ทว่าเหตุการณ์ที่ชัดเจนที่สุดก็น่าจะเป็นตอนมอห้าเทอมสองช่วงที่ผมต้องอยู่ซ้อมดนตรีกับเพื่อนในวงหลังเลิกเรียนเพื่อขึ้นแสดงในงานปัจฉิมนิเทศรุ่นพี่มอหก ทุกวันหนามเตยก็จะมานั่งรอผมซ้อมกระทั่งเลิกแล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกัน แต่ทว่าวันนั้นคุณยายของหนามเตยเดินทางจากเชียงใหม่มาเยี่ยมหลานสาวที่กรุงเทพฯ หนามเตยก็เลยต้องกลับก่อนเพื่อไปหายาย “หนามเตยแม่งโคตรน่ารัก จะกลับแล้วก็ยังไปซื้อน้ำมาไว้ให้มึงแดกอีก จะว่าไปหนามเตยนี่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยว่าปะ” ไอ้ไอซ์มือกลองของวงเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างห้องของผมพูดขึ้นระหว่างทางที่เรากำลังเดินไปที่ห้องซ้อมดนตรีด้วยกัน หลังจากที่หนามเตยวิ่งเอาน้ำที่เพิ่งไปซื้อมาให้ผมไว้ดื่มระหว่างที่ซ้อม “ว่าแต่ หนามยังไม่มีแฟนใช่ปะวะ” คำถามนี้ของไอซ์ทำให้คิ้วเข้มของผมกระตุก หันหน้าไปหรี่ตามองมันด้วยสายตานิ่งไม่พอใจ “ทำไม?” “ก็ไม่ทำไม แค่ถามดู ถ้าหนามยังไม่มีแฟนกูจะจีบ” “อย่ายุ่งกับหนาม