หญิงสาวจึงจำใจต้องเดินไปข้างหน้า ส่วนคนที่หันหลังอยู่ก็หมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ เมื่อสองสายตาประสานกันก็ทำให้ร่างบางรีบหลบสายตาจากเขาทันที ยิ่งมายืนอยู่ตรงนี้ยิ่งทำให้เธอนึกถึงเรื่องวันนั้น แต่เธอต้องท่องเอาไว้ เธอไม่ได้มาระลึกความหลังกับเขา แต่เธอมาเพื่อคุยธุระสำคัญกับเขาเท่านั้น
“มีธุระอะไรกับผมเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไว้เชิง
“ฉันท้อง และมีบางอย่างอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ” เฌอริสาเอ่ยออกมาด้วยความลำบากใจ เธอรู้ว่าเขาไม่ผิด แต่สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เพราะว่าเธอไม่มีทางเลือกอะไรเหลืออยู่ในชีวิตของเธออีกแล้ว
“อยากให้ผมรับผิดชอบโดยแต่งงานด้วยเหรอ” พศุตเอ่ยออกมาอย่างสบายๆ เขาไม่ได้รู้สึกเครียดเรื่องที่ได้ยินสักนิด เขารู้ตั้งแต่วันที่เธอไปที่โรงพยาบาลแล้วว่าเธอตั้งครรภ์ และเขากำลังรอดูว่าเธอจะทำยังไงกับเรื่องนี้
“ไม่ใช่ค่ะ อย่าเข้าใจฉันผิดนะคะ ฉันไม่ต้องการถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันจะขอแค่ให้คุณไปหาแม่ฉัน แล้วก็ยอมรับว่าคุณทำฉันท้อง หลังจากนั้นฉันจะเป็นคนบอกแม่ฉันเองว่าเราไปกันไม่รอด เราเลิกกันแล้ว” เฌอริสารีบอธิบายทันที เพราะเธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด แค่ที่บากหน้ามาหาเขาวันนี้เธอก็รู้สึกผิดที่เป็นตัวปัญหาให้กับเขา ถ้าเขาไม่ช่วยเธอวันนั้นเขาก็คงจะไม่เดือดร้อนเช่นในวันนี้
“แล้วแม่คุณจะเชื่อเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยเชิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน เธอมาเพื่อเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงบอกให้เขารับผิดชอบแล้วแน่ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ต้องการแค่ให้เขาไปพบแม่เธอ นี่เธอคิดอะไรของเธออยู่ หรือนี่มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจับเขาของเธอหรือเปล่า เขาก็ยังไม่แน่ใจเท่าใดนัก
“ท่านก็ต้องเชื่อแหล่ะค่ะ แต่ท่านคงจะเล่นฉันสะบักสะบอมแน่นอน ถ้าฉันท้องไม่มีพ่อ” แค่คิดถึงมารดาหญิงสาวก็ทำท่าทางหวาดกลัว การท้องไม่มีพ่อ กับการท้องแล้วเลิกกับพ่อของลูกมันต่างกันสิ้นเชิง แล้วเธอก็เชื่อว่ามารดาจะยอมใจอ่อน เมื่อได้เห็นหน้าหลานท่านก็คงจะใจอ่อน แล้วท่านคงจะยอมรับความจริงที่ว่าเธอและพ่อของลูกเธอไม่สามารถไปด้วยกันได้
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ คุณจะเลี้ยงดูลูกได้เหรอ” คราวนี้ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“ก็ต้องได้สิคะ ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงได้อยู่แล้ว” เฌอริสาเอ่ยด้วยความมั่นใจ “ว่าแต่คุณเถอะ จะยอมช่วยฉันหรือเปล่า” หญิงสาวไม่แน่ใจกับท่าทีของชายหนุ่ม เขาไม่ได้ดูเดือดเนื้อร้อนใจอะไร เขายังนิ่งราวกับว่าเขาไม่ได้ตกใจเรื่องการตั้งครรภ์ของหญิงสาว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เขาชินชากับเรื่องพวกนี้เสียแล้ว