษอารมณ์ของใคร ลูกเธอไม่ควรเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ตอนนี้ “สมบูรณ์แข็งแรงดีครับ นัดรอบหน้าเราค่อยมาฟอลโลพัฒนาการน้องใหม่นะครับ” “ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนกล่าวขอบคุณและฝืนยิ้ม ไหล่บางลู่ลงเป็นจังหวะเดียวกับหมอหนุ่มลอบถอนหายใจพอดี ใส่ชุดนักศึกษาท่าทางอึดอัด สังเกตดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ท้องไม่พร้อม หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดสั้นตัดสินใจทำอะไรที่ย้อนกลับมาแก้ทีหลังไม่ได้นะ ติ๊ด! ‘วิลล์รออยู่ที่ลานจอดรถ ถ้าไม่กลับมาภายในหนึ่งชั่วโมงก็เก็บของ แล้วไสหัวออกไปให้พ้นหน้าฉัน’ ข้อความเชือดเฉือนทำเอาร่างบางแทบล้มทั้งยืน นี่หรือถ้อยคำจากชายหนุ่มที่เธอรักหมดทั้งใจ คนตัวเล็กยกมือปาดน้ำตาเงียบ ๆ สุดท้ายในสายตานรัณกรผู้หญิงคนนี้ไม่มีค่ามากไปกว่าเครื่องระบายความใคร่ที่ซื้อมาได้ด้วยเงิน พาวินปรี่มาประคองร่างบางวินาทีที่ดุจแพรกำลังหมดแรง มือแกร่งพยุงคนใกล้เป็นลมไปหาที่นั่ง จากนั้นจึงค่อย ๆ ยกมือพัดให้เธอดีขึ้น ใบหน้าชื้นเหงื่อระบายยิ้มเศร้า ริมฝีปากซีดสั่นขบกลั้นเสียงสะอื้น ก้อนความเสียใจจุกอกขณะสบตาคนตรงหน้า หญิงสาวสัมผัสได้ว่ามีหลายคำถามค้างคาในใจเขา แต่ชายหนุ่มกลับไม่เอ่ยให้ดุจแพรรู้สึกแย่กว่าเดิม พาวินถนอมหัวใจเธอยิ่งกว่าผู้ชายที่เธอรัก “แพรรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเอายาให้” “แพรขอบคุณคุณพายนะคะ…ขอบคุณมากจริง ๆ” มือนุ่มดึงแขนเสื้อชายหนุ่มจึงหันหลังกลับมา สาวน้อยกัดริมฝีปากจนปริแตก ทว่ากลับไม่รู้สึกปวดร้าวอีกต่อไป “คุณพาย…” “ไม่เป็นไรนะแพร พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD