ตอนที่ 14

2030 Words
ทัช ธารากร หลายวันมานี้หลังจากที่ผมไปเจอแบงค์พร้อมน้องทอส ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวแบงค์ผมยังคงเก็บไว้ในใจ ไม่ได้ปรึกษาคนรักของตัวเองแต่อย่างใด เพราะไม่อยากให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นอีก ไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นห่วงความรู้สึกของคนรักของตัวเองมากกว่าพี่ชายของเขา ในขณะเดียวกันผมกำลังพยายามหาทางช่วยแบงค์อยู่ตลอดเวลา ผมกับทอสได้มาเช่าอพาร์ทเม้นท์ห้องเล็กๆอยู่ใกล้บริเวณบ้านของแบงค์ เผื่อหากเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นกับพี่ชายคนรักของผมเราสองคนจะได้รีบไปช่วยได้ทัน ในความรู้สึกไม่สบายใจที่ยังเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เห็นร่องรอยที่แทบจะสังเกตไม่เห็นตามบริเวณร่างกายของแบงค์ มันทำให้ผมตัดสินใจชวนทอสไปเที่ยวหาแบงค์เพื่อจะได้เป็นการช่วยเข้าไปในตัวหากกำลังเกิดอะไรขึ้นกับเขาอยู่ ผมจึงหันไปมองคนที่ยังคงนอนหลับบนเตียงนุ่ม ในท่านอนที่ดูคล้ายกับเด็กๆ "น้องทอสตื่นเถอะครับสายแล้ว" ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูเพื่อเป็นการปลุกคนรักที่กำลังนอนขี้เซา "อื้ม… พี่ทัชตื่นนานแล้วหรอครับ" เขาถามกลับผมในขณะที่ยังไม่ลืมตา ช่างเป็นภาพที่น่ารักมาก "พี่ตื่นได้สักพักใหญ่แล้วครับ นี่มีของอร่อยๆ มาให้ที่รักพี่กินด้วยนะ" น้องทอสดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเมื่อได้ยินคำว่าของอร่อย ผมอดยิ้มกับท่าทางความน่ารักของเขาไม่ได้เสียเหลือเกิน แล้วลุกไปจัดแจงอาหารและขนมใส่ภาชนะที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ "เดี๋ยวก่อน! ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนครับผม" ที่รักผมถึงกับทำหน้างอนตุ๊บป่องทันที เมื่อได้ยินคำพูดจากผมเมื่อสักครู่นี้ แต่เขาก็ยอมปฏิบัติตามด้วยความจำใจปนความน่ารักน่าชัง แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมจึงรีบจัดการเสื้อผ้าตัวเองออกจากร่างจนหมดแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปช่วยเขาและตัวเองอาบน้ำชำระร่างกายในคราวเดียวจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาหลายรอบ โดยที่น้องทอสพยายามส่งเสียงค้านตลอดเวลา ว่าเขาอยากจะกินของอร่อยๆก่อนแล้วค่อยอาบน้ำ ไม่ว่ายังไงผมก็จัดการชำระล้างร่างกายเขาจนสะอาดหมดจด ก่อนจะรีบหยิบผ้าเช็ดตัวซับหยดน้ำตามร่างกายของเขาจนแห้ง พากันเดินออกจากห้องน้ำที่รักของผมก็ยังไม่หยุดบ่น จึงทำให้กิจวัตรในยามเช้าคละคลุ้งไปด้วยเสียงบ่นของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียผมอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดเขาก็หยุดปากได้เมื่อเห็นอาหารจานโปรดที่อยู่ตรงหน้า น้องทอสไม่รอช้ารีบหยิบช้อนตักอาหารจานโปรดมาใส่จานข้าวตัวเองแล้วรีบจัดการอาหารมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อยไปพร้อมกันกับผม จากคำพร่ำบ่นเปลี่ยนเป็นคำชมไม่หยุดปาก ถึงอาหารแต่ละเมนูที่ผมสรรหามาเป็นอย่างดีเพื่อเขา ขณะเดียวกันผมก็พูดกันถึงกิจกรรมวันนี้ว่าเราทั้งสองจะไปที่ไหนกัน ยิ่งทำให้เขามีรอยยิ้มและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข "ผมอิ่มแล้วครับพี่ทัช เราไปหาพี่แบงค์กันเลยนะครับ" ผมหันหน้าปัดนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็เป็นเวลาเกือบบ่ายโมง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ จากนั้นน้องทอสได้ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าสะพายของผมและของเขาเดินมาที่ประตูห้องโดยมีผมยืนรออยู่หลังจากที่เราจัดการทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารเป็นที่เรียบร้อย ทอส ธีรภพ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ไปหาที่แบงค์อีกครั้ง ระหว่างทางที่ผมกับพี่ทัชกำลังนั่งแท็กซี่ไปหาพี่ชายสุดที่รักของผม มีบางช่วงที่ผมเห็นสีหน้าคนรักเหมือนกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ ในมือของเขาก็ถือแท็บเล็ตที่อ่านเอกสารอะไรสักอย่างเหมือนตอนตอนที่อยู่ออสเตรเลีย ผมจึงเข้าใจว่าเขาอาจกำลังตรวจงานจึงมีสีหน้าเคร่งเครียดแบบนั้น "พี่ทัชมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ" ด้วยความที่อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ผมจึงตัดสินใจถาม "น้องทอสสัญญากับพี่ได้ไหมถ้าพี่บอกไป น้องทอสจะใจเย็นๆ และมีสติ" จากคำพูดของคนที่ผมรักมันทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันท่วงที โดยมุ่งเน้นไปที่พี่แบงค์อย่างไม่ลังเล แล้วพยักหน้าช้าๆให้เขาแทนคำตอบ "จำวันที่เราไปหาแบงค์ที่บ้านได้ไหม" ผมยังคงพยักหน้าแทนคำตอบเช่นเดิม เพราะใจของผมตอนนี้กำลังพยายามควบคุมความกังวลที่กำลังก่อตัวขึ้นช้าๆ "วันนั้นพี่สังเกตเห็นร่องรอยสีจางๆ ตามตัวแบงค์ พี่เองก็พยายามสังเกตอยู่ว่ามันคือรอยของอะไร แต่ความรู้สึกมันบอกพี่ว่า ร่องนอยนั้นอาจจะเกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายก็เป็นได้" ผมฟังถึงตรงนี้ถึงกลับตกใจมาก ว่าทำไมผมไม่ได้สังเกตเห็นอย่างที่พี่ทัชเห็นเลย หรืออาจเป็นเพราะว่าผมเป็นห่วงและอยากเจอพี่แบงค์มากกว่าที่จะไปสังเกตรายละเอียดยิบย่อยแบบนั้น "หากร่องรอยเหล่านั้นคือการถูกทำร้ายร่างกาย งั้นก็แสดงว่าไอ้นะต้องอยู่ในบ้านพี่แบงค์แน่นอน โดยที่พี่แบงค์อาจปิดบังเรื่องนี้เพราะด้วยสาเหตุจำเป็นบางอย่าง" ผมรีบเสริมความคิดเห็นที่คาดว่าน่าจะเป็น หากพี่ทัชเห็นรอยถูกทำร้ายแบบนั้น แล้วคนที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นได้คงหนีไม่พ้นไอ้นะคนเดียวเท่านั้น "ถ้าทุกอย่างที่เราคิดเป็นเรื่องจริง ดังนั้นตอนที่เราไปถึงบ้านแบงค์ พี่กับน้องทอสต้องทำตัวเป็นปกติที่สุด เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ แล้วเราค่อยหาโอกาสช่วยเหลือแบงค์อีกที" "ตกลงตามนั้นครับพี่ทัช" ผมตอบตกลงด้วยเสียงหนักแน่น พร้อมกับเตรียมใจให้กลับสู่โหมดปกติโดยเร็วในขณะที่รถแท็กซี่กำลังจะจอดบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าบ้านของพี่แบงค์ นะ นที น้องชาร์ปมองกล้ามท้องผมตาเป็นมัน คล้ายกับว่าไม่เคยเห็นซิกแพคผู้ชายแบบนี้มาก่อน แววตาของเขาแสดงออกถึงความตื่นเต้นที่ได้สัมผัสกล้ามท้องของผมด้วยฝ่ามือน้อยๆของเขา แบบนี้ก็เข้าทางผมเลยสิ พูดง่าย เข้าใจอะไรง่าย ไม่ต้องออกแรงอะไรเยอะ รับรองคืนนี้ผมได้มีความสุขทั้งคืนแน่นอน ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ความรู้สึกควบคุมตัวผมจนเด็กหนุ่มตรงหน้าจะผิดสังเกตได้ว่า ผมอยากครอบครองตัวเขามากแค่ไหน ระหว่างนั้นไอ้แบงค์มันไม่ยอมไปไหนเลย ผมชักจะเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง ที่เหมือนมีก้างขวางคอไม่ให้ผมได้ทำอะไรสะดวก หรือผมจะจัดการเด็กน้อยตรงหน้าตอนนี้เลยก็ได้เพราะยังไงมันคงไม่กล้าขัดความต้องการของผมหรอก เพราะมันรู้ดีถ้ามันกล้าขัดขวางผมอะไรจะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น เพื่อไม่ให้กระต่ายตื่นตูมผมจึงทำได้เพียง ยืนเบ่งกล้ามให้หนุ่มน้อยตรงหน้าลูกลอนกล้ามบริเวณแขนหน้าท้องแล้วก็ขาเล่นอย่างสนุกมือ โดยที่ผมเองบางช่วงที่แอบสัมผัสแก้มขาวๆ เอวคอดอยู่หลายครั้ง ไม่มีทีท่าว่าน้องชาร์ปจะปฏิเสธการกระทำของผม ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องยากถ้าผมใจอยากได้เด็กคนนี้ในค่ำคืนที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ติ๊งหน่อง… ติ๊งหน่อง… ระหว่างที่ผมกำลังสนุกสนานกับหนุ่มน้อยที่เปรียบเสมือนคู่แฝดไอ้ทอส เสียงออดที่ประตูรั้วหน้าบ้านก็ดังขึ้น ไอ้เจ้าของห้องจึงรีบวิ่งมาดูที่ระเบียงห้องนอน ก่อนที่มันจะทำหน้าดีใจเหมือนมีใครกำลังมาช่วยมันกับหลานชายคนนี้ "ชาร์ปพี่ทัชกับทอสมา!" มันหันมาพูดกับหลานชายตัวเองด้วยสีหน้าดีใจ แล้วเหมือนเป็นไปตามคาดเด็กหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับการลูบหน้าท้องผมรีบหันกลับไปด้วยสีหน้าตื่นเต้นมากกว่าเดิม "จริงหรอครับน้าแบงค์" ผมรีบพยักหน้าแทนคำตอบ "เดี๋ยวชาร์ปขอตัวก่อนนะครับน้านะ ผมไม่ได้เจอน้าทอสกลับน้าทัชนานแล้วคิดถึงมากเลยครับ" หลานชายของมันทันทีที่พูดจบก็วิ่งออกไปเผลอเปิดประตูห้องนอนแล้วหายไปเลย ปล่อยให้ผมยืนอารมณ์เสียอยู่กับคนเป็นน้าของมัน ในจังหวะเดียวกันนั้นไอ้แบงค์เตรียมจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนอน ผมจึงรีบคว้าตัวมันเหวี่ยงลงบนที่นอนอย่างแรงด้วยความโมโห "มึงคิดว่ามึงจะช่วยมันได้ตลอดใช่ไหม มึงคิดผิด!" ทันทีที่ผมพูดจบผมก็กระโจนทับตัวมัน แล้วลงมือระบายความอัดอั้นที่ไม่สามารถลงกับหลานชายมันได้ กลับมาลงที่ตัวมันแทนอย่างสาสมและสาหัสสากรรจ์ถามที่ผมต้องการ ท้ายที่สุดผมกลับทำได้เพียงความคิด เมื่อจู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเคาะจากคนด้านนอก "น้าแบงค์ น้าทอสเรียกครับ" "น้ากำลังไปครับ" มันผลักผมออกจากตัวของมันแล้วจะแจ้งเสื้อผ้าให้กลับสู่สภาพเดิม พร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้องแล้วหายออกไปทั้งคู่ การกระทำของมันครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก มันไม่รู้หรอกว่ามันกำลังเล่นอยู่กับใคร อย่างนี้ผมคงต้องตัดไฟแต่ต้นลมซะที ผมจึงมานั่งลงที่ขอบเตียงเพื่อคิดแผนการว่าจะกำราบความกล้าท้าทายอำนาจผมให้มันได้รู้ว่า อย่ามาเล่นกับไฟ… แบงค์ บวรวิชญ์ ผมรู้สึกโล่งใจและดีใจในเวลาเดียวกัน หลังจากที่พาหลานชายลงมาหาน้องทอสด้านล่างได้ โดยให้น้องชาร์ปลงมาก่อน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ในขณะที่ผมถูกคนเลวเตรียมจะกระทำอันเลวทรามร่างกายผม หลังถูกผมขัดใจดึงตัวหลานชายให้พ้นน้ำมือมัน ผมต้องตกใจสุดขีดเมื่อเดินลงมาชั้นล่าง ได้ยินหลานชายวัยเดียวกับน้องทอสกำลังเล่าถึงไอ้คนเลวที่อยู่บนห้องนอนของผม หัวใจผมแทบหล่นไปตาตุ่มเพราะไม่ได้กำชับน้องชาร์ปก่อนออกจากห้องนอน ว่าห้ามพูดถึงเรื่องผู้ชายบนห้องของน้าเด็ดขาด มันสายไปเสียแล้ว ขณะเดียวกันผมกลับเห็นสีหน้าน้องทอสกับทัชดูตื่นเต้นกับเรื่องราวที่หลานชายผมกำลังสาธยายอยู่ ซึ่งทำให้ผมพอเข้าใจเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเขาทั้งสองอาจจะเตรียมตัวเพื่อที่จะมาช่วยเราสองคนน้าหลานแล้วก็ได้ สิ่งที่ผมพอจะทำได้ก็คือการสนทนาในเรื่องราวเดียวกันกับพวกเขาเท่าที่จะพูดได้เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับทุกคนในบ้านหลังจากที่ทั้งสองคนนี้กลับไป "พี่แบงค์มานี่กับผมหน่อย!" ระหว่างนั้นน้องทอสมากระซิบที่ข้างหูของผมก่อนจะจับมือผมจุงออกไปทางหลังบ้าน ซึ่งเป็นตำแหน่งคนละฟากกับห้องนอนชั้นบนเพื่อที่จะไม่ทำให้คนด้านบนสงสัย นั่นแปลว่าเขาทั้งสองคนเตรียมการมาเป็นอย่างดี…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD