สามสิบนาทีผ่านไป...
เวลาผ่านไปนานหลายนาทีพระพายยังคงนั่งเหยียดขายาวฝ่ามือรองหัวจ้องมองโซดาที่หลับไปแล้วในท่าเดิม เขาไม่แม้แต่จะขยับกายเข้าหาโซดา นั่งนิ่งมองคนข้างๆ หลับอยู่อย่างนั้นตามที่คนข้างๆ สั่งไว้ ขณะที่ริมฝีปากหนาก็ขยับยิ้มบางๆ ส่งทอดผ่านแววตาอ่อนโยนที่กำลังมองโซดาไปด้วย
ปกติเขาไม่เคยจะได้มองผู้หญิงคนไหนอย่างพิจารณาแบบนี้ ขนาดตอนคบกับแฟนเก่าอย่างใบเฟิร์นเขายังไม่เคยนั่งจ้องมองใบหน้าแล้วนั่งยิ้มให้แบบนี้เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะอายุเท่ากันหรือเปล่า เขากับใบเฟิร์นไม่ค่อยจะได้คุยกันปกติสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะทะเลาะกัน และที่หนักมากๆ ก็ตอนใกล้ๆ ที่จะโดนบอกเลิก ช่วงนั้นแทบจะไม่ได้มองหน้ากันเลยเพราะทะเลาะกันตลอด สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันอยู่สักพัก เผื่อจะทุเลาลงบางแต่เปล่าเลย เขากลับโดนบอกเลิกซะงั้น
ซึ่งมันก็ไม่เป็นไรเลย เพราะถ้ามันไม่ใช่คู่กันยังไงมันก็ไม่ใช่
"ความรักของฉันขอเป็นเธอคนสุดท้ายได้ไหม" พระพายพึมพำออกไปเสียงเบาหวิวขณะที่สายตายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของโซดาเหมือนเดิม
หมับ!
"อื้อ หนาวอะ"
พึมพำจบได้ไม่ถึงเสี้ยววินาที จู่ๆ คนที่กำลังนอนอยู่ก็ตะปบแขนกอดเอวหนาของเขาไว้ ก่อนที่จะขยับตัววางใบหน้าไว้บนแผงอกของเขาแล้วกอดกระชับแน่นๆ คล้ายต้องการความอบอุ่นเพื่อบรรเทาความเหน็บหนาวในกายตนเอง
แต่การกระทำแบบนี้มันดันทำให้คนที่ไวต่อสัมผัสอย่างเขาอ่อนไหวนี่สิ โดนกอดขนาดนี้เขาถึงกับนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อมือไม้ยกขึ้นไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหนเลยทีเดียว
"เฮ้อ~ แล้วเธอสั่งเองว่าไม่ให้..."
"อื้อออ อุ่นจัง" พระพายชะงัก พูดไม่ทันจบประโยคก็โดนโซดาที่หลับอยู่พึมพำแทรกขึ้นมา คิ้วหนาจึงเลิกขึ้นอย่างสงสัยก่อนที่จะก้มหน้าต่ำค่อยๆ แอบมองใบหน้าสวยว่าหลับจริงหรือเปล่า
แต่...
พรึบ!
"เชี้ยเอ้ย ปีนขึ้นมาแบบนี้เลยเหรอวะ" แต่กลับโดนโซดาขยับตัวปีนขึ้นมานอนทับบนร่างกายซะก่อน เขาเลยต้องนอนตัวตรงๆ นิ่งๆ อย่างอัตโนมัติ พลางมองขึ้นข้างบนอย่างท้อแท้ใจ เพราะสภาพขึ้นมานอนทับใต้ผ้าห่มแบบนี้มันไม่ค่อนข้างที่จะ...
อ่อนไหวเป็นบ้า!
"เธอแม่งกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า" ร่างกายที่กำลังสัมผัสกันใต้ผ้าห่ม ยิ่งคนตัวเล็กบนร่างกายขยับตัวไปมาไอ้ลูกชายที่อยู่ในความสงบนิ่งมานานก็เหมือนจะกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
ในขณะที่คนหลับไม่รู้เรื่องราวอย่างโซดากำลังหลับฝันดีเพราะเสียงเพลงที่ได้ยินดังกึกก้องในหูอย่างไพเราะกับความฝันที่กำลังจินตนาการอย่างมีความสุข...
ขนมปังเป็นก้อนๆ ทำไมมันน่ากินขนาดนี้ เพราะกำลังฝันว่ากำลังลูบขนมปังนุ่มๆ ในมือ ฝ่ามือนุ่มอย่างกับเด็กเล็กจึงบรรจงลูบไล้แถวหน้าท้องของพระพายที่มีหมัดกล้ามบางๆ อย่างในความฝันด้วยเคลิบเคลิ้ม ทำเอาเจ้าของร่างกายอย่างพระพายถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องต้องรีบตะปบจับมือเล็กให้หยุดลูบทันที
เพราะการถูกลูบมันไม่ได้ทำให้เกิดผลดีกับร่างกายของเขาเท่าไหร่นัก แค่โดนนอนทับแต่กลับทำอะไรไม่ได้อย่างตอนนี้เขาก็ทรมานแทบระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว นี่ยังมาโดนลูบหน้าท้องเล่นเกือบจะทะลวงลงไปจุดสำคัญอีก
ให้ตายเถอะ เขาอยากจะบ้าตาย
.
.
.
เช้าวันต่อมา...
"อื้อออ" เสียงอืออาในลำคอเปล่งออกมาเบาๆ ในเช้าตรู่ของอีกวันพร้อมกับบิดตัวขยับแขนขาไล่ความเมื่อยออกจากร่างกาย แต่จังหวะที่ขยับตัวเมื่อกี้ จู่ๆ โซดาก็รู้สึกว่าพื้นที่นอนมันแปลกไป มันมีเสียงตุบตุบดังออกมาคล้ายเสียงหัวใจกำลังเต้นยังไงอย่างนั้น และเพราะแบบนั้นเธอจึงผงกหัวตัวเองขึ้นเพื่อมองหาความผิดปกติของพื้นที่นอน
แต่พอได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของพระพายกำลังหลับพริ้มเท่านั้นแหละ เธอถึงกับลุกขึ้นปีนลงไปนั่งข้างๆ ทันทีพร้อมกับท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนอย่างทำตัวไม่ถูก
"ให้ตายเถอะ เมื่อคืนฉันปีนไปนอนบนตัวเขาทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย"
"อืม เธอปีนขึ้นมานอนบนตัวฉันทั้งคืนเลย" พระพายตอบเสียงอือในลำคอเบาๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงของโซดานั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ตามด้วยค่อยๆลืมตามองโซดาที่กำลังทำหน้าตกใจอยู่ข้างๆ
จริงๆ แล้วเขารู้สึกตัวตั้งแต่ที่คนตัวเล็กปีนลงไปนั่งข้างล่างแล้วแต่แค่แกล้งหลับไปก่อนเพราะอยากรู้ว่าโซดาจะทำยังไงถ้ารู้ตัวว่าเมื่อคืนปีนขึ้นมานอนบนร่างกายของเขาทั้งคืน แต่พอเห็นคนข้างๆ นิ่งเงียบไปเขาก็เลยพูดประโยคต่อมาว่า "แถมเมื่อคืนเธอยังคิดจะปล้ำฉันอีกด้วย มือไม้ซุกซนอย่างกับหนวดปลาหมึกฉันปัดป่ายแทบไม่ทัน จ้องจะล้วงหาลูกชายฉันท่าเดียวเลย"
"บ้าเหรอ พี่อย่ามาพูดจาโกหกโซหน่อยเลย โซไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก" โซดารีบปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะมันไม่มีทางที่เธอจะทำอย่างที่คนตรงหน้าพูดอยู่แล้ว
นอนละเมอแล้วล้วงไอ้นั่นเขาเหรอ ไม่มีทางหรอก
"ไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อคืนฉันเสียตัวให้เธอไปแล้ว รับผิดชอบฉันด้วย" ใบหน้านิ่งเรียบแต่แฝงความเจ้าเล่ห์ไว้ทุกองศาบนใบหน้ารวมถึงสายตานิ่งๆ ที่กำลังจ้องมองโซดานั่นด้วย
ถ้าใช้สติมองดีๆ จะรู้เลยว่าในดวงตาทรงเสน่ห์แต่เรียบเฉยไม่มีความทุกข์ร้อนใจอย่างที่ควรเป็นนั้นกำลังใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าจัดการผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าให้ดิ้นไปไหนไม่รอด เขากำลังขยายความใกล้ชิดให้เธอติดกับดักอย่างช้าๆ แต่กลับแยบยลเหนือชั้น
"เดี๋ยวนะ เสียตัวอะไรกันเสื้อผ้าก็อยู่ครบ แล้วเราไปเสียตัวกันตอนไหน" น้ำเสียงตึงเครียดเอ่ยถามพร้อมด้วยแสดงออกทางสีหน้าไปในทิศทางเดียวกันอย่างเปิดเผย เมื่อเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกายตอนนี้มันไม่ได้มีชิ้นไหนหายไป ทุกอย่างยังอยู่ครบ แล้วจะเสียตัวได้ยังไงกัน
ถึงแม้ว่าเธอจะตื่นมาเห็นสภาพตัวเองนอนอยู่บนร่างกายของอีกฝ่ายแต่เธอก็มั่นใจว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน แค่ฝันว่าได้กินขนมปังก้อนเฉยๆ แล้วจะไปลูบไล้ร่างกายของเขาทำไม
โกหกกันชัดๆ
"ตอนเธอเอามือตัวเองมาลูบร่างกายของฉันไง ไม่รู้แหละแตะต้องร่างกายของฉันแล้วเธอก็ต้องรับผิดชอบ" เหอะ โกหก มันคือคำพูดโกหกหลอกลวงกันชัดๆ เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าตัวเองจะทำอย่างนั้น
"มั่ว พี่มันมั่วซั่วที่สุด ฉันไม่รับผิดชอบหรอก" เธอไม่ได้แตะต้องร่างกายของเขาอย่างที่ถูกกล่าวหาเพราะฉะนั้นเธอจะไม่รับผิดเด็ดขาด
"ถ้าเธอไม่รับผิดชอบ งั้นฉันจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเมื่อคืนเธอวิ่งเข้ามาในเต็นท์ของฉันแล้วกระทำชำเราร่างกายของฉัน" โซดาหน้าเหว๋อ อ้าปากค้างกับประโยคที่ได้ยินจากปากของพี่รหัสจอมเจ้าเล่ห์ตรงหน้า ทำเอาเธอเลือดขึ้นหน้ารู้สึกโมโหตั้งแต่เช้าเลย
"พี่อยากโดนตบปากหรือไง โซไม่ได้ทำอะไรพี่!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดลั่นออกไปอย่างนึกโมโห รู้สึกเดือดดาลจนอยากเข้าไปตะปบหัวแล้วดึงเส้นผมออกจากหัวให้หมด
"เหอะ ใช้มือลูบหน้าท้องของฉันจนมันสึกหรอไปหมดแล้วยังมาตีเนียนไม่อยากรับผิดชอบอีก เห็นแก่ตัวชะมัดเอาความสุขใส่ตัวเองแต่ทิ้งความทุกข์ให้คนอื่น แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน" พระพายแค่นเสียงในลำคออย่างเย้ยหยันหลังจากที่ได้เห็นท่าทางเกรี้ยวโกรธของโซดาที่แสดงออกให้เห็น ก่อนจะพูดต่อว่าอย่างน้อยอกน้อยใจด้วยท่าทางและสีหน้าเศร้าซึมอย่างกับนักแสดงฮอลลีวูดในเวลาต่อมา
"ไปกันใหญ่ล่ะ ก็ได้ถ้าพี่จะให้ฉันรับผิดชอบ จากข้อตกลงที่ให้ไปกินข้าวด้วยกันสิบห้าวันอะ ฉันเพิ่มให้อีกสิบห้าวันเป็นหนึ่งเดือนไปเลย ฉันเลี้ยงด้วย โอเคไหม"
เธออยากจะบ้าตาย ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้เห็นท่าทางของผู้ชายอกสามศอกร่างกายดูกำยำแสดงท่าทางบีบน้ำตาให้รับผิดชอบได้เหมือนผู้หญิงขนาดนี้
"ดิลครับ"
"เหอะ พี่มันเจ้าเล่ห์ที่สุด" หลังจากที่ได้เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนักแสดงมืออาชีพของพระพาย โซดาถึงกับยิ้มหยันกลอกตามองบนด้วยความเหลือเชื่อ
เธอสุดจะบรรยาย กลับไปเมื่อไหร่ซิ่วไปลงเอกการแสดงเถอะ ถ้าจะเก่งขนาดนี้!