ผู้มีพระคุณ

1958 Words
บทที่ 3 ผู้มีพระคุณ วันต่อมาวิลาสินีไม่มีงาน กอปรกับเพื่อนสนิทอย่างดาวิกาโทร. ชวนเธอไปทำสวยที่คลินิกเสริมความงามในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่เธอกับเพื่อนมักชวนกันมาทำเป็นประจำตามประสาผู้หญิงรักสวยรักงาม “เสียดายเนอะที่ไอ้แจนไม่ได้มาด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้เมาท์กันยาว ๆ” ดาวิกาเอ่ยขึ้นขณะนอนให้เจ้าหน้าที่คลินิกขัดผิวหน้าอยู่ตรงกลาง โดยมีเพื่อนอีกสองคนนอนขนาบข้างทั้งสองฝั่ง “ก็มันเพิ่งคลอดเจ้าแฝดได้สามสี่เดือนเอง จะให้มันหอบลูกออกมาหรือไง” คุณแม่ลูกหนึ่งอย่างกานต์พิชชาที่นอนบนเตียงริมสุดพูดขึ้นอย่างขำ ๆ ดาวิกาหัวเราะเบา ๆ พลางนึกถึงลูกแฝดของเพื่อนสนิท “พูดถึงลูกมันแล้วก็อยากไปฟัดว่ะ แก้มอย่างกับซาลาเปา น่าหยิกมาก” “แกก็มีเองสิ ผัวก็มีแล้ว” วิลาสินีที่นอนอยู่อีกฝั่งพูดขึ้นมาบ้าง “ง่ะ แกช่วยดูสถานการณ์ฉันกับพี่ชินตอนนี้ด้วย ยังไม่ได้ตกลงว่าจะกลับไปคบกันจริง ๆ จัง ๆ เลย” ดาวิกาบอกพลางย่นจมูกอย่างเซ็ง ๆ ทำให้เพื่อนทั้งสองอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ แล้วก็เป็นวิลาสินีที่พูดขึ้นมา “ไม่ได้กลับไปคบ แต่ก็กินกันตั้งกี่รอบแล้วล่ะ” “บ้อบอ ไม่ได้กินสักหน่อย” “ถามจริง ?” กานพิชชาถามขึ้นมาบ้างด้วยรู้สึกแปลกใจ เพราะเท่าที่เห็นคือดาวิกากับเตชินตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีอะไรกันเลย “จริงสิ ฉันยังไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ หรอกนะ” “เหรอ แต่ฉันว่าใจแกตอนนี้เหลวยิ่งกว่าน้ำอีกนะ” นางแบบสาวโพล่งขึ้นด้วยรู้จักเพื่อนของตนดี ปากก็บอกว่าไม่ใจอ่อน แต่การกระทำตรงกันข้ามทุกอย่าง “เออ ฉันเห็นด้วยกับไอ้วิวนะ” กานต์พิชชาสำทับขึ้นอีกคน “พวกแกอะ ไม่เข้าข้างฉันเลย” ดาวิกาย่นจมูก ตัดพ้อนิด ๆ ที่เพื่อนไม่ยอมเข้าข้าง “ฉันถามจริง ๆ นะ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แกมีความสุขเหรอ” กานต์พิชชาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “ถ้าให้ตอบตรง ๆ มันก็มีนะ เพราะพี่เขาดูแลและเอาใจใส่ฉันดีมาก ที่สำคัญคือเขาตามใจฉันทุกอย่าง แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นความสุขที่ไม่สุด ต้องคอยระแวงว่าเขาจะมาหลอกเอาที่ดินอีกไหม ระแวงว่าทุกอย่างที่เขาทำให้ เขาทำให้จริง ๆ ด้วยความจริงใจหรือแค่หลอกให้ตายใจเหมือนแต่ก่อน มันเป็นความรู้สึกหลอน ๆ นะ แบบ...ครั้งนึงเราเคยโดนมาแล้ว ก็กลัวว่าจะโดนอีก” ดาวิการะบายความรู้สึกข้างในออกมาให้เพื่อนทั้งสองคนฟังยาวเหยียด “อืม ฉันเข้าใจแก” กานต์พิชชาบอกอย่างเข้าใจความรู้สึกของเพื่อน “แล้วแกคิดว่าไงล่ะ คิดว่าพี่เขายังอยากได้ที่ดินผืนนั้นของแกอยู่ไหม” “คิดว่าไม่แล้วนะ อีกอย่างเขาสัญญากับฉันว่าจะไม่ยุ่งกับที่ดินตรงนั้นแล้ว” “งั้นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวแกแล้วละ จะปลดล็อกความกลัวของตัวเองได้ไหม แกต้องเลือกว่าจะอยู่แบบนี้ต่อไป หรือจะทิ้งความกลัวไว้ตรงนี้ แล้วเดินหน้าหาความสุขแบบสุด ๆ อย่างที่แกอยากได้ แกเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” ดาวิกานิ่งและคิดตามเพื่อนครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ “อืม ก็พอเข้าใจ” แล้วหันไปถามวิลาสินีที่นอนฟังเงียบ ๆ มาสักพัก “ว่าแต่ไอ้วิวเถอะ ช่วงนี้ได้ข่าวจากวงในมาว่าไม่ค่อยออกเที่ยว เป็นอะไรอะ เบื่อเหรอ” “วงในที่ไหนบอกแกมาอีกล่ะ สายเยอะจริง ๆ” นางแบบสาวอดที่จะเหน็บเพื่อนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายเผือกประจำกลุ่มไม่ได้ เป็นเรื่องปกติที่ดาวิกามักจะรู้เรื่องในวงการของเธอ “แต่สายแกมั่วนะ เพราะเมื่อวันก่อนฉันก็ไป” “แต่นุ่นบอกว่าแกไม่เหมือนเดิม ปกติแกจะสนุกกว่านี้ แต่หลัง ๆ มาคือแกจะทำหน้าเบื่อ ๆ แล้วก็กลับก่อนเวลา อีกอย่างเมื่อก่อนแกออกถี่กว่านี้เยอะ” “นุ่นไหนวะ” กานต์พิชชาถามแทรกขึ้นมาอย่างสงสัย “ก็นุ่นเพื่อนนางแบบของไอ้วิวนั่นแหละ” “แล้วแกไปรู้จักกับเขาได้ยังไง” “เมื่อตอนโน่น ฉันลงคลิปในติ๊กต๊อกกับไอ้วิวไง แล้วนุ่นก็มาคอมเมนต์ แล้วทักส่วนตัวมาถามถึงเรื่องเลี้ยงแมว เลยได้คุยกัน” ดาวิกาขึ้นชื่อว่าเป็นดาวติ๊กต๊อก เธอมักจะอัปโหลดคลิปต่าง ๆ ให้แฟนคลับได้ดู รวมถึงคลิปที่ถ่ายคู่กับวิลาสินีก็ด้วย และนุ่นหรือลัดดาเพื่อนในวงการนางแบบของวิลาสินีก็กดติดตามเธออยู่แล้ว จึงเห็นและมาคอมเมนต์ชม เธอก็เลยคอมเมนต์ตอบกลับ สักพักฝ่ายนั้นก็ทักมาปรึกษาเรื่องเลี้ยงแมว ซึ่งเธอก็ตอบไปตามประสาคนอัธยาศัยดี และเพราะคุยกันถูกคอจึงได้คุยกันต่อมาเรื่อย ๆ แล้วก็มีบ้างที่แอบเมาท์มอยถึงเพื่อนสนิทที่นอนอยู่ข้าง ๆ แต่วิลาสินีรู้ดีว่าถึงจะไม่ได้รู้จากลัดดา ก็ต้องรู้จากพี่ป๋องผู้จัดการส่วนตัวของเธออยู่ดี เพราะพี่ป๋องกับดาวิกานั้นค่อนข้างสนิทกันมาก “อ๋อ รู้จักกับเขาไปมั่วเลยเนอะ” กานต์พิชชาแอบเหน็บคนเฟรนด์ลี่ขำ ๆ “เขาเรียกทั่วถึงย่ะ ไอ้วิวก็ทั่วถึงเหมือนกันนั่นแหละ โดยเฉพาะผู้ชาย” ว่าจบดาวิกาก็เผลอหัวเราะเสียงดัง แล้วก็ต้องรีบหุบปากฉับเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเจ้าหน้าที่คลินิกกำลังขัดหน้าให้อยู่ “กลับมาที่เรื่องไอ้วิวก่อน ที่นุ่นว่าอะ จริงหรือเปล่า” นางแบบสาวถึงกับนิ่งไปพักใหญ่ ทบทวนตัวเองว่าเปลี่ยนไปอย่างที่คนรอบว่าหรือเปล่า หากพอได้ใคร่ครวญดูแล้วก็จริงอย่างที่ทุกคนบอก ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เธอเริ่มไม่อินกับการเที่ยวกลางคืนและปาร์ตีเคล้าสุราเหมือนแต่ก่อน “ไม่รู้สิ มันรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากไปไหน อยากกลับไปพักผ่อนที่ห้องมากกว่า” “ซุกใครไว้ที่ห้องก็บอก” ดาวิกาเย้าแหย่เพื่อนขำ ๆ ไม่ได้จริงจังมากนัก ทว่าคนถูกแหย่กลับเผลอเกร็งตัวขึ้นมาอัตโนมัติ เรื่องที่เธอแอบมีความสัมพันธ์แบบลับ ๆ โดยไม่ผูกมัดกับธัชพล เป็นเรื่องเดียวที่เธอไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสามคน เหตุผลคือเขาก็ไม่ใช่คนไกลตัวสักเท่าไร เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทของเหล่าสามีเพื่อนของเธอ พอคิดถึงตอนนี้แล้วก็รู้สึกว่าโลกช่างกลมเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือแค่ความบังเอิญ เพื่อนของเธอแต่งงานกับเพื่อนของเขาไปแล้วถึงสองคน คนแรกก็คือกานต์พิชชาที่แต่งกับคุณปรัชญ์และตอนนี้ก็มีลูกด้วยกันแล้วหนึ่งคน คนที่สองคือจิราวดีแต่งกับคุณหมอปฐพี ซึ่งเพิ่งจะคลอดลูกแฝดเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนคู่ของดาวิกากับคุณเตชินนั้นยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ก็คิดว่าคงอีกไม่นาน เพราะตอนนี้ฝ่ายชายยอมจำนนให้เพื่อนเธอหมดแล้วทุกอย่าง แล้วตอนนี้เธอยังมายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายกลุ่มนั้นอีก ต่างกันแค่เธอกับเขาไม่ได้คบกันจริงจังเหมือนคู่ของเพื่อน ๆ เท่านั้น และเธอก็เชื่อว่า...ความสัมพันธ์แบบ Friends with benefits สักวันก็ต้องมีจุดจบ และคิดว่าวันนั้นมันเริ่มใกล้เข้ามาทุกที “เพ้อเจ้อ แกก็รู้ว่าฉันไม่เคยพาใครขึ้นห้อง” นางแบบสาวเอ่ยกลั้วหัวเราะคล้ายเป็นเรื่องตลก หากแต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ตลกเลย เพราะเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เธอยอมให้เขาเป็นข้อยกเว้น เธอไม่เคยอนุญาตให้คนที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทขึ้นไปถึงบนห้อง เขาคือคนแรกที่เธอยอม อีกทั้งยังถึงขั้นยอมให้ค้างด้วยอีกต่างหาก “ใครจะไปรู้ แต่จริง ๆ ฉันแอบสงสัยตั้งแต่เห็นกระป๋องเบียร์รสฝาด ๆ ในตู้เย็นแกแล้วนะ ปกติแกไม่ดื่มเบียร์รสนั้น” ดาวิกาว่าต่อ กานต์พิชชาขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถามอย่างให้ความสนใจ “เบียร์รสไร” “ก็เบียร์ทั่วไปนั่นแหละ แต่แกก็รู้ใช่ปะล่ะว่าไอ้วิวมันไม่กินเบียร์แบบนั้น มันจะกินแต่รสหวาน ๆ กลิ่นหอม ๆ” เมื่อนานมาแล้วดาวิกาเคยไปหาวิลาสินีที่ห้อง จึงบังเอิญไปเห็นกระป๋องเบียร์ในตู้เย็น แอบสงสัยนิด ๆ ว่าเพื่อนกินเบียร์รสขมฝาดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หากก็ปล่อยผ่านไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากนัก “มันก็แค่เบียร์ไหม ปกติไม่กินก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่กิน” นางแบบสาวพูดด้วยน้ำเสียงปกติ พยายามไม่แสดงพิรุธอะไรทั้งนั้น “ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอก แต่เพิ่งมาคิดตอนที่ได้คุยกับนุ่นนี่แหละ แกจะรีบกลับห้องไปทำไม ถ้าไม่ได้ซุกใครไว้” ดาวิกายังคงเดินหน้าจับผิดเพื่อนต่อ เรื่องของคนอื่นนี่เก่งนัก! “เอ้า ไอ้นี่ แกไม่คิดว่าฉันจะทำงานเหนื่อยจนอยากกลับไปพักผ่อนบ้างหรือไง คนนะไม่ใช่หุ่นยนต์ ที่จะเที่ยวได้ตลอด” วิลาสินีแสร้งทำเป็นหงุดหงิดนิด ๆ เพื่อกลบเกลื่อน ทว่าอาการที่เธอแสดงออกมานั้นกลับทำให้เพื่อนทั้งสองเกิดความสงสัยมากกว่าเดิม ดาวิกาไม่ต่อบทสนทนากับวิลาสินี แต่หันไปถามกานต์พิชชาแทน “กานต์ แกคิดเหมือนที่ฉันคิดไหม” “อืม เริ่มแปลก ๆ ละ มันดูเปลี่ยนไปจริง ๆ” คราวนี้กานต์พิชชาเข้าข้างและเห็นด้วยกับดาวิกา “ตั้งแต่รู้จักกันมา ฉันได้ยินมันพูดอยู่ตลอดว่าการปาร์ตีคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับมัน แต่พอมาวันนี้คำตอบมันเปลี่ยนไปว่ะ” “ใช่มะ” ดาวิกาผู้มีความเร็วในการใส่ใจเรื่องชาวบ้านพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันกลับมาคาดคั้นคนที่ตกเป็นที่ต้องสงสัยอีกครั้ง “ว่ายังไง จะสารภาพมาดี ๆ หรือจะให้พวกฉันสืบเอง” “โอ๊ย มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่ช่วงนี้ฉันรู้สึกเบื่อ ๆ อยากนอนมากกว่า ไม่มีผะ...ผู้ชายอย่างที่พวกแกคิดหรอก เสร็จแล้ว ฉันออกไปรอข้างนอกนะ” นางแบบสาวออกอาการร้อนรนราวกับคนมีความผิด เป็นจังหวะที่พนักงานเช็ดทำความสะอาดหน้าขั้นตอนสุดท้ายเสร็จพอดี เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไปนั่งรอข้างนอกเพื่อตั้งสติ “เอ๊า หนีซะงั้น” ดาวิกามองตามร่างเพรียวระหงของเพื่อนออกไปด้วยรู้สึกงุนงงนิด ๆ ก่อนจะหันมาพูดกับกานต์พิชชาที่นั่งทำหน้างงอยู่เช่นกัน สองเพื่อนสนิทสบตากันเพียงครู่เดียว จากนั้นก็พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า... “มีผัวชัวร์!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD