ตอนที่2

1176 Words
ชลนรรจ์ชี้ทางให้เธอตรงไปยังถนนเส้นนอกเมือง ที่นั่นรถน้อยและเหมาะที่จะให้เธอหัดขับโดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีใครมา ‘บังเอิญ’ ดวงซวยถูกเธอแถเข้าชนอีกด้วยเพราะสองข้างทางนั้นมีแต่ต้นไม้ และเมื่อเริ่มคุ้นชินกับทั้งรถและถนนหญิงสาวก็เริ่มเร่งความเร็วซึ่งชลนรรจ์ก็ไม่ห้ามเพราะถือว่าจะได้หัดควบคุมรถในระดับความเร็วต่างๆ และการตัดสินใจของคนเป็นฝาแฝดอีกด้วย แต่แล้วถนนที่โล่งว่างก็ไม่เป็นของสองฝาแฝดอีกต่อไป เมื่อจู่ๆ รถสีดำมันปลาบที่ขับจี้มาจากทางด้านหลังก็ขับเร่งแซงไปอย่างรวดเร็วถึงสามสี่คันติดๆ กัน ชลธิณาตกใจแตะเบรกอย่างรวดเร็วขณะที่รถคันนั้นก็หักหลบแล้วแล่นฉิวหายไปจากสายตาโดยเร็ว “บ้าจริง!” หญิงสาวถึงกับสบถกับความไร้มารยาทของเพื่อนร่วมถนน เธอส่ายหัวอย่างหงุดหงิด ก่อนจะผ่อนความเร็วลงแล้วค่อยๆ ขับด้วยความ เร็วประมาณไม่เกินหนึ่งร้อยไมล์แทน และแล้วเธอกับชลนรรจ์ก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ดูเหมือนกลุ่มรถยนต์ที่แซงหน้าอย่างไร้มารยาทเมื่อครู่นี้จะจอดอยู่ข้างหน้า เขากับชลธิณามองตากันก่อนที่จะตกลงกันว่าจะปล่อยความสงสัยนั้น ชลธิณาจึงตัดสินใจเร่งความเร็วเพื่อจะให้ไปพ้นๆ แล้วคิดว่าควรจะกลับที่พักเสียที แต่แล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อในจังหวะที่เธอกำลังจะผ่านกลุ่มรถสีดำคันนั้นไปแล้ว จู่ๆ ก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งโผล่พรวดพราดออกมาตัดหน้ารถเธออย่างกระชั้นชิด ชลธิณาถึงกับใจสั่นและทำอะไรไม่ถูก และเสี้ยววินาทีของความลนลานนั้น เธอก็ขับรถชนร่างนั้นในทันที! โครม! เมื่อได้สติหญิงสาวรีบเหยียบเบรกรถอย่างรวดเร็ว เธอมือสั่นด้วยความหวาดกลัว มองจากกระจกหลังแล้วเห็นผู้หญิงคนนั้นฟุบหมอบกับพื้นถนน ร่างทั้งร่างโชกไปด้วยเลือดจนดูน่าสยดสยอง ยิ่งบวกกับบรรยากาศโพล้เพล้เพราะใกล้จะค่ำด้วยแล้วยิ่งดูน่ากลัวมากกว่าเดิม เมื่อควบคุมตัวเองได้เธอรีบวิ่งไปดูหญิงสาวคนนั้นโดยมีชลนรรจ์วิ่งตามไปติดๆ น่าแปลก...กลุ่มรถยนต์สีดำสนิทสามสี่คันนั้นกลับรีบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่เวลานั้นเธอกับชลนรรจ์ไม่ได้สนใจอะไร ความสนใจเดียวคือคนที่เธอขับชนที่กำลังนอนจมกองเลือดเท่านั้น “นัท…เธอจะตายไหมน่ะนัท นานา…นานาไม่ได้ตั้งใจนะ เธอโผล่มาขวางหน้ารถเอง นานา…” หญิงสาวละล่ำละลักพูดกับพี่ชายฝาแฝดของตนเอง ดวงหน้าสวยซีดเผือดขณะที่ทรุดลงข้างๆ ร่างผู้หญิงคนนั้น ผมยาวสลวยสีบลอนด์ทองของเจ้าหล่อนเปียกชุ่มไปด้วยเลือดและปิดบังใบหน้านั้นจนมิดชิดมองไม่เห็นหน้าค่าตา สิ่งที่เห็นมีเพียงร่างที่เปียกโชกไปด้วยเลือดก็เท่านั้น “นานาอย่าแตะอะไรเธอนะ” ชลนรรจ์ร้องสั่งเสียงเข้ม ดวงหน้าคมคายของเขาเคร่งเครียด นี่เป็นเหตุสุดวิสัย ทว่า…เขากับนานาไม่มีพยานหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ว่าผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่วิ่งถลาออก มาตัดหน้ารถ และที่น่ากลัวก็คือนานาขับรถโดยที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่นี่สิ ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน แต่…พวกเขาไม่ผิดนี่นา... ชลนรรจ์ค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วเรียวยาวของตัวเองเขี่ยเส้นผมสีทองนั้นออกจากบริเวณใบหน้าของหญิงสาว ภายใต้เส้นผมนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดของเธอเองจนมองเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาเธอเป็นอย่างไร ชายหนุ่มยื่นปลายนิ้วไปอังใต้จมูกอีกฝ่ายเพราะเขาไม่กล้าแตะต้องตัวหญิงสาวเพราะกลัวเรื่องของลายนิ้วมือ และก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อหญิงสาวยังไม่ตาย...เธอยังมีลมหายใจอยู่! และความเห็นแก่ตัวแวบหนึ่งทำให้ชลนรรจ์ฉุดน้องสาวขึ้นมา แล้วทิ้งคนเจ็บที่ยังไม่ตายไว้ที่เดิม ชายหนุ่มเปลี่ยนตำแหน่งคนขับกับหญิงสาว ส่งผลให้ชลธิณาถึงกับโวยวายลั่น “เราต้องเอาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลนะนัท!” ชลธิณาประท้วงพี่ชายฝาแฝดของตนเอง ทว่าชลนรรจ์กลับมองเธอตาดุในยามที่เริ่มขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว “ไม่! เราจะไม่ทำอย่างนั้น อีกอย่างนะ ถ้าทำ...นานาก็ต้องติดคุก แล้วอย่าคิดว่าจะดิ้นหลุดง่ายๆ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางบอกว่าตัวเองวิ่งมาให้รถชนหรอกนะ” เขาบอกเสียงเข้ม และนั่นทำให้ชลธิณาถึงกับนิ่งด้วยความตื่นตระหนก “แล้วเราจะทำยังไงดี เราจะปล่อยให้เธอตายเหรอ?” ชลนรรจ์เงียบ ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น แต่เขาเริ่มสตาร์ทรถแล้ว และคำตอบไร้เสียงของเขาก็ทำให้ชลธิณาละล้าละลังเพราะตัดใจทิ้งคนเจ็บไม่ลง “นัท…เราปล่อยเธอตายไม่ได้นะ” หญิงสาวยังพยายามบอกกับพี่ชายของตนเอง โชคดีเป็นของผู้หญิงคนนั้นที่เธอเป็นคนขับ เธอขับไม่เร็วมากนักทำให้หญิงสาวยังไม่ถึงกับเสียชีวิตในทันที แต่…ถ้าไม่ช่วยผู้หญิงคนนั้นต้องตายแน่ๆ แล้วชลธิณาก็จะรู้สึกผิดบาปกับตัวเองไปตลอดชีวิต! เธอยอมไม่ได้หรอกที่ตัวเองจะ ‘ฆ่าคน’ แม้จะไม่เจตนาก็ตามที! และชลนรรจ์ก็เข้าใจความคิดของฝาแฝดเป็นอย่างดี สุดท้ายเขาจึงยอมใจอ่อน “…เอางี้” แฝดหนุ่มเริ่มเสนอทางเลือก “…เราแกล้งทำเป็นพลเมืองดีขับรถผ่านไปเจอได้ไหม โทรหมายเลขฉุกเฉินให้พวกเขาส่งรถพยาบาลมารับ ส่วนพวกเราก็รีบไปจากที่นี่ นัทต้องรีบเอารถไปซ่อมด้วย” และเมื่อชลธิณาจะค้าน ชลนรรจ์ก็เอ่ยเสียงแข็งค้านทันที “นัทยอมให้นานาได้แค่นี้เพราะนัทไม่อยากให้นานาติดคุก” เขาต่อรองกับฝาแฝดเสียงเข้ม และชลธิณาก็พยักหน้าตกลงทันควัน ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเริ่มใช้โทรศัพท์ไปยังหมายเลขฉุกเฉินด้วยการโกหกอย่างที่เขาชี้แนะก็ตาม ชายหนุ่มถอนหายใจยาว...ได้แต่หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ตายก่อนรถพยาบาลจะมา เขาเองก็ไม่อยากจะทำอย่างนี้แต่เพราะนี่เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ชลนรรจ์ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้ใครจับได้แล้วกันว่าแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของน้องสาวของเขาเป็นคนขับ!...ส่วนนานานั้น เขาว่า...เขาปล่อยให้ยายตัวเล็กนี่ขึ้นรถสาธารณะต่อไปดีกว่า! เพราะดูท่าเจ้าหล่อนคงไม่คิดจะหัดขับรถอีกต่อไปแล้ว!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD