บทที่ 3 "รุ่นพี่ในรูปแบบปลากัด"

2333 Words
Soda part... สวัสดี...ฉันชื่อโซดา เป็นน้องรหัสไอ้คนที่นั่งจ้องหน้าฉันอยู่ตอนนี้ ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว มีพี่ชายสองคนเป็นแฝดคนละใบชื่อเบียร์กับไวน์สองคนนั้นอายุห่างกันแค่หนึ่งปีกำลังเรียนแพทย์ชั้นปีที่สามทั้งสองคน ส่วนฉันเลือกเรียนวิศวะเครื่องกลเพราะที่บ้านเปิดอู่ ฉันสนใจเกี่ยวกับงานในอู่รถตั้งแต่เรียนมัธยมก็เลยสอบเข้าคณะนี้ แทนที่จะสอบเข้าคณะแพทย์เหมือนพี่ๆ แต่เห็นฉันเรียนวิศวะแบบนี้ฉันก็ไม่ได้แข็งแกร่งดั่งชายไทยอะไรนะ ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เปราะบางเหมือนคนทั่วๆ ไป ถึงแม้ว่าไอ้ความเปราะบางของฉันมันจะไม่ค่อยได้แสดงออกให้ใครเห็นก็เถอะ แต่ฉันก็สวยเปราะบางน่าทะนุถนอมนั่นแหละ เว้นเสียแต่เวลาที่เจอไอ้พี่รหัสกวนตีนอย่างหมอนี้นี่แหละ ฉันถึงต้องแข็งแกร่งสู้คนขึ้นมา ก็ตัดภาพมาที่ตอนนี้สิ...หลังจากที่ฉันพูดประโยคเมื่อกี้จบฉันก็กระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ พี่พระพายแบบโนสนโนแคร์ทันที โดยที่สายตาของฉันกับเขายังคงจ้องตากันเป็นประกายไฟแล็บอยู่อย่างนั้น ถามว่าฉันต้องกลัวพี่รหัสตัวเองไหมที่เขาทั้งตัวใหญ่กว่าสูงกว่าแถมอยู่ในกลุ่มแก๊งที่มีอิทธิพลในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกด้วย บอกเลยว่าฉันไม่กลัวหรอก ต่อให้ใหญ่แค่ไหนฉันก็ไม่กลัวผู้ชายที่ชื่อพระพายแน่นอน ผู้ชายที่ทำตัวน่าขยะแขยงมากกว่าน่าเคารพอย่างเขามีอะไรให้ต้องกลัว? อะ เดี๋ยวจะงงว่าทำไมฉันกล่าวหาพี่รหัสตัวเองแบบนั้น งั้นฉันขอขยายความคำว่าน่าขยะแขยงก่อนแล้วกัน ที่ฉันบอกว่าพี่รหัสของฉันน่าขยะแขยงเนี่ย ก็เป็นเพราะว่าเขาทำตัวของเขาเองทั้งนั้น คือฉันไม่ชอบผู้ชายที่ทำตัวเป็นพ่อคาสโนว่า ควงคนนู้นทีคุยคนนี้ที คือพูดง่ายๆ ผู้ชายหลายใจอะ ฉัน ไม่ ชอบ! ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆ มานี้ฉันจะได้ข่าวว่าพี่พระพายเขาเทสาวๆ ในสต๊อกทิ้งไปหมดแล้วเพื่อคุยกับพี่ใบเฟิร์นคณะบริหารแค่คนเดียว แต่ประวัติความเจ้าชู้อันโชกโชนก็ยังทำให้ฉันรู้สึกไม่ประทับใจเขาอยู่ดี นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันค่อนข้างที่จะเกลียดไอ้พี่รหัสตัวเองมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้จะแอบรู้มาบ้างว่าฮีโสด แต่นั่นก็น่าจะไม่นานหรอก เดี๋ยวก็กลับไปวนลูปเดิมอีก เชื่อฉันสิ ฉันสังเกตเขามาตั้งแต่วันที่รู้ว่าเป็นพี่รหัสของฉันแล้ว "ที่นั่งมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่เลือกที่จะนั่งข้างฉัน นี่เธอคิดจะอ่อยฉันหรือเปล่าฮะ" เหอะ ไอ้บ้ากามเอ้ย! มีทางเลือกให้คิดตั้งมากมายแต่เลือกที่จะคิดว่าฉันมานั่งอ่อยตัวเองเนี่ยนะ มั่นหน้ามาก! ก็รู้ว่าหน้าหล่อ ตัวสูง ผิวขาวเหลืองสุขภาพดีแบบที่ผู้หญิงกรี๊ดอยากได้ แต่จำไว้เลยว่าฉันไม่คิดที่จะอยากได้ยะ! หล่อแบบนี้เป็นโรคอยู่เปล่าก็ไม่รู้ "พี่มั่นหน้าไปปะ คนอย่างฉัน ใบหน้าสวยเลือกได้อย่างฉัน จำเป็นไหมที่ต้องอ่อยคนอย่างพี่อะ" "เหอะ คนอย่างฉันงั้นเหรอ คนอย่างฉันมันเป็นยังไง พูดดีๆ นะเว้ย" พี่พระพายขยับตัวพาดแขนข้างหนึ่งของตัวเองไว้บนขอบเก้าอี้ ก่อนจะพยักหน้าถามฉันสีหน้าเอาเรื่อง ฉันที่เห็นว่าเขาเริ่มทำหน้าโมโหปนหงุดหงิดออกมา ก็เลยแกล้งขยับใบหน้าของตัวเองเข้าใกล้พี่รหัสตัวเองจนจมูกแทบจะชนกันรอมร่อ ทำเอาพี่พระพายถึงกับตกใจถอยเลยทีเดียว แต่ถามว่าฉันทำยังไงต่อ ก็ไม่ได้ทำยังไงฉันแค่ยิ้มให้พี่รหัสตัวเองเฉยๆ ก่อนที่จะพูดว่า... "คนอย่างพี่มันน่าขยะแขยง" "หึหึ" หลังจากที่ฉันตอบเสียงแผ่วเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบให้ได้ยินกันสองคนกับพี่พระพาย รอยยิ้มมุมปากพร้อมแววตาโกรธขึ้งแต่แอบสะกดกลั้นไว้ก็จ้องตาฉันนิ่งเลยทีเดียว หึ ท่าทางแบบนี้ เขาคงกำลังโกรธฉันมากเลยสินะ ถึงได้ใช้สายตาดุอย่างกับเสือจะกินคนมองฉันแบบนั้น "แรงไปเหรอคะ พี่จ้องโซเหมือนจะเขมือบลงท้องเลย" พี่พระพายละสายตาออกจากหน้าฉัน ก่อนที่จะใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มของตัวเองพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ด้วยสีหน้าข่มอารมณ์ ต่อด้วยค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกมาแล้วหันมาพูดกับฉันน้ำเสียงนิ่งๆ ต่อว่า... "ต่อจากนี้เธอได้ขยะแขยงฉันกว่านี้แน่โซดา" "..." "..." ตุบตุบ! ตุบตุบ! เดี๋ยวนะอะไรคือการที่หัวใจของฉันเต้นแรงตอนได้ยินประโยคนั้นจากผู้ชายตรงหน้าวะเนี่ย อีกอย่างทำไมฉันจะต้องรู้สึกใจสั่นวูบกับสีหน้าและสายตาของเขาตอนนี้ด้วยล่ะ พรึบ! "เอ๋อ..." ฉันรีบดึงตัวเองกลับมานั่งตัวตรงทันทีหลังจากที่รู้ตัวว่ากำลังมีความรู้สึกแปลกๆ เข้ามาแทรก ตามด้วยนั่งอึกอักพูดไม่ออกได้แต่ทำเสียงงึมงำในคอพร้อมด้วยท่าทางเลิ่กลั่กสุดๆ ให้ตายเถอะ จะเอาคืนที่ไอ้พี่รหัสบ้านี่มันแกล้งไม่รับฉันขึ้นลิฟต์เมื่อกี้ แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้เป็นแบบนี้ละเนี่ย โอ้ยเวรกรรมจริงๆ "อะไร ฉันแค่พูดกับเธอแค่นั้นเอง นี่ถึงกับนั่งทำตัวไม่ถูกเลยเหรอวะ หึ อ่อนหัดชะมัด" หน็อย~ มาว่าฉันอ่อนหัดเหรอ เดี๋ยวเถอะไอ้พี่รหัสบ้าเอ้ย! "นี่!..." "นักศึกษาสองคนนั้นอะ ไม่ทราบว่าจะเรียนกันไหมคะ ถ้าไม่อยากเรียนเชิญออกไปได้เลยค่ะ" ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดสิ่งที่จะด่าออกไป ฉันก็ถูกขัดจังหวะโดยอาจารย์ผู้สอนพอดี แถมยังโดนไล่ออกให้ออกจากห้องเรียนด้วย ฉันก็เลยได้แต่นั่งเม้มปากข่มอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ ขณะที่สายตาก็จ้องตาขวางใส่ไอ้พี่รหัสเฮงซวยตรงหน้าไปด้วย แต่ดูไอ้คนที่ถูกฉันจ้องตอนนี้สิ เขากลับทำหน้ายิ้มลอยหน้าลอยตาได้น่าทุบใส่ฉันซะงั้น ให้ตายเถอะ นี่ฉันต้องยอมแพ้ใช่ไหมเนี่ย! "ฝากไว้ก่อนเถอะ" "ได้สิ อย่าลืมมารับคืนด้วยนะครับ คนสวย" กรี๊ดด!!! ฉันอยากกรี๊ดมาก เกลียดไอ้รอยยิ้มกวนตีนเมื่อกี้มาก เอาละ ตั้งสติท่องไว้ ตั้งสติตั้งสติ วันนี้ยังไม่ได้เอาคืน แกอย่าลืมสิว่าพรุ่งนี้ไปเข้าค่ายแกยังมีเวลาเอาคืนไอ้คนเฮงซวยนี่อีกหลายวันเลยโซดา หึ คอยดูเถอะ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลยไอ้พี่รหัสบ้า! . . . สองชั่วโมงต่อมา... "โซ!" หลังจากที่เรียนเสร็จแล้ว ฉันกำลังเดินลงจากตึกไปที่ลานจอดรถจู่ๆ ก็มีคนเรียกชื่อของฉันเสียงดังลั่นอยู่เบื้องหลังทำเอาฉันที่กำลังเดินไปด้วยล้วงกระเป๋าสะพายใบใหญ่ของตัวเองเพื่อควานหากุญแจรถไปด้วยต้องชะงักทั้งมือทั้งเท้าเพื่อเงยหน้าหันไปหาต้นเสียงด้วยความงงงวย ก่อนจะเจอเจ้าของเสียงกำลังยืนโบกไม้โบกมือให้ฉัน ซึ่งกำลังวิ่งมาหาฉันในนาทีถัดมา หมับ! "พรุ่งนี้แกไปเข้าค่ายใช่ไหม ตกลงเอกเราแกไปกับพี่พระพายเหรอ" ยัยใบตอง เพื่อนสาวสุดสวยของฉัน หน้าตาสวยแถมยังดูน่ารักแต่กิริยาของมันบางทีก็แมนมาก และใช่ค่ะมันไม่ใช่ทอมมันเป็นผู้หญิงค่ะแถมมีแฟนแล้วด้วย แฟนหล่อมากเป็นเดือนคณะแพทย์ปีหนึ่งด้วยแหละ ค่ะ ยัยใบตองมันมีหมาเด็ก ถามว่าฉันอิจฉาไหม ไม่เลยค่ะเพราะฉันไม่ชอบความสัมพันธ์แบบแฟนอะไรนั่นเลย มันดูไร้สาระแล้วก็น่ารำคาญด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ตั้งแต่เกิดฉันโสดมาตลอด ถึงแม้ว่าฉันจะสวย จะเชิด จะเริ่ด จนมีผู้ชายมาขายขนมจีบแบบไม่มีวันหยุดข้าราชการ ฉันก็ไม่สนใจพวกเขาเหล่านั้นเลยสักนิด ไม่รู้สิฉันแค่รู้สึกว่าผู้ชายมันน่ารำคาญ "อืม" ฉันตอบยัยใบตองที่กำลังใช้แขนพาดบนไหล่ของฉันด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเบาๆ นึกถึงหน้าหมอนั่นทีไรโลกของฉันก็หม่นหมองลงมาทันทีเลยอะ "เออ งั้นพรุ่งนี้ฉันขอให้แกสนุกนะ แต่ใดๆ ฉันอยากบอกแกว่า ผู้หญิงแทบจะทั้งคณะอิจฉาแกมากที่ได้ไปค่ายคู่กับพี่พระพายสุดหล่ออะ" "อิจฉาก็บ้าแล้ว หมอนั่นน่ารำคาญจะตาย" ฉันสวนยัยใบตองกลับไปทันควันพร้อมกับกลอกตาไปด้วย "แต่เขาหล่อไง" "โห่แกพูดไม่เกรงใจแฟนที่มีอยู่เลยนะตอง" "เอาหน่า ไปค่ายด้วยกันเป็นอาทิตย์ กลับมาเมื่อไหร่อย่าให้ฉันรู้นะว่าแก..." ฟึบ! นี่แหนะโดนฉันเอามือเค็มๆ ปาดหน้าสวยๆ ของมันซะเลย "อี๋~ ยัยโซมือเค็มมาก" ใบต้องทำหน้าอี๋แบบเหยเกสุดๆ ตอนที่นิ้วของฉันโดนปากมัน แต่ยัยนี้ก็เว่อร์ไปนะ ตอนเรียนเสร็จฉันเข้าห้องน้ำล้างมือเรียบร้อยแล้วเถอะ "สมน้ำหน้า ฉันรู้นะว่าเมื่อกี้แกจะพูดอะไรอะ หยุดคิดเลยนะว่าฉันจะหวั่นไหวกับคนอย่างหมอนั่นอะ ไม่มีทางหรอก" แต่ช่างเรื่องนั้นก่อน คือฉันรู้ไงว่าเมื่อกี้ใบตองมันคิดจะพูดอะไรออกมา ฉันก็เลยดักความคิดของมันไว้ซะก่อน จะได้หยุดคิดอะไรที่มันไม่มีทางเป็นไปได้ "จ้า ไม่มีทางก็ไม่มีทาง งั้นฉันไปหาทิวก่อนนะ" "อืม โชคดี" ตอบพร้อมโบกมือลาให้ใบตองไปแค่นั้น เพื่อนของฉันก็เดินตัวปลิวไปทางตึกคณะแพทย์ที่อยู่ถัดไปจากตึกคณะวิศวะของฉันท่าทางมีความสุขทันที ฉันที่เห็นว่าเพื่อนเดินไปไกลแล้ว ก็เลยเดินไปทางลานจอดรถต่อ ใช้เวลาเดินไม่ถึงห้านาทีฉันก็เกือบจะเดินถึงรถตัวเองแล้วถ้าไม่ถูกมือปริศนาลากไปอีกทางซะก่อน หมับ! "นี่! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้บ้า แกเป็นใครมาฉุดฉันแบบนี้เนี่ย" ขวับ! "ถามจริงเถอะ นี่จำฉันไม่ได้จริงดิ" ไอ้เจ้าของมือใหญ่ที่จับข้อมือของฉันชะงักเท้าหยุดนิ่งหลังจากที่ฉันแหว่เสียงโวยวายไปเมื่อกี้ ก่อนที่จะหันมาพูดกับฉันในวินาทีถัดมา พอฉันเห็นหน้าของเขาเท่านั้นแหละก็ต้องกลอกตาใส่ เพราะเขาคือพี่พระพายไอ้พี่รหัสเฮงซวยของฉันเอง แล้วนี่เป็นบ้าอะไรมาฉุดลากฉันกลางลานจอดรถแบบนี้เนี่ย หรือว่าเขาแค้นฉันแล้วคิดจะฆ่าตัดตอนฉันเหรอ? "ทำหน้าแบบนั้นคิดอะไรอยู่ หรือว่ากำลังคิดว่าฉันฉุดเธอมาเพื่อฆ่า?" "แล้วใช่ไหมล่ะ" ทันทีที่ฉันถามออกไปแบบนั้น เสี้ยววินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ จากคนตัวสูงที่กำลังจับข้อมือของฉันทันที ก่อนที่กำปั้นใหญ่ๆ จากมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่จะยกขึ้นมากเขกหน้าผากของฉันหนึ่งที ปึก! "โอ้ย! นี่พี่เขกหน้าผากโซทำไมเนี่ย" "เขกให้เผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้างไง คิดได้ไงว่าฉันจะฉุดเธอไปฆ่า" "ก็ไม่รู้อะ คนเรามันรู้หน้าไม่รู้ใจนี่" "เหอะ เธอนี่มันขยันสรรหาคำมาพูดจริงๆ เลยนะ" "ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะ ว่าแต่พี่มาฉุดโซแบบนี้ทำไม" "จะชวนไปซื้อของ ฉันไม่รู้ว่าไปเข้าค่ายอะไรนั่นมันต้องใช้อะไรบ้าง" โถ่พ่อคุณ มาฉุดฉันแบบนี้เพื่อที่จะชวนไปซื้อของเนี่ยนะ แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วย เพื่อนฝูงไปไหนกันหมด "แล้วทำไมต้องเป็นโซ เพื่อนพี่ไปไหนกันหมด" "เพื่อนฉันมันมีเมียกันไปหมดแล้ว พวกแม่งก็ต้องติดเมียกันดิ" "อ้อ โซลืมไปว่าพี่เพิ่งเลิกกับเมียมา" ทันทีที่พี่พระพายได้ยินฉันพูดถึงแฟนเก่าหรือคนคุยเก่าอย่างพี่ใบเฟิร์นคณะบริหาร ตาดุตึงๆ เมื่อกี้ก็ทำการกลอกตาใส่ฉันทันที มีปมสินะถึงได้ดูไม่ปลื้มแบบนั้น เลิกกันไม่ดีละสิ ก็อย่างว่าคนมันเจ้าชู้ใครมันจะไปทนไหว "เลิกไม่เลิกมันก็เรื่องของฉัน ส่วนเธอตอนนี้ไปซื้อของกับฉันก่อน" พี่พระพายว่าจบเขาก็ฉุดข้อมือของฉันให้เดินตามไปที่รถยนต์คันหรูอาวดี้อาร์แปดสีดำของเขาที่กำลังจอดเท่ๆ อยู่ข้างหน้าเราสองคน เดินมาถึงรถฉันก็ถูกพี่พระพายดันหลังให้เข้าไปนั่งในรถทันที แต่ระหว่างที่กำลังก้มหัวเข้ามานั่งในรถเมื่อกี้ ฉันแอบใจสั่นตอนที่หัวของฉันมันโดนมือของพี่พระพายที่ใช้บังขอบประตูให้นี่สิ ให้ตายเถอะ เขามีมุมสุภาพบุรุษแบบนี้ด้วยหรือไง?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD