Ep.2
Tonhorm talk.
11.00 น.
"...เหนื่อยหน่อยนะลูกช่วงนี้ แต่ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะ" เสียงแม่ของฉันพูดขึ้นมาหลังจากที่เราเดินออกมาจากห้องประชุมได้สักพัก และกำลังจะกลับไปห้องทำงานที่อยู่ชั้นบน
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้น" ก็แค่เข้าประชุมสองสัปดาห์ติดๆ แถมวันหยุดก็ไม่ได้หยุด...แค่นั้นเอง
"แค่มองตาแม่ก็รู้ว่าหนูเหนื่อย ไม่ต้องมาโกหกแม่เลย" แม่พูดกลับมาอย่างรู้ทัน และที่ฉันโกหกแม่ไปแบบนั้นก็เพราะว่าฉันไม่อยากให้ท่านต้องคิดมาก อีกอย่างฉันก็ยังไหวอยู่
"ง่ะ แต่หนูไม่เป็นไรจริงๆ นะคะ อาจจะเหนื่อยบ้างแต่ยังไหวค่ะ"
"ดื้อจริงๆ เลยลูกคนนี้ ไปเที่ยวบ้างก็ได้นะ จะได้ผ่อนคลาย"
"หนูก็ไปอยู่นะคะ เมื่อไม่นานมานี้หนูก็ไป" ก็เพราะว่าร่างกายมันมีทั้งความเครียดและความเหนื่อยสะสมปนกันอยู่ บวกกับฟ้าใสเพื่อนสนิทของฉันชวนไป ฉันก็เลยต้องออกไปเที่ยว และเที่ยวที่ฉันหมายถึงไม่ใช่เที่ยวต่างจังหวัด สูดกลิ่นธรรมชาติอะไรหรอก ฉันหมายถึงเที่ยวผับตอนกลางคืน ปลดปล่อยไปตามประสาวัยรุ่น (รึเปล่า) นั่นแหละ
หลายคนชอบถามว่า...ไปเที่ยวแบบนั้นแล้วมันไม่ยิ่งทำให้เหนื่อยมากกว่าเดิมเหรอ สำหรับฉันคือไม่ เที่ยวแบบนั้นมันก็คือการผ่อนคลายดีๆ นี่แหละ เพราะฉันไม่ได้ดื่มจนเมาขนาดนั้น ดื่มพอให้รู้รสชาติและสนุกกับเสียงเพลงมากกว่า
จริงๆ ฉันก็ไม่ชอบอะไรแบบนั้นหรอก แต่ถ้ามีเพื่อนชวนก็มักจะไปกับเพื่อนเสมอ พอได้ไปแล้วร่างกายมันก็จะไหลไปกับเสียงเพลงกับแสงสีเองแหละ ก็ทำให้ผ่อนคลายได้ในระดับหนึ่งเลยล่ะ
"แม่รู้...แต่หนูก็ควรมีเวลาหยุดพักมากกว่านี้"
"ไม่เอาอ่ะ พักผ่อนมันก็คือการอยู่เฉยๆ น่ะสิ และการอยู่เฉยๆ สำหรับหนูมันน่าเบื่อ" แล้วอีกอย่างถ้าฉันหยุดพัก นั่นก็แปลว่าแม่ก็ต้องทำงานทั้งหมดคนเดียว สู้ให้ฉันอยู่ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ไม่ดีกว่าหรอ...
"ดื้อจริงๆ ดื้อเหมือนพ่อเราไม่มีผิด" แม่พูดพร้อมกับสายหัวไปมาอย่างเอือมๆ
"ก็หนูลูกพ่อไงคะ" พูดจบฉันก็โผล่ไงเข้าไปกอดแม่ทันทีพร้อมกับเอาหัวถูไปถูมาที่ไหล่ของแม่
ฉันชื่อต้นหอมนะคะ เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ เป็นเพื่อนสนิทกับฟ้าใสแฟนไอ้เจ้าขุน (ติดตามได้ในเรื่อง My friend นะคะ ขอยาดขายของนิดหนึ่ง5555) และทุกคนคงสงสัยกันใช่มั้ยล่ะคะว่าพ่อฉันไปไหน ทำไมท่านถึงไม่มาทำงานช่วยแม่
คุณพ่อฉัน...ท่านเสียแล้วล่ะค่ะ ท่านจากฉันกับแม่ไปเพราะท่านหัวใจวายเฉียบพลัน และการจากไปของท่านทำให้หุ้นของบริษัทเราตกฮวบลงไปมาก! มากจนเกือบถึงขั้นล้มละลาย และแม่กับฉันก็ไม่ไว้ใจให้ใครมาบริหารต่อเพราะเสี่ยงต่อการโดนโกง แม่กับฉันก็เลยลงมือและใช้ความรู้ที่มีเพียงเล็กน้อยในการกอบกู้บริษัทนี้กลับมา
แต่มันก็ทำได้ยากเนื่องจากฉันกับแม่แทบจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารเลย จนตอนนี้พ่อจากฉันกับแม่ไปได้เดือนกว่าๆ แล้ว บริษัทยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาดีได้เหมือนเดิมเลย
ฉันมีเพื่อนเป็นนักธุรกิจหลายคนก็จริง แต่งานของพวกมันก็มีเยอะกันจนล้นมืออยู่แล้ว ฉันก็เลยเกรงใจที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกมัน และแน่นอนว่าเพื่อนฉันไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่ฟ้าใสเองก็ไม่รู้ ตอนนี้ฟ้าใสมันก็ยุ่งๆ อยู่กับที่ร้านเสื้อผ้าของมัน และมีปัญหาพอๆ กัน มันเลยทำให้ฉันไม่กล้าเอาเรื่องพวกนี้ไปเป็นภาระให้มันอีก
อยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ฉันมักเป็นคนร่าเริงเฮฮา สนุกสนานเสมอ ซึ่งต่างจากตอนที่อยู่บริษัทมาก ที่ฉันจะเอาแต่นั่งทำงานๆ อย่างเดียว
"เอ่อ...แม่คะ เดี๋ยววันนี้ช่วงบ่ายหนูขอออกไปทำธุระข้างนอกหน่อยนะคะ" ฉันพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉันรับปากยัยฟ้าใสไว้ว่าจะช่วยเรื่องปัญหาที่ร้านของมัน ช่วยทั้งๆ ที่ตัวเองก็แย่ ฮ่าๆๆ รางวัลเพื่อนดีเด่นจริงๆ เลยฉัน
"ได้จ้ะ เออแล้วช่วงนี้ได้เจอวินเซนต์บ้างมั้ย" วินเซนต์คือลูกชายของน้องสาวของคุณพ่อของฉันเอง ก็เท่ากับว่าวินเซนต์เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันนั่นเอง
"ก็เจอนะคะ วันก่อนน้องมันยังไปเที่ยวกับหนูอยู่เลย" จริงๆ มันแค่ขอติดรถไปด้วย
"น้องสบายดีนะ? "
"ก็สบายดีนะคะ ไว้วันหลังเดี๋ยวหนูลากมันมาให้แม่เห็นหน้าเอง" ฉันพูดออกไปอย่างติดตลก คือแม่ฉันท่านรักและเอ็นดูวินเซนต์มาก แต่พักนี้แม่ไม่ค่อยได้เจอหน้ามัน แม่ก็เลยถามหา
"แค่โทรบอกก็พอแล้วมั้ง"
"แต่หนูว่าไม่ต้องให้มันมาก็ดีนะ เพราะมันมาทีไรมันอ้อนเอาของจากแม่ตลอดเลย" แล้วแม่ฉันก็ให้มันด้วยนะ
"แต่ต่อไปนี้แม่คงให้เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว" แม่พูดพร้อมกับมีสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
"...อย่าคิดมากสิคะคุณนาย ให้ไม่ได้ก็ไม่ต้องให้สิคะ นู้น! ให้มันไปอ้อนให้คุณอาซื้อให้มันแทน" ฉันหมายถึงแม่ของมันนั่นแหละ
"คงต้องเป็นงั้น...แต่แม่อยากเจอน้องจริงๆ นะ"
"เดี๋ยวหนูบอกให้ค่ะ แต่ตอนนี้หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูรีบกลับมาทำงานต่อ"
"จ้า ขับรถดีๆ ล่ะ"
13.00 น.
@Tf.Ent
"วันนี้ฝนจะตกปะวะเนี่ย มึงมาหากูถึงบริษัทเลย" ไอ้ทราฟฟิคเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าขึ้นมามองฉันก่อนจะพูดออกมาด้วยท่าทางโอเวอร์แอคติ้ง!
"มึงอย่าเวอร์ได้ปะ กูก็แค่แวะมาเยี่ยมเพื่อน" ฉันตอบมันพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องทำงานของมันโดยไม่รอให้เจ้าของห้องเชิญหรืออนุญาติ ปกติฉันจะเป็นคนมีมารยาทนะ แต่กับเพื่อนอย่างมันขอเว้นไว้คนนึงละกัน
"คิดถึงกูล่ะสิ"
"มโนอยู่เหรอค้า"
"เอ้า! ก็ถ้าไม่คิดถึง มึงก็คงไม่มาหากูถึงที่นี่หรอกจริงมะ?" จะว่ายังไงดีล่ะ มันไม่น่าจะเรียกว่าคิดถึงได้นะ เพราะมันน่าจะเรียกว่านึกถึงมากกว่า เพราะฉันมาที่นี่ก็เพราะว่ามีเรื่องอยากจะให้มันช่วยน่ะสิ
"เออๆ คิดถึงก็คิดถึง" ฉันตอบมันไปแบบส่งๆ ขืนถ้าตอบว่าไม่คิดถึงมันก็คงจะพูดให้ฉันยอมมันจนได้นั่นแหละ
"ฮ่าๆๆๆ ทำไมวันนี้มึงยอมง่ายจังวะ แปลกๆ"
"กูขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมึง" บอกเลยว่าในบรรดาเพื่อนของฉัน มีแค่มันนี่แหละที่ฉันพูดและทำตัวหยาบคายด้วย แค่เฉพาะมันคนเดียวเลยจริงๆ
"ทำไมวะ ต่อปากต่อคำกับกูสนุกดีออก"
"มึงสิสนุก" น่าจะมีแค่มันนะที่สนุกอยู่คนเดียว เพราะเวลาฉันได้ต่อปากต่อคำกับมันทีไรนะ ประสาทจะกินหัวทุกที
"ฮ่าๆๆ เออๆ ว่าแต่มามีอะไรวะ มึงคงไม่ได้แค่มาเพราะคิดถึงกูอย่างเดียวหรอกใช่มั้ย"
"แสนรู้จังเลย ไหนเห่าสิ" พอฉันพูดจบไอ้ทราฟฟิคมันก็รับมุกฉัน โดยยกเท้าหน้าขึ้นมาทั้งสองข้างก่อนจะเห่าตามที่ฉันบอก
"โฮ่ง! โฮ่ง! ถุ้ย!!"
"ฮ่าๆๆๆๆๆ" แล้วฉันก็มันก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
"เนี่ย! พอกูจริงจังด้วย มึงก็เป็นซะแบบเนี้ย!" ไอ้ทราฟฟิคมันบ่นพร้อมกับลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งลงที่โซฟาตรงข้ามฉัน
"มึงก็เล่นด้วยเถอะ"
"ก็มึงชงมา กูก็ต้องเล่นสิวะ"
"แล้วจะโวยวายเพื่อ!?" ฉันถามพร้อมกับมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง
"เออๆ ...ว่าแต่มึงมีเรื่องอะไร" มันถามพร้อมกับมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที ไอ้ทราฟฟิคน่ะเวลามันเล่นมันก็เล่นเยอะมาก แต่เวลามันจริงจังมันก็จริงจังมากนะ
"ทราฟ...มึงพอจะรู้จักนักสืบดีๆ เก่งๆ บ้างปะ? " ฉันเรียกชื่อมันขึ้นมาก่อนจะเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่มาหามันในวันนี้
"นักสืบเหรอ มึงจะเอาไปสืบอะไรวะ?"
"คืองี้มึง..." แล้วฉันก็เล่าให้มันฟัง โดยไม่ลืมกำชับมันว่าห้ามบอกเจ้าขุนเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้ฟ้าใสมันให้ฉันช่วยโดยที่เจ้าขุนไม่รู้ และเรื่องที่ฟ้าใสมันให้ฉันช่วยก็คือ...
มันสงสัยว่าร้านเสื้อผ้ามันมีคนเล่นไม่ซื่อ แต่เจ้าขุนไม่ยอมบอกรายละเอียดกับมัน มันก็เลยให้ฉันช่วยหานักสืบให้ และฉันเองก็เห็นว่ามันไม่น่าจะยากอะไร ก็เลยตกลงช่วยมัน เห็นเพื่อนเดือดร้อนด้วยแหละ (ติดตามเรื่องของฟ้าใสกับเจ้าขุนได้ในเรื่อง My friend นะคะ ขอยาดขายของอีกครั้ง)
"ไอ้เจ้าขุนก็สืบให้แล้วนี่? " ไอ้ทราฟฟิคพูดขึ้นมาเมื่อฉันเล่าจบ
"เออ สืบแล้วแต่ไม่ยอมบอกยัยฟ้าใส มึงก็รู้ใช่ปะล่ะว่าฟ้าใสมันเป็นพวกดื้อ" ดื้อแบบรั้นอ่ะ
"เออ ดื้อพอๆ กับมึงแหละ"
"เดี๋ยวเถอะ ไอ้นี่! " พอฉันพูดจบไอ้ทราฟฟิคมันก็ไหวไหล่ใส่ฉันอย่างกวนๆ แต่ช่างมันเถอะ รีบคุยรีบกลับเข้าบริษัทดีกว่า "ว่าแต่มึงพอจะแนะนำให้กูได้ปะนักสืบเก่งๆ อะ?"
"...ก็มีนะ แต่ไม่ได้เป็นนักสืบหรอก แต่มันเก่งเอาเรื่อง"
"เออๆ ใครก็ได้เอามาเลย ขอเบอร์ติดต่อหน่อยดิหรือที่อยู่ก็ได้" พอมันบอกว่ามันรู้จักฉันก็รีบถามหาข้อมูลการติดต่อจากมันเลยทันที ส่วนหนึ่งฉันก็รีบกลับไปทำงานด้วยแหละ เลยจะรีบๆ หน่อย
"เอาจริงดิ?" แต่มันก็ยังถามฉันเหมือนกำลังลังเลที่จะให้ฉัน
"จริงดิ นี่กูจริงจังนะ!"
"เออๆ แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าไอ้นี่มันไม่ได้ธรรมดาๆ เหมือนคนทั่วไป..." ก็แสดงว่าเก่งมากๆ เลยสินะ งั้นก็ดีเลยสิ!
"เออ ไม่ธรรมดาแบบนี้แหละกูชอบ!
________________________
หื้มมมม ท้าทายอำนาจซะแล้วว5555
******1ไลค์1คอมเมนท์เท่ากับ1กำลังใจ ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ******