บทที่7

1196 Words
เพราะเข้าเมืองต้องจ่ายค่าเข้าคนละสองอิแปะ แต่ทั้งคู่ที่ไม่มีเงินติดตัวมาด้วย แต่เมื่อบอกทหารหน้าประตูว่าตนนำสมุนไพรมาขายจะนำเงินมาจ่ายตอนออกจากเมืองทางทหารที่เห็นเป็นเด็กสองคนเสื้อผ้าประชุนทั้งตัวแต่ก็สะอาดสะอ้านหน้ามอง ก็นึกสงสารยอมให้นำเงินมาจ่ายภายหลังได้ ทั้งคู่สอบถามที่ตั้งร้านยาจินป่ายแล้วก็ขอบคุณจากนั้นก็รีบเร่งเดินออกไปทันที หน้าร้านขายยามีเสี่ยวเอ้อคอยดูแลลูกค้าเมื่อเห็นทั้งคู่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจหรือไล่ออกไป ยังสอบถามแนะนำทั้งคู่อย่างเต็มใจอีกด้วย จนเจียอีพยักมองอย่างชื่นชม "หากต้องการขายสมุนไพรทั่วไป เชิญนำมาทางนี้ให้หลงจู๊ตรวจสอบได้เลย" ลู่เสียนเดินไปกระซิบที่ข้างหูของเสี่ยวเอ้อ เมื่อพูดจบเสี่ยวเอ้อก็รีบพาทั้งคู่ไปพบหลงจู๊แล้วแจ้งกับหลงจู๊ทันที "เด็กน้อย หากเจ้ามีโสมมาขายจริง ข้าจะให้ราคาที่ดีที่สุดแก่เจ้า" เพราะไม่มีชาวบ้านนำโสมมาขายนานแล้ว อีกอย่างโสมในตอนนี้ก็ล้วนเป็นโสมที่หาซื้อมาจากต่างแคว้น ราคาที่ได้ก็สูงจนไม่อยากจะนำมาขาย "ท่านลุงจะลองดูก่อนหรือไม่" หลงจู๊รีบโบกมืออย่างไว "ตรงนี้คนเยอะเกินไป เจ้าทั้งสองตามข้าไปที่ห้องรับรอง" เขารีบเดินนำพาทั้งคู่ไปห้องรับรองที่อยู่ด้านหลังของร้าน ก่อนจะสั่งให้เสี่ยวเอ้อยกขนมว่าง น้ำชามาให้ทั้งคู่อีกด้วย เจียอีพอใจกับการรับรองของเสี่ยวเอ้อกับหลงจู๊ร้านยามาก นางจึงหยิบห่อผ้าเก่าๆที่แทบไม่น่ามองขึ้นมาวางบนโต๊ะ หลงจู๊ที่เห็นห่อผ้าเก่าจนแทบใช้การไม่ได้ก็นิ่วหน้าลง พอเจียอีเปิดห่อผ้าออกเข้าก็รีบยื่นหน้ามามองใกล้ๆทันที "สะ โสม โสมจริงๆด้วย เด็กน้อยรอข้าประเดี๋ยว" หลงจู๊รีบลุกขึ้นแล้วก้าวเท้าออกจากห้องรับรองไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั่งรอไม่นาน ก็มีชายชราวิ่งลืมสังขารเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงโต๊ะที่ว่างโสมไว้ก็หยิบขึ้นมาดูอย่างเสียมารยาท "พวกเจ้าไปเจอมาจากที่ใด ไม่ ไม่ ข้าพูดผิดไป พวกเจ้าเป็นคนพบเองใช่หรือไม่" อาจจะเป็นเพราะตกใจเกินไปเขาจึงเอ่ยพูดผิดพูดถูกหลายหน "ท่านปู่ข้ากับน้องชายบังเอิญขึ้นเขาแล้วพบโชคเจ้าค่ะ โสมนี่ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ" เจียอีเอ่ยถามเข้าประเด็น "ต้องการ ต้องการ โสมสามร้อยปีสองหัวหายากเสียยิ่งกว่าทองคำเสียอีกในเวลานี้" เจียอีกับลู่เสียนมองหน้ากัน นางคิดมาตลอดว่าโสมที่นางได้มาอายุเพียงหนึ่งร้อยปี ไม่ใช่ว่านางจะได้เงินเพิ่มอีกหรือ "ท่านรับซื้อเท่าใดเจ้าคะ" "โสมสภาพสมบูรณ์เช่นนี้พวกเจ้าคงรู้วิธีเก็บจึงไม่ได้รับความเสียหายเลย ข้ารับซื้อหัวละ ห้าร้อยตำลึง" เจียอีเอื้อมมือไปแย่งห่อโสมกลับคืนมา "เพ้ย คุยกันได้ คุยกันได้ เช่นนั้นข้าให้หกร้อยตำลึงทองมากกว่านี้ข้าต้องขายร้านมาซื้อโสมเจ้าแล้ว" เจียอีกับลู่เสียนตกตะลึง นางคิดว่าเป็นตำลึงเงินจึงจะเล่นตัวเสียหน่อยแต่ไม่คิดว่าจะเป็นตำลึงทอง "ขายเจ้าค่ะ" นางส่งห่อโสมพร้อมยิ้มหวานให้ท่านหมอจินทันที "เจ้าเด็กคนนี้ หลงจู๊นำเงินมาให้นาง" "ท่านลุงเจ้าค่ะ ข้าขอเป็นเงินตำลึงห้าสิบตำลึงที่เหลือเป็นตัวเงินเจ้าค่ะ" นางจะนำเงินห้าสิบตำลึงไปซื้อของกลับเรือน "ได้ๆ พวกเจ้ารอสักครู่" ตอนนี้ภายในห้องมีเพียงสองพี่น้องและหมอจินที่นั่งชื่นชมโสมทั้งสองหัวอยู่ "ท่านปู่ ท่านต้องพักผ่อนเยอะๆนะเจ้าค่ะ สุราก็อย่าดื่มมากนัก ยิ่งขนมกุ้ยฮวา กับหนวดมังกรท่านทานให้น้อยลงหน่อยเสียจะดีกว่า" หมอจินที่ได้ฟังคำพูดของเจียอี มือที่จับโสมไว้ก็สั่นเทา เรื่องที่นางเอ่ยขึ้นทั้งหมดเป็นคำพูดของภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของตนที่เสียชีวิตไปได้สามปีแล้วล้วนพูดกับตนเกือบทุกวัน "เจ้า เจ้าพูดอันใด เจ้าเป็นใคร ใครบอกเรื่องนี้กับเจ้า" เขาเสียงสั่นอย่างไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนได้ ลู่เสียนดึงชายเสื้อของพี่สาวแน่น ลู่เสียนที่กังวลขึ้นมาก็เรียบดึงชายเสื้อของพี่สาว เจียอีที่รู้ถึงความกังวลของน้องชายก็หันไปมองและปรายตาไปทางด้านหลังเพื่อส่งสัญญาณให้เขาว่านางเห็นวิญญาณด้านหลังของหมอจิน "ท่านพี่" "ท่านปู่ หากข้าพูดไปท่านจะเชื่อหรือไม่ ที่ข้ายอมพูดกับท่านเป็นเพราะท่านค้าขายอย่างยุติธรรมกับข้าสองคนพี่น้อง" เจียอีเล่าเรื่องที่นางเห็นวิญญาณและมักจะมีวิญญาณมีขอความช่วยเหลือจากนาง ที่นางยอมเล่าให้ฟังก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดเช่นกัน จะบอกว่าเชื่อใจคนที่เพิ่งพบครั้งแรกก็ดูจะเสแสร้งเกินไป "มีสตรีวัยชราคนหนึ่งนางยืนอยู่ด้านหลังของท่านตอนนี้ นางขอให้ข้าบอกท่านเรื่องที่ข้าได้พูดไปเมื่อสักครู่นี้ ที่นางยังคงติดตามทันไม่ยอมไปเกิดใหม่เป็นเพราะห่วงท่านและอยากพบหน้าบุตรสาวเป็นครั้งสุดท้าย แต่ตอนนี้เรื่องในใจของนางเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องของท่าน" เมื่อเจียอีพูดจบ หมอจินก็ปิดหน้าร้องไห้อย่างไม่สนสายตาที่มองเขาอย่างตะลึงของเด็กน้อยทั้งสอง เจียอีไม่เข้าใจว่าในเมื่อวิญญาณของหญิงชรายังไม่ทันได้พบหน้าบุตรสาวที่ตนอยากพบเหตุใดถึงยินยอมให้นางช่วยเหลือเพียงแค่บอกเรื่องในใจของนางกับหมอจินเท่านั้น วิญญาณหญิงชราด้านหลังกอดท่านหมอจินแล้วลูบหลังเขาอย่างปลอบโยน เจียอีที่เห็นภาพนั้นน้ำตาของนางก็คลอขึ้นมาทันที เพราะนึกถึงคุณตาคุณยายของนางที่ภพก่อน "ขอบใจมากนังหนู" หมอจินที่สงบสติได้แล้วก็เอ่ยปากขอบคุณเจียอี "ข้ามีเพียงภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมานานเท่านั้น ก่อนหน้านี้ข้ามีบุตรสาวอยู่คนแต่นาง นาง นางคงเป็นห่วงข้า" เจียอีกับลู่เสียนลุกขึ้นไปยืนคนละข้างของหมอจินแล้วลูบหลังปลอบโยนให้ชายชราเลิกร้องไห้ "ท่านปู่ ข้ากับลู่เสียนยินดีเป็นหลานของท่าน หากท่านมิรังเกียจพวกข้าสองคน ข้ายินดีจะดูแลท่านยามแก่ชรา เอ่ออ ไปมากกว่านี้" เจียอีพูดขึ้นอย่างจริงจัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD