ตอนที่7 แตกหัก

1567 Words
“อยู่บ้านได้ด้วยเหรอคะคืนนี้?” หลังจากที่ทวิภพพาลูกไปเที่ยวมาทั้งวัน ถึงตอนนี้จะเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่ติดบ้าน นั่งดูหนังในทีวีเหมือนกับว่าไม่ต้องออกไปไหนอีก “พอพี่อยู่ติดบ้านก็บ่น อรจะเอายังไงกับพี่อีก” สายตาที่ละออกจากจอทีวี หันไปจ้องมองหน้าภรรยาอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน “ถ้าเป็นเมื่อก่อนอรคงดีใจมากเลยล่ะ แต่ทุกวันนี้จะมีพี่อยู่บ้านหรือไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากัน ไม่ไปอยู่กกอีหนูพวกนั้นล่ะ จะกลับมาหาลูกทำไม เจ้าขาก็แทบจะลืมไปแล้วว่ามีพ่อชื่อทวิภพ” ร่างสูงของทวิภพถึงกับลุกพรวดขึ้นเต็มความสูง เดินเข้าประชิดตัวภรรยาอย่างไม่พอใจ ก่อนที่ฝ่ามือหนาใหญ่จะบีบแก้มของคนที่กล้าต่อปากต่อคำอย่างหมดความอดทนไม่ต่างกัน “เพราะอรเป็นแบบนี้ไงพี่ถึงไม่เคยอยากจะอยู่บ้าน อรเคยมองดูตัวเองบ้างไหมว่าทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญ ทำตัวงี่เง่ามากแค่ไหน” ความเจ็บปวดกว่าคำต่อว่าด่าทอ ก็ตอนที่ฝ่ามือหนาบีบแก้มด้วยแรงความโมโห ก่อนจะสะบัดมือออกอย่างแรงอีกครั้ง จนใบหน้าอรสาหันไปตามแรงที่สะบัดนั้น “น่าเบื่อน่ารำคาญมากนักก็เลิกกับอรซะสิ หย่าให้อรสักที อรจะได้ไปจากตรงนี้ อรจะได้พาลูกกลับไปอยู่กับพ่อแม่ของอร แล้วก็เชิญพี่เสวยสุขอยู่กับความร่ำรวยเฮงซวยแบบนี้ไปคนเดียวเถอะนะ” “หย่าเพื่อให้อรได้ไปมีผัวใหม่งั้นสิ หึ! อรฝันไปเถอะนะว่าพี่จะเซ็นหย่าง่าย ๆ เรื่องลูกก็เหมือนกัน เลิกเอาคำพูดไม่ดีไปใส่ในหัวลูกได้แล้ว เป็นแม่ประสาอะไร อรรักลูกจริงหรือเปล่า สอนให้ลูกพูดอะไรออกมา เมียนงเมียน้อยมันใช่สิ่งที่ลูกควรจะรับรู้ไหมหะ!” “ก็มันเรื่องจริง ลูกรู้แบบนี้ก็ดีแล้ว ก็พ่อมันเลวจริงนี่นา พ่อมันมีเมียน้อยจริง ๆ นี่นา อรจะบอกอะไรให้นะพี่ภพ ถึงพี่ไม่ยอมหย่าอรก็จะพาลูกกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ อรจะไปมีชีวิตที่อรอยากจะเป็นบ้าง ในเมื่ออยู่ตรงนี้แล้วผัวไม่เห็นค่า ผัวไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ อรขอแค่ลูกเท่านั้นพอ” “อยากไปนักก็ไปสิ ไปให้รอดด้วยนะ แต่ผู้หญิงอย่างอรจะไปทำอะไรได้ ดีแต่แบมือขอเงินผัว” คำพูดคำจาที่ดูหมิ่นดูแคลน ไม่น่าเชื่อว่าจะออกจากปากผู้ชายที่เคยบอกว่ารักกันมาก นี่เขากำลังดูถูกเธออยู่สินะ คิดว่าถ้าไม่มีเขาคอยเลี้ยงดูเธอจะไม่มีปัญญาหาเลี้ยงตัวเองกับลูกหรือไง อรสาได้แต่จ้องมองหน้าผู้เป็นสามีอย่างผิดหวัง “แล้วอรจะทำให้พี่ภพเห็น ว่าผู้หญิงอย่างอรทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด อรไม่เคยคิดว่าการที่เรามีเงินมากมายขนาดนี้แล้วพี่จะเปลี่ยนไปในทางที่เลวได้แบบนี้ อรยอมอยู่แบบจน ๆ เหมือนเมื่อก่อนยังจะดีกว่า ถ้ามันจะทำให้ชีวิตของเรามีความสุขมากกว่าตอนนี้ แต่ในเมื่อวันนี้ทุกอย่างมันไม่สามารถต่อกันติดขึ้นมาได้อีกครั้ง อรยอมถอยออกมาเองค่ะ อรจะไม่เรียกร้องอะไรกับพี่เลย ถ้าพี่ไม่พร้อมจะหย่าให้ตอนนี้ อรก็จะรอจนพี่พร้อมก็แล้วกัน” อรสารีบหันหลังเดินจากไปทั้งน้ำตา ความรู้สึกต่าง ๆ มากมายถาโถมเข้ามาหา ความอดทนที่มีมันคงถึงจุดสิ้นสุดลงแล้วจริง ๆ “เออ ไปเลยนะ ไปให้มันรอดอย่าวิ่งแจ้นกลับมาหาพี่ก่อนก็แล้วกัน” ทวิภพตะโกนไล่หลังอย่างหงุดหงิดหัวเสีย ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถยนต์ขับออกจากบ้านไปกลางดึก “เราจะไปไหนกันคะคุณแม่?” จันทร์เจ้าขาถามขึ้นด้วยอาการที่งวยงง เพราะโดนคนเป็นแม่ปลุกให้ตื่นขึ้นมากลางดึก ท้องฟ้ายังมืดสนิทเพราะยังเป็นเวลากลางคืน ทำให้หนูน้อยนึกหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย “เราจะกลับบ้านคุณตาคุณยายกันค่ะ เจ้าขานอนต่อบนรถได้เลยนะลูก” อรสาหันไปมองหน้าลูกสาวที่กำลังงัวเงียเพียงเล็กน้อย เธอเลือกที่จะเดินทางในเวลานี้ ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ให้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพ่อของลูกจะรถเก๋งคันเล็กสีขาวขับเคลื่อนออกจากบ้านไปช้า ๆ ถึงจะโมโหสามีมากแค่ไหน แต่ชีวิตของลูกสาวที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างไร้เดียงสาอยู่ข้างกายก็สำคัญยิ่งกว่า ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ราวเจ็ดชั่วโมง อรสาก็มาจอดรถอยู่หน้าบ้านสวนที่เธอเคยอาศัยอยู่มาตั้งแต่เป็นเด็ก ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ บ้านช่องดูเงียบเชียบเพราะพ่อกับแม่คงยังไม่ตื่นนอนกัน เธอจึงเดินเข้าไปภายในบ้าน เคาะประตูกระจกปลุกเรียกคนเป็นแม่สองสามที นางปราณีจึงรีบเดินมาเปิดให้อย่างหน้าตาตื่น “มายังไงกันล่ะนางเอ้ย ทำไมมาถึงเช้าขนาดนี้ล่ะลูก” “สวัสดีจ้ะแม่ หนูมากับเจ้าขาน่ะ” “ทะเลาะกับผัวมาหรือไง ถึงได้ขับรถหนีมาถึงบ้าน” “อรไม่ได้หนีจ้ะแม่ แต่อรกับพี่ภพเลิกกันแล้ว” นางปราณีถึงกับดวงตาเบิกโพลง ครั้งนี้คงจะหนักหนามากจนถึงขั้นหอบลูกหนีกลับมาบ้าน เพราะไม่บ่อยครั้งที่ลูกสาวจะกลับมาบ้านโดยปราศจากสามีข้างกายอย่างตอนนี้ “ใครมาแม่มึง” เสียงนายบรรจงถามภรรยาขึ้น ก่อนจะเดินออกมาเห็นลูกสาวที่กำลังยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ที่หน้าบ้าน “ลูกกับหลานมาน่ะพ่อมึง ทะเลาะกับผัวเลยหนีมา” “เรื่องมีบ้านเล็กบ้านน้อยน่ะเหรอ นิสัยผู้ชายมันก็เป็นปกตินะอีนาง” นายบรรจงบอกกับลูกสาว ทำเอาอรสาไม่ใคร่จะพอใจคนเป็นพ่อนัก “พ่อเป็นผู้ชายเหมือนกัน พ่อก็เข้าข้างเขาสิ ถ้าพ่อไปมีเมียน้อย แม่จะยอมไหมจ๊ะ?” อรสาหันหน้าไปถามมารดา ทำไมหลายคนถึงคิดว่าการที่ผู้ชายมีบ้านเล็กบ้านน้อยมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและไม่ควรจะทำเมื่อมีคู่ชีวิต มีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนแล้วแบบนี้ “แต่ก่อนพ่อเขาก็เป็น แม่ตามจิกจนเหนื่อยกว่าจะกลับมาเป็นผู้เป็นแบบนี้ได้ ทุกวันนี้น่ะเหรอ ไม่บ้าผู้หญิงแต่บ้าน้ำเมาแทน แม่รอให้ตายจากกันเท่านั้นแหละถึงจะหมดเวรหมดกรรมจากกันสักที” “เอ้าแม่มึง ทำไมแช่งพ่อแบบนั้นล่ะ อยู่เป็นคู่กัดแบบนี้อีกนาน ๆ นั่นแหละ จะให้รีบตายไปไหน” สองตายายยังพูดหยอกล้อกันอย่างเป็นเรื่องสนุกเช่นทุกครั้ง แต่คนที่กำลังถูกมรสุมชีวิตรักรุมเร้าอย่างอรสา เธอกลับไม่มีอารมณ์จะหัวเราะให้กับความหยอกเอินของบุพการีได้เลย “แต่อรไม่ใช่แม่นะ อรเหนื่อยที่จะวิ่งตามแล้วจ้ะแม่ อรอยากอยู่แบบมีความสุขกับลูกสองคน บางทีผัวก็ไม่จำเป็นสำหรับชีวิตอีกแล้ว” “เอาเถอะ ๆ อีนาง กลับมาอยู่บ้านให้สบายใจก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” นายบรรจงบอกกับลูกสาว ทั้งเข้าใจและไม่อยากเข้าไปแทรกแซงเรื่องของผัวเมียนัก ถึงจะเป็นพ่อแต่ชีวิตครอบครัวของลูกก็อยากให้ตัดสินใจกันเอง “เจ้าขายังไม่ตื่นอีกหรือนั่น” นายบรรจงชะโงกหน้ามองกระจกรถที่มีหลานสาวกำลังนอนหลับพริ้มอยู่บนเบาะอย่างนึกเอ็นดู “จะตัดสินใจอะไรก็คิดถึงลูกนะอรนะ เจ้าขาน่าสงสาร แม่ไม่อยากบอกให้ทน แม่เข้าใจแต่แม่ก็อยากให้อรนึกถึงลูกไว้มาก ๆ” “อรตัดสินใจแล้วจ้ะแม่ อรคิดตรึกตรองมาดีแล้ว สักวันเจ้าขาจะเข้าใจ เพราะถ้าอรอยู่แบบนั้นลูกก็จะไม่มีความสุข อรกับพี่ภพเราพูดดีด้วยกันไม่ได้อีกแล้วแม่ เรามาถึงทางตันกันแล้วจริง ๆ” เพราะการเดินออกมาครั้งนี้ อรสาไม่คิดจะกลับไปให้คนอย่างทวิภพดูถูกดูแคลนเธอได้อีกแล้ว พอกันทีกับชีวิตเมียหลวงที่ไม่เคยมีความสุขมาตลอดหนึ่งปีเต็ม ไปตายที่ไหน ในเมื่อเขาเอ่ยปากไล่กันแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ทำไมจะต้องมาทนให้เขาดูถูกกันแบบนี้ เธอก็มีหัวใจเหมือนกัน มีพ่อแม่ที่รักแล้วทำไมต้องมาทนอยู่กับผัวเฮงซวยพรรค์นี้ด้วย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD