ตอนที่11 ความรู้สึกที่สับสน

1537 Words
ทางด้านอัยวา หลังจากที่ไปเดินเล่นนานหลายชั่วโมงในวันนี้ ทั้งเธอและอชิก็กลับมาถึงบ้านกันอีกครั้ง บรรยากาศภายในห้องยังคงเย็นเงียบเหมือนทุกวัน มีแค่เสียงช้อนคนในแก้วที่อชิกำลังชงโกโก้ร้อนมาให้เธออยู่ อัยวานั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา มือยังถือไม้เท้าคู่ใจเอาไว้แน่น จนอชิจับสังเกตเห็นว่าวันนี้พี่สาวดูนิ่งไม่ปกติเอาเสียเลย วันนี้พี่สาวไม่ค่อยพูด ไม่ถาม ไม่บ่นเรื่องลมฟ้าอากาศเหมือนทุกวันที่พาออกไปเที่ยว ทำให้อชิรู้สึกแปลกใจจนต้องเอ่ยปากถามขึ้นก่อนอีกครั้ง “พี่อัย วันนี้ในสวนเกิดอะไรขึ้นเหรอ?” อัยวาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะหันไปตามเสียงของน้องที่เธอสัมผัสได้ “อชิ วันนี้พี่เจอเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วยแหละ” อชิหันมามองหน้าพี่สาว รอคอยกับสิ่งที่พี่อยากจะเล่าให้ฟังในทันที “น้องเดินเข้ามาหาพี่เองเลยนะ บอกว่าอยากนั่งด้วย น้ำเสียงน่ารักมากเลยล่ะอชิ ฟังแล้วรู้สึกว่าหัวใจมันอบอุ่นขึ้นมาทันที แปลกดีนะว่าไหม” ฝ่ามือที่จับแก้วโกโก้สั่นนิด ๆ รู้สึกใจสั่น ตัวสั่นไปหมดเพียงแค่พูดถึงสิ่งที่พบเจอมา “น้องบอกว่าชื่อ..อิงฟ้า” อชิชะงักไปในทันที จ้องมองหน้าพี่สาวแล้วแอบอึ้ง ต้องบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ แค่ชื่อก็บังเอิญแล้วนะ ก่อนที่อัยวาหัวเราะออกมาเบา ๆ ทั้งที่ใจมันแทบอยากจะร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึง “ชื่อมันใช่เลยเนอะพี่ บังเอิญว่าเหมือนหรือมันใช่เลยอ่ะพี่อัย?” เสียงหัวเราะที่มีเปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบไปชั่วขณะ น้ำตาของอัยวาร่วงหล่นลงบนหลังมืออีกครั้งอย่างไม่อาจอดกลั้นได้เลยจริง ๆ “ไม่รู้สิ ถ้าวันนี้พี่เห็นหน้าเขาได้ก็คงจะดี พี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรอ่ะอชิ แต่พอได้จับมือหนูน้อยคนนั้น พี่รู้สึกดีมากเลยนะ มันอุ่นและนุ่มมากเลยอชิ มือเขาเล็กนิดเดียวเอง จนพี่อยากจะดึงเขามากอดไว้แน่น ๆ เหมือนกลัวว่าเขาจะหายไปจากชีวิต พี่เคยกอดเด็กมาหลายคนแต่ไม่มีคนไหนที่พี่จะรู้สึกแบบที่พี่กอดอิงฟ้าคนนั้น มันบอกไม่ถูกอ่ะอชิ แต่พี่รู้สึกดีมากจริง ๆ นะ แค่นึกถึงใจพี่มันก็สั่นไปหมดเลย” อัยวาหยุดพูดเพียงครู่ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแรง ๆ “เฮ้อ…แต่พี่รู้ว่ามันไม่มีทางบังเอิญอะไรขนาดนั้นได้หรอก โลกมันไม่ได้กลมขนาดนั้นว่าไหม” “มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกพี่อัย โลกนี้มันไม่ได้กว้างจนไม่มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้หรอกนะพี่ ถ้ามันจะใช่อ่ะนะ” “อชิวันหลังเราไปที่สวนตรงนั้นกันอีกนะ เผื่อจะได้เจอเด็กคนนั้นอีกไง อชิจะได้เล่าให้พี่ฟังได้ว่าเขาหน้าตาน่ารักแบบไหน เดี๋ยวพี่จินตนาการเอา” เพียงแค่นึกถึงหนูน้อยที่เพิ่งได้พบ ความสุขมันก็มาพร้อมกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจอีกหน เธอยังอยากจะเจอ ยังอยากจะพูดคุยและรู้จักกันให้มากกว่าวันนี้ที่ได้รู้จัก “ตามใจเลยพี่อัย ผมพาไปไหนก็ได้ขอให้บอกมาเถอะ” “ขอบใจนะอชิ น้องพี่น่ารักที่สุดในโลกเลยล่ะ แต่อชิเชื่อไหมวันนี้พี่รู้สึกเหมือนได้เจอลูกสาวตัวเองเลย พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ก็มีเด็กมาคลุกคลีด้วยเยอะอยู่พอสมควรนะ แปลกอ่ะแปลกมาก” อชิไม่พูดอะไรทำได้เพียงโอบกอดพี่สาวเอาไว้เงียบ ๆ เหมือนที่เขาเคยกอดในวันที่พี่ร้องไห้แบบไม่มีเหตุผล อ้อมกอดนั้นไม่ใช่คำปลอบโยน แต่มันคือหลักฐานว่าเขาอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ว่าวันนี้จะสุขหรือว่าจะทุกข์ที่สุดก็ตาม เพราะเข้าใจดีว่าความรู้สึกของพี่สาวในทุกวันที่ผ่านมาก็ยังคงนึกถึงและคิดถึงเด็กคนนั้นที่เคยอุ้มท้องมาไม่เคยลืม อัยวาวางคางลงบนไหล่ของน้องชาย ผ่อนลมหายใจที่เหนื่อยล้าจากอะไรบางอย่างที่มันอธิบายไม่ได้ออกมาอีกครั้ง “อชิ พี่ไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงฝังอยู่ในใจพี่ขนาดนี้ แค่เจอกันแป๊บเดียว พูดคุยกันแค่ไม่กี่ประโยคเองนะ” ก่อนจะหลับตาแน่นราวกับพยายามจำอะไรบางอย่างที่มันไม่เคยมีอยู่จริง “แค่ได้จับมือเล็ก ๆ นั่นมันเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง พี่แทบไม่อยากปล่อยเขาไป ยิ่งเขากอดลาก่อนที่เขาจะกลับ พี่แทบอยากจะร้องไห้ อชิว่าพี่คิดถึงเขาคนนั้นมากเกินไปหรือเปล่า” อชิกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ “บางทีเด็กคนนั้น อาจไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าก็ได้นะครับพี่อัย” เขาเว้นจังหวะเหมือนลังเลจะพูดต่อดีไหม “แต่บางทีนะเขาอาจจะเป็นใครบางคนที่เคยอยู่กับพี่มาก่อนจริง ๆ ก็ได้ แค่กลับมาในรูปแบบที่พี่จำไม่ได้ก็ได้ใครจะไปรู้ล่ะจริงไหม?” อัยวานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง พร้อมกับส่ายหน้าไปมาเบา ๆ “พี่ไม่กล้าเชื่อในอะไรแบบนั้นหรอกอชิ แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธความรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่าหรือมันอาจจะใช่” ไม่กล้าฟันธงแม้แต่กลิ่นตัวกลิ่นน้ำหอมของเขา เสียงที่คุ้นหู ผู้ชายในอดีตของเธอ ทุกอย่างมันปรากฏขึ้นพร้อมกับเด็กน้อยที่บอกว่าเขาเป็นพ่อ หรือเด็กคนนั้นคือคนที่เธอเคยอุ้มบุญให้เมื่อหลายปีก่อนจริง ๆ แล้วจะได้เจอกันอีกไหมเป็นความรู้สึกอัยวานึกหวาดกลัว ขอเพียงแค่ได้เจอกันอีกสักครั้ง ถ้าหากว่าใช่หนูน้อยคนนั้นที่เธอรัก ไม่ต้องมารู้จักว่านี่คือคนที่ทำให้ได้เกิดมาก็ได้ เธอรับได้และยินดีรับสถานะของตัวเอง “ถ้าใช่ ขอให้เราได้เจอกันอีกสักครั้งเถอะนะ” อัยวาทำได้เพียงแค่คิดและภาวนาอยู่ภายในใจ หนูน้อยอิงฟ้าจับจูงมือของพ่อเดินเข้ามาในบ้านด้วยกัน คนตัวเล็กเดินกระโดดเหยาะ ๆ ราวกับอารมณ์ดีไม่หายจากการได้ออกไปเล่นที่สวนสาธารณะมา “พ่อขา” เสียงสดใสเรียกพ่อดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางความเงียบของบ้านหลังใหญ่ “ว่าไงครับลูก?” “พ่อว่าป่านนี้พี่อัยจะกลับถึงบ้านหรือยังคะ?” หนูน้อยแหงนเงยหน้ามองพ่อที่ชอบทำหน้าเครียดอย่างสงสัย วันนี้พ่อเงียบแปลก ๆ เงียบจนรู้สึกไม่ปกติเลยสักนิด ธีร์ธัชชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบแบบไม่กล้ามองสบตาลูกสาวเลย “ก็...น่าจะกลับถึงแล้วมั้งลูก” “แต่ว่าพี่เขามองไม่เห็นนะคะ แล้วพี่เขาเดินกลับยังไงคะพ่อ” หนูน้อยอิงฟ้าทำหน้างุนงงช่างสงสัย พยายามจินตนาการตามโลกในแบบเด็กสี่ขวบจะคิดออก “ไม่มีคนพาไป พี่เขาจะเดินไปชนต้นไม้หรือเปล่านะ จะสะดุดล้มตามทางไหมคะพ่อ” ธีร์ธัชกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ตั้งแต่เจอหน้าอัยวาวันนี้ คำถามจากลูกสาวทำเอาเขาหายใจแทบไม่ออกตั้งแต่ตอนอยู่ที่สวนแล้วด้วยซ้ำ ล้วนเป็นคำถามที่ไม่สามารถตอบได้ง่าย ๆ และภาพของหญิงสาวผู้เข้มแข็งกับไม้เท้าในมือยังติดค้างอยู่ในหัวใจ เขาควรรู้สึกอย่างไรและต้องทำแบบไหนกับทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว “พี่เขาคงชินแล้วล่ะลูก เขาเก่งอยู่แล้วมั้งครับ” หนูน้อยทำหน้าย่นนิด ๆ ดูท่าว่าเรื่องราวที่พบเจอวันนี้จะทำให้มีแต่เรื่องสงสัยและอยากรู้เต็มไปหมด “แต่หนูก็ยังคิดถึงพี่เขาอยู่ดีค่ะพ่อ” ก่อนจะกระชับตุ๊กตาไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม “พี่อัยกอดอุ่นมากเลยนะคะ น่าสงสารมากด้วย หนูอยากให้พี่เขามาเที่ยวบ้านเราจังเลย” ธีร์ธัชหัวเราะขึ้นเบา ๆ เพื่อกลบเกลื่อนความรู้ในใจที่มันกำลังเกิดขึ้น ทั้งที่มันเต้นโครมครามแทบจะระเบิดออกมาข้างนอกอยู่แล้วในเวลานี้ “ไว้ถ้าหนูมีโอากาสเจอเขาอีกก่อนนะลูก” ธีร์ธัชตอบลูกสาวออกไปแบบนั้น ทั้งที่ในความรู้สึกลึก ๆ ไม่ได้อยากเจอกันอีกเลยด้วยซ้ำถ้ามันเป็นไปได้ ความรู้สึกเหมือนความลับที่เคยเก็บไว้มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD