"พี่ใบเตยเกิดอะไรขึ้นคะเนี้ย?"
"รู้จักหรอภีม?" ปู่ถามฉันจึงพยักหน้าและเดินไปหาพี่ใบเตย
"นี่คุณใบเตยเคสที่ภีมนัดคุณปู่ให้น่ะค่ะ"
"ขอโทษนะครับที่มาช้าพอดีเจ้าหญิงคงรู้ว่าจะพามานี่เลยอาละวาดใหญ่"
"ดุนิเนี้ย เดี๋ยวพาไปห้องตรวจเลยครับส่วนภีมทำแผลให้คุณเขาหน่อยนะเลือดออกแล้วน่ะ"
"ค่ะ" ฉันหันมองพี่ใบเตยซึ่งเขาก็เดินตามปู่เพื่อพาเจ้าหญิงขึ้นโต๊ะตรวจซึ่งเจ้าหญิงขู่เสียงดังขยับเข้าใส่กรงไม่ยอมให้พี่ใบเตยจับฉันเลยต้องเดินไปดูด้วย "มาค่ะเดี๋ยวภีมช่วย"
"ดีเลยพี่จะเป็นลมอยู่แล้ว" พี่ใบเตยถอนหายใจออกมาเบาๆและขยับให้ฉันเข้าไปหาเจ้าหญิง ฉันก้มลงไปมองกรงและมองเธอยิ้มๆ
"เจ้าหญิงจำพี่ภีมได้ไหมคะ ออกมาให้คุณหมอตรวจก่อนนะแป๊บเดียว" ฉันว่าพร้อมกับค่อยๆขยับไปเกาคางเธอเบาๆและค่อยๆอุ้มน้องออกมาซึ่งดีที่เธอไม่ขัดขืนอะไร ปู่ที่มองอยู่ยกนิ้วให้และรับหน้าที่ตรวจต่อฉันจึงหันมองพี่ใบเตย "มาค่ะเดี๋ยวภีมทำแผลให้"
"พี่เริ่มคิดหนักแล้ว รึจริงๆลูกสาวพี่ไม่เคยรักพี่เลยนะ" พี่ใบเตยบ่นขณะเดินกลับมานั่งที่ห้องพักฉันจึงปิดประตูห้องตรวจและเดินไปหยิบที่ทำแผลมาวางที่โต๊ะและขยับเก้าอี้เข้าหาเขา "สงสัยเจ้าหญิงชอบหมวยมากอ่ะ"
"ก็คงแบบนั้นมั่งคะ พี่ได้เล่นกับเธอเหมือนที่ภีมแนะนำไปรึเปล่า?" ฉันถามพร้อมจับแขนเขามาล้างแผลและใส่ยาให้ซึ่งพี่ใบเตยก็เงียบจนฉันต้องเหลือบมอง "มองอะไรคะ?"
"หมวยน่ารักมากเลยรู้ตัวไหม?" ฉันก้มลงทำแผลต่อไม่ได้ตอบอะไรแม้ตัวเองจะรู้สึกแปลกๆอยู่ก็ตาม คนตรงหน้าหัวเราะและขยับเท้าแขนไปกับโต๊ะมองฉัน "เขินพี่หรอ ถ้าเขินแล้วแปลว่าหมวยชอบเฮียแล้วนะ"
"ไม่ได้เขินค่ะ แค่ไม่รู้จะตอบอะไร" พี่ใบเตยยิ้มอย่างพอใจขณะที่ฉันก็ขยับขึ้นมาทำแผลที่สันกรามต่อที่ตรงนี้เลือดออกด้วยแหละ "เจ็บหน่อยนะคะ"
"มีอะไรเจ็บกว่าหมวยปฏิเสธเฮียอีกหรอ?"
"เบตาดีนเวลามันโดนแผลแบบนี้ไง"
ฟึ้บ..!
"ซีส..ส์ อ่า เจ็บนะครับ!"
"นั้นไง" ฉันยิ้มและมองพี่ใบเตยอย่างล้อๆหลังจากที่เอาเบตาดีนล้างแผลให้ เขาเอื้อมมือมาจับข้อมือฉันไว้และมองตาฉันด้วยสายตาซุกซน "ปล่อยมือภีมเดี๋ยวนี้เลย"
"โอ้ ดุจัด.." เขาตอบอย่างกวนๆก่อนจะขยับมามองฉันใกล้ๆแต่ฉันก็ไม่ได้ขยับหน้าหนีอะไรเเพียงแค่มันรู้สึกแปลกๆเท่านั้น จะว่าเลิ่กลั่กก็คงใช่ "แต่แบบไหนพี่ก็ชอบนะยิ่งดุพี่ยิ่งชอบ ^^"
"พี่เป็นบ้าหรอ ปล่อยได้แล้ว"
ฉันตีมือเขาเบาๆจนเขายอมปล่อยและมองฉันอย่างล้อๆ เขายกนิ้วชี้ทั้งสองข้างจิ้มที่แก้มตัวเอง
"แก้มแดงแล้วน่ารักเชียว เขินพี่อ่ะดิ๊"
ฉันขมวดคิ้วใส่ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีเข้ามาตรวจเจ้าหญิงช่วยปู่ จะให้อยู่ต่อฉันคงอดตีเขาอีกไม่ได้อ่ะเขาซนเหมือนลูกหมาเลย..เห็นแล้วมันน่าหมั่นใส้จริงๆ
.
.
"ช่วงนี้น้องแมวของคุณกำลังปรับตัวกับอะไรหลายๆอย่างน่ะจากที่ผมฟังมาคุณดูชอบเปลี่ยนนั้นปรับนี่จนแมวอาจจะปรับตัวไม่ทัน"
"ผมขี้เบื่อน่ะครับ ถึงว่าเจ้าหญิงดูงงๆ"
ผมพยักหน้าขณะที่คุยกับคุณหมอซึ่งเป็นปู่ของหมวยน้อยที่กำลังยืนอุ้มเจ้าหญิงอยู่ ตายๆๆน่ารักทั้งแม่ทั้งลูกเลยดูดิ
"คุยกับหมอก็มองหมอสิครับหมอหลานหมอได้ไง"
คุณหมอว่าเสียงเข้มทำเอาผมอดหัวเราะไม่ได้ หมวยที่อยู่ห้องข้างๆหันมองผมทันทีก่อนน้องจะเดินมาเลื่อนประตูปิดใส่ด้วยใบหน้ายุ่งๆเหมือนลูกสาวผมที่กำลังมองพ่อมันอย่างเอือมๆ
"โทษทีฮะพอดีผมกลัวว่าเจ้าหญิงผมจะข่วนน้องเอาน่ะ ผมเป็นห่วง" ผมยิ้มขณะที่หมอก็ส่ายหน้าไปมาและสั่งยานู้นนี่ให้
"ลองคุยกับแมวดีๆนะครับแล้วช่วงนี้อย่าปรับเปลี่ยนอะไรอีกล่ะไม่งั้นเธอได้สติแตกแน่"
"โอเคครับ งั้นผมไปเอาลูกผมเลยนะ"
"ตามสบาย"
ผมยกมือไหว้หมอและเดินไปเลื่อนประตูไปหาว่าที่แม่แมวที่กำลังยืนเล่นกับลูกสาวผมอยู่ที่โต๊ะตรวจ
"หนูชอบไหมคะ ฮะๆชอบหรอๆ"
เสียงน้องเวลาเล่นกับลูกสาวผมอย่างน่ารัก ผมกอดอกยืนยิ้มมองภีมที่กำลังใช้ของเล่นเล่นกับเจ้าหญิงที่พยายามจะตะปบซ้ายทีขวาทีอย่างร่าเริง ผมจึงใช้โอกาสนี้เดินเข้าไปยืนช้อนหลังน้องโดยไม่ให้เธอรู้ตัว..น้องอย่างหอมและน้องเป็นคนสูงนะสูงกว่าผู้หญิงทั่วไปแต่ยังเตี้ยกว่าผมมากยืนแบบนี้น้องสูงเลยไหล่ผมมาหน่อยนึง
"ลูกสาวชอบจนพ่ออยากยืมไปเล่นที่บ้านเลยอ่ะ"
"อ๊ะ!? พี่??" น้องหันมองผมก่อนจะมองไปที่ประตูที่ผมเลื่อนปิดเรียบร้อยเพราะคงกลัวปู่เธอเห็น..ผมรู้ความอยู่หรอกน่าเห็นหน้าตาดูหลอกง่ายแบบนี้อ่ะ "ทำบ้าอะไรคะ!?"
"แค่มายืนมองลูกสาวเล่นกับว่าที่แม่ก็ผิดด้วย" ผมยิ้มและโน้มใบหน้าเข้าหาจนเธอขยับหนีแต่ก็ไปไหนไม่ได้เยอะเพราะผมยันแขนอีกข้างไว้ "ตกลงว่าไงขอยืมไปเล่นที่บ้านได้ไหมครับ?"
"อะเอาไปสิคะ!" ภีมยื่นของเล่นให้ผมแต่ผมกลับส่ายหน้าและยกยิ้ม
"หมายถึงยืมคนอ่ะขอยืมไปเล่นกับเจ้าหญิงที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ?"
ปึ่ก!
"โอ้ย เจ็บจังเลย"
ผมทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จหลังจากโดนน้องตีที่แขน ภีมเม้มปากและมองผมด้วยแก้มแดงๆ
"ถ้าพี่ยังไม่หยุดคุกคามภีมจะไม่คุยด้วยแล้วนะ!"
"พูดงี้เฮียต้องรีบถอยเลยครับ" ผมยกมือขึ้นเหนือหัวและมองน้องที่มองผมด้วยสายตาดุๆ แต่แม่ง...เหมือนแมวขู่อ่ะเวลาเจ้าหญิงขู่ยังน่ากลัวกว่าอีก ฮ่าๆ "อย่าดุกับเฮียนักสิใจเฮียบางนะ"
"กลับไปได้แล้ว" ภีมไล่และจัดการเอาลูกสาวผมเข้ากรงให้เสร็จสรรพแบบง่ายๆจนผมยืนงง เธอยัดกรงให้และเดินไปเลื่อนประตูเปิด "ไปสิคะ"
"โถ่ เย็นชาจริงๆคนอะไรทั้งๆที่น่ารักขนาดนี้แท้ๆ" ผมเบะปากและบ่นเบาๆขณะที่เดินออกมาจากห้องตรวจก่อนหันมองภีมอีกครั้ง น้องเลิกคิ้วขณะที่ผมก็ยกยิ้มและ.. "เดี๋ยวโทรหานะจุ๊บๆ"
ครืน!
ผมจุ๊บๆใส่พร้อมกับประตูที่ถูกเลื่อนปิดอย่างแรง ให้ตาย..น้องไม่อ่อนโยนเลยว่ะ ผมยิ้มกว้างและเดินออกมาพร้อมกับลูกสาวมาเอายาและกลับบ้านตัวเองโดยไม่ลืมโทรหาผู้ช่วยคนเก่งไปด้วย
(โอ้โหเกิดอะไรร้ายแรงหรอคะถึงโทรมา)
"โถ่ป้าไม่ร้ายแรงก็โทรได้ป่ะ ประชดเก่งจริง" ผมว่าเสียงดังขณะที่ขับรถไปด้วย "มีไรให้ช่วยอ่ะ"
(ตลอดปี บริษัทไม่เคยเข้าแต่พอมีเรื่องนี่จิกหัวใช้ตลอด)
"โอ้ยยบ่นเก่งกว่าแม่ก็เจ๊แล้วตกลงพ่อจ้างเจ๊มาด่าผมจริงๆถูกไหม"
(มีอะไรล่ะคะคุณใบเตย??)
"จะให้ไปหาข้อมูลโครงการอาสาสักหน่อย"
(ขยายความด้วยค่ะ)
"เดี๋ยวส่งชื่อจริงหมวยไปให้เข้าไปหาข้อมูลโครงการที่น้องจะไปมา เห็นว่าไปสวิส"
(หมวย?)
"เออน่า"
(โอ้ยตายเรื่องผู้หญิงอีกแล้วไร้สาระจริงเลยค่ะคุณชาย)
"เจ๊มึง.."
(อย่า..ไม่สุภาพนะคะสอนไปกี่ครั้งล่ะ)
"เออๆ หาข้อมูลมาด่วนๆด้วย"
(ค่ะ)
ผมส่งรูปชื่อของภีมไปให้เจ๊ปูเป้เลขาผมทันทีหลังคุยเสร็จ อีเจ๊นี่ปากร้ายและปากมากเหมือนแม่ผมอีกคนอ่ะสงสัยพ่อแม่งจ้างมาเพื่อด่ากูโดยเฉพาะอ่อ ส่วนเรื่องโครงการที่ภีมพูดกับปู่ผมได้ยินอ่ะเข้าไปพอดีโคตรเอากูอ่ะ..พอดีพวกขี้เสือกที่ชื่อไอ้พายุและไอ้ยักษ์มันคายตะขาบให้เลยขี้เสือกเก่งเหมือนกัน เอ๊ะรึเป็นกูที่คายตะขาบให้เพื่อนวะ
.
.
(เป็นโครงการของทางรัฐบาลค่ะไม่ใช่โครงการของมหาลัย)
"เจ๋งว่ะ" ผมว่าเบาๆขณะที่กำลังเลื่อนหน้าจอดูข้อมูลโครงการอาสาที่ภีมเข้าอยู่
(แต่ล่ะประเทศจะมีสมาชิกหลายคนไปหลายประเทศส่วนหมวยอะไรของคุณเนี้ยไปสวิส)
"และไม่มีเพื่อนไป"
(เพื่อนติดธุระ)
"เยี่ยมเลย.."
(อย่าทำอะไรแบบที่ดิฉันคิดนะคะคุณใบเตย) ผมยิ้มและลูบริมฝีปากตัวเองอย่างนึกสนุก มันน่าสนุกดีออกไปอาสาในที่แบบนั้น
"เจ๊จัดการให้ผมหน่อยผมจะไป ที่เดี่ยวกับหมวยด้วย"
(โอ้ย ทำไมเป็นคนแบบนี้คะเมื่อเดือนก่อนคุณใบเตยก็เพิ่งหนีไปปีนเขานะ!)
"อย่าซีเรียส"
(แต่เรื่องเรียน..)
"ประสบการณ์สำคัญกว่าความรู้มากรู้ไหมเจ๊ เพราะงั้นเอาชื่อผมใส่ไม่งั้นจะบอกพ่อตัดเงินเดือนเพราะทำงานแย่!"
(งานจีบสาว เชื่อเลย!)
ผมตัดสายและกระดิกเท้ามองหน้าจอตัวเองอย่างพออกพอใจ มันน่าไปนะเฮ้ยเอาจริงๆแถมยังมีที่ไปปีนเขาด้วย..ผมโคตรชอบเที่ยวแบบนี้ มันอิธมายสไตล์!
เมี๊ยว..
ผมเลิกคิ้วและมองเจ้าหญิงที่กระโดดขึ้นมานั่งบนตักตัวเองอย่างตกใจ ใจพ่อ! ผมเกาคางให้ลูกสาวตัวเองอย่างปลื้มปิติขณะที่เจ้าหญิงก็นอนให้ผมเกาอย่างเพลินๆ เกิดอะไรขึ้นวะเนี้ย?
"วันนี้หนูทำไมน่ารักแบบนี้คะลูก รึรู้ว่าพ่อกำลังหาแม่ให้เลยดีใจ"
เมี๊ยว...
"ให้ตาย" ผมรีบวิดิโอคอลหาภีมทันทีซึ่งน้องตัดสายไปรอบนึงแต่กูมันขี้ตื้อไงเลยโทรอีกซึ่งน้องก็ยอมรับ ภีมดูเหมือนจะเตรียมนอนแล้วเพราะเธอโผล่มาแค่หน้าผากและเอาผ้าปิดถึงจมูกตัวเอง "หมวยย"
(พี่รู้ไหมภีมกำลังจะนอน)
"หมวยๆๆ หมวยต้องดูนี่ก่อนนอน!"
(อะไร..) ผมยกโทรศัพท์ขึ้นสูงให้น้องได้เห็นเจ้าหญิงที่กำลังนอนหลับที่ตักผมซึ่งภีมก็เบิกตาและขยับมองดีๆทันที (น้องไม่หงุดหงิดแล้วหรอคะ?)
"พี่ก็คิดว่างั้น โอ้ย..ใจพ่อ"
(ดีใจด้วยนะคะ) ภีมว่าพร้อมกับหัวเราะเบาๆจนตาหยี่ซึ่งทำเอาผมหยุดมองและยิ้มให้เธอบางๆเมื่อเธอมองตากัน (ยิ้มอะไรอีกล่ะ?)
"อยู่ๆก็อยากร้องเพลงว่ะ" ภีมขมวดคิ้วทันทีพร้อมกับผมที่ยิ้มและร้องเพลงให้ภีมเพลงจริงๆ "..ชอบแบบนี้ก็ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบแววตาแบบนี้ชอบรอยยิ้มแบบนี้ ก็ชอบคนนี้..จะเอาแบบนี้จะเอาที่เป็นแบบนี้จะเอาแววตาแบบนี้จะเอารอยยิ้มแบบนี้จะเอาคนนี้ Hoo baby ก็ชอบที่เป็นแบบเธอ.."
ภีมเงียบตลอดท่อนฮุกที่ผมร้องจนผมร้องจบ ผมเลียริมฝีปากตัวเองและยิ้มอย่างพอใจกับแววตานิ่งๆแต่เต็มไปด้วยความหวั่นไหวที่กำลังมองมา ภีมจับผ้าปูแน่นและขมวดคิ้ว
"พี่เสียงดีล่ะสิ ^^"
(ฝันร้ายแน่ๆเลย)
ผมหัวเราะและมองภีมอย่างเอ็นดู น้องหมวยผมเขินหน้าแดงไปหมดแล้วม่ะและผมก็มั่นใจนะว่าผมเสียงดีเพราะร้านเหล้าข้างล่างผมก็ร้องเพลงเองบ้างบางวัน
"ฝันถึงพี่สิรับรองฝันดีแน่นอน"
(นอนแล้วเลิกกวนได้แล้ว)
ภีมบอกเบาๆก่อนเธอจะตัดสายไปทำเอาผมนั่งยิ้มต่อ ผมก้มลงลูบลูกสาวตัวเองด้วยความเพลินและบันเทิงใจ..ลูกก็อ้อนว่าที่แม่ก็กำลังใจอ่อน ไม่นานลูกรับรองได้มีแม่จริงๆแน่ครั้งนี้!
.
.
หลายวันผ่านไป
"ดูกระเป๋าดีๆล่ะ ถึงแล้วโทรหาแม่เลยนะถ่ายรูปที่พักให้ดูด้วย"
"ค่า แม่บอกหนูรอบที่สิบแล้วภีมจำได้ขึ้นใจแล้วนะ" ฉันว่าพลางยิ้ม
"จริงพ่อฟังจนหูชาไปหมดแล้ว"
"โถ่พ่อก็ครั้งนี้ลูกไปคนเดียวแม่ก็นึกห่วงสิ"
"ไม่นะคะแม่เมื่อวานเขาโทรมาบอกภีมว่ามีคนไปที่เดียวกับภีมแล้ว"
"ใคร?" พ่อหันมาถามฉันทันทีซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเลยได้แต่ส่ายหน้า "เขาไม่ได้ให้เบอร์ติดต่อไว้หรอ?"
"ไม่ค่ะสงสัยไว้เจอกันบนเครื่องเพราะไงก็นั่งข้างกัน" พ่อและแม่พยักหน้าทันทีส่วนฉันก็ก้มมองนาฬิกาเพราะใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว "ไปแล้วนะคะอีกสี่วันเจอกัน"
"มากอดหน่อย" พ่อว่าพร้อมกับยิ้มอย่างใจดีก่อนเขาจะดึงทั้งแม่และฉันเข้าไปกอด พ่อเป็นคนตัวสูงและหุ่นหมีน่ะฉันเลยได้ความสูงพ่อมาเยอะ "ดูแลตัวเองนะภีม"
"ค่าา ภีมไปก่อนนะเดี๋ยวซื้อของมาฝาก"
ฉันโบกมือลาและเดินเข้าในเกทรอขึ้นเครื่องอีกสิบนาทีก่อนจะเดินตามคนอื่นๆขึ้นเครื่องเมื่อถึงเวลา แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ยังไม่เห็นคนที่ไปด้วยกันเลยแฮะ ฉันมองซ้ายมองขวาขณะที่นั่งอยู่เบาะติดกระจกของตัวเอง..เธอจะตกเครื่องเอานะถ้ายังไม่มาอีก
"เชิญเลยค่ะ"
เสียงแอร์ดังขึ้นพร้อมกับเธอที่ผายมือมาที่ข้างๆฉันทำเอาฉันยิ้มทันทีเพราะนี่คือคนที่จะไปกับฉัน
"ขอบคุณครับ" เสียงห้าวคุ้นหูเหมือนคนที่เพิ่งคุยโม้เรื่องเจ้าหญิงเมื่อคืนดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามา ฉันขมวดคิ้วมองพี่ใบเตยทันที เขายิ้มให้ฉันก่อนจะนั่งลงที่ข้างๆและถอนหายใจเสียงดัง "เกือบตกเครื่อง"
"พี่..."
"อ่อ เมื่อคืนลืมบอก" ฉันมองพี่ใบเตยที่หันมามองหน้าฉันพร้อมรอยยิ้มกวนๆ "พี่คือคนที่จะไปกับภีมไงล่ะ เซอร์ไพรส์ป่ะ?"
"ทำไมถึงเป็นพี่ล่ะนะ.นี่อย่าบอกยนะว่าพี่แอบฟังที่ภีมคุยกับปู่!?"
ต้องใช่แน่ๆ ต้องใช่วันที่เขาพาเจ้าหญิงมาตรวจครั้งล่าสุดแน่ๆ!
"ไม่ได้แอบฟังแต่มันได้ยินแล้วพี่ก็สนใจโครงการนี้อยู่แล้วด้วย"
"ไม่เชื่อหรอก"
"เห็นเฮียเป็นคนยังไงคะ?"
"คนบ้าน่ะสิ" ฉันตอบพร้อมกอดอกและมองไปนอกกระจกอย่างเซ็งๆ ให้ตาย..เขาเป็นบ้ามากนะ
"ถ้าเฮียเป็นคนบ้า.." เสียงห้าวหยุดไปทำให้ฉันเหลือบมองก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าหล่ออยู่ห่างกันแค่คืบ.เดี๋ยวนะนี่เขาเจาะจมูกด้วยหรอ? "ก็เป็นคนบ้าที่หล่อมากอ่ะครับ ^^"
"หลงตัวเอง!"
"หมวยนั้นแหละชอบหลอกตัวเอง ทำไมถ้าเฮียไปด้วยกลัวหวั่นไหว?"
"ใครจะไปหวั่นไหว" ฉันเถียงและขยับตัวออกห่างเขา "เอาหน้าออกไปไกลๆด้วย"
"ฮึ.."
ฉันจิ๊ปากอย่างขัดใจเพราะเขาดันเท้าคางมองด้วยสายตาแปลกๆอีกแล้ว ฉันส่ายหน้าไปมาและหันมองนอกกระจกอีกกครั้งด้วยหัวใจที่กำลังเต้นแรงอย่างคุมไม่อยู่ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนที่เวลาอยู่ใกล้พี่ใบเตยแล้วฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ฉันไม่ใช่คนขี้หงุดหงิดฉันติดจะนิ่งด้วยซ้ำแต่พออยู่กับเขาดูดิ...ไม่ถึงสิบนาทีฉันแสดงออกไปตั้งหลายอารมณ์