เหี้ยมโหด

1146 Words
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ไปทั่วโกดังเก็บของที่อยู่ย่านชานเมือง จากการปะทะกัน ระหว่างลูกน้องของไฟซาลและกลุ่มคนที่เข้ามาวางเพลิง นับว่าโชคดีที่เพลิงยังไม่ได้ลุกลามใหญ่โต เพราะลูกน้องที่เดินเวรยามมาเห็นเข้าเสียก่อน จึงเกิดการปะทะกันอย่างที่เห็น “ปัง” ฉึก!! เสียงปืนเจาะเข้าขาของคนร้ายที่กำลังวิ่งหนี ด้วยฝีมือของไฟซาลที่แม่นยำราวกับจับวาง “ไปลากตัวมันมา” เสียงเข้มร้องสั่งการ ให้ไปลากตัวคนถูกยิงมาเพื่อสอบปากคำ ว่ามันเป็นคนของใคร ถึงได้กล้าบุกเข้ามาในเขตพื้นที่ของเขาเช่นนี้ “มึงอยู่กับนาย ส่วนที่เหลือตามกูมา” ต้นกล้าเอ่ยบอกศิลา จากนั้นก็ตะโกนสั่งลูกน้อง ให้วิ่งตามตัวเองไปยังประตูด้านหลังโกดัง เพื่อตามล่าคนที่เหลือ “จับมันมัดไว้” ไฟซาลเอ่ยสั่ง สายตาคมดุจเหยี่ยวเพ่งมองชายชุดดำ ที่ถูกลากตัวไปมัดไว้กับต้นเสา กำลังดิ้นหนีเอาตัวรอด “ปล่อยกู ปล่อย!!” ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนที่ร้องโวยวายให้ปล่อยช้าๆ รังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายหนุ่ม ทำให้ชายชุดดำเสียวสันหลังขึ้นมา ใครเลยจะไม่รู้ชื่อเสียงของไฟซาล ลูกชายคนเล็กของตระกูลศักดิธัชกุล ว่าชายหนุ่มคนนี้โหดเหี้ยมไม่ต่างจากบิดาที่ล่วงลับไป เพียงแค่ใช้สายตามองเหยื่อตรงหน้า ก็ทำให้แข้งขาอ่อนแรงได้ และวันนี้เขารู้แล้ว ว่าสิ่งที่เล่าลือกันมาคือเรื่องจริง “มึงเป็นคนของใคร” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม ไม่ต่างจากสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาเลยสักนิด มีเพียงแววตาเท่านั้นที่วาวโรจน์ขึ้นทุกขณะ “กูไม่บอก” แม้หัวใจจะเต้นแรงเพราะกลัว แต่ก็ยังไม่ยอมบอกว่าตัวเองคือคนของใคร “แน่ใจนะ ว่าจะเลือกเป็นคนรักอุดมการณ์ ไม่ยอมทรยศหักหลังเจ้านายมึง เพื่อเอาตัวรอดจากกู” “กูมีศักดิ์ศรีพอ ที่จะไม่ทรยศต่อองค์กร” มุมปากไฟซาลกดลงเล็กน้อย แววตาฉายแววดุดัน ใช้ปลายกระบอกปืนในมือดันคางผู้ชายตรงหน้าขึ้น ก่อนจะไล้ปลายกระบอกปืนไปตามใบหน้าของผู้ชายคนนั้นช้าๆ เหมือนกำลังเล่นสนุกกับความรู้สึก และเพิ่มความกดดันให้ศัตรู และเชื่อเถอะว่ามันได้ผล แม้ผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้ปริปากอะไรออกมา แต่สายตาที่ล่อกแล่กไปตามปลายกระบอกปืน และเหงื่อที่ผุดขึ้นตามกรอบหน้า ก็พอจะเป็นคำตอบให้ไฟซาลได้เป็นอย่างดี “กูจะให้โอกาสมึงตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะบอกหรือไม่บอก” ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงตามการกลืนน้ำลายเพราะลำคอแห้งผาก หัวใจเต้นแรงตึกๆ แทบจะหลุดออกมาด้านนอก กับทางเลือกที่ไฟซาลเสนอมา “กูไม่ชอบรออะไรนานๆ ปัง!” สิ้นเสียงพูด เสียงปืนก็ดังขึ้นทันที ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด “อ๊าง!!” ชายคนนั้นทรุดลงไปนั่งที่พื้น เมื่อถูกยิงเข้าที่ขาอีกข้างๆ “แก้มัดมัน” คนถูกยิงล้มตัวลงนอนบนพื้นอย่างหมดแรงด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นคนของใคร ไฟซาลขยับตัวลงนั่ง สายตามองคนที่นอนแผ่หลาบนพื้น ราวกับมองเศษขยะไร้ค่าที่แสนน่ารังเกียจ “ถ้าให้กูเดา มึงคนเป็นคนของไอ้เฟยใช่ไหม” “ไม่ใช่!” สวนตอบกลับมาแทบจะไม่ต้องใช้เวลาคิด แต่กลับเป็นคำตอบที่ถูกใจไฟซาลไม่น้อย “กูได้คำตอบแล้ว ว่ามึงคือคนของไอ้เฟย” “กูบอกว่าไม่ใช่ไง กูไม่ใช่คนของเฟยหลง” ตะโกนปฏิเสธออกมาเสียงดัง เพื่อย้ำให้ไฟซาลเข้าใจ ว่าตัวเองไม่ใช่คนของเฟยหลงจริงๆ “ก็ได้ๆ กูเชื่อมึงก็ได้ ว่ามึงไม่ใช่คนของไอ้เฟยไอ้หมาลอบกัด ถ้าอย่างนั้นกูขอนิ้วมึงสักนิ้วได้ไหม กูจะเอาไปให้ไอ้เฟยมันดูหน่อย ว่าใช่นิ้วของลูกน้องมันไหม” ไฟซาลกดยิ้มมุมปาก ขยับตัวลุกขึ้นยืนพยักหน้าให้ลูกน้องมาจัดการต่อ “ไม่นะ! ไอ้เหี้ยมึงจะทำอะไรกู ไอ้ไฟ ไอ้เหี้ย อ๊าง!!!” เสียงร้องโหยหวนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังลั่นโกดังเก็บของ เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับนิ้วมือของผู้ชายคนนั้นที่กระเด็นหลุดออกมา ร่างของชายคนนั้นชักดิ้นชักงอกับพื้น ด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส ร้องโหยหวนออกมาไม่ขาดสาย ท่ามกลางความหวาดกลัวในใจ ของชายชุดดำที่ยืนอยู่บริเวณนั้น บางคนถึงกลับเบือนหน้าหนี ไม่อาจมองเห็นความโหดร้ายตรงหน้าได้ “ทีแรกว่าจะตัดแค่นิ้วเดียว แต่มึงดันเรียกกูว่าเหี้ย งั้นกูจะสนองความเหี้ยของกูให้มึงเอง... ตัดมือมัน เสร็จแล้วเอามันไปทิ้งลงน้ำ ถ้ารอดก็ถือว่าทำบุญที่ได้ปล่อยนกปล่อยปลา แต่ถ้ามันตายก็ถือว่าทำบุญ ที่ช่วยให้มันหมดเวรหมดกรรมเร็วขึ้น” น้ำเสียงเย็นเหยียบ เปล่งออกมาจากเรียวปากหยักสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยว ทอดมองร่างที่หายใจรวยรินอีกครั้ง ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า กระชากผมผู้ชายคนนั้นจนหน้าแหงน “โชคดีนะมึง ไอ้เหี้ย!!” ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นยืน หมุนตัวเดินออกจากโกดังไป พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่ดังตามหลังมา “อ๊าง!!” “เอามือไอ้นั่นส่งไปให้ไอ้เฟยดู แล้วเขียนการ์ดบอกมัน ว่าเป็นของขวัญจากกู” หันมาพูดกับศิลาที่เดินตามหลังมาติดๆ “ครับนาย” ศิลาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องทำตามคำสั่งไฟซาล จากนั้นชายหนุ่มก็รีบเดินมาเปิดหลังรถ เพื่อนำรองเท้าคู่ใหม่มาให้เจ้านายสวมใส่ “เจ้านายถูกยิงนี่ครับ” ศิลารีบปรี่เข้ามาดูไฟซาล เมื่อเห็นว่าแขนชายหนุ่มมีเลือดเปื้อนเสื้อ คนถูกยิงเหลือบสายตามองแขนตัวเองเล็กน้อย “นิดหน่อยแค่เฉี่ยวไป เอาน้ำกับแอลกอฮอล์ในรถมา” ศิลารีบทำตามที่เจ้านายสั่ง นำน้ำมาล้างมือให้ไฟซาล ตามมาด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค และจบด้วยกระดาษทิชชูสำหรับเช็ดมือ ก่อนที่ชายหนุ่มจะขึ้นไปนั่งรอบนรถ “จัดการทุกอย่างตามที่นายสั่ง และทำให้เงียบที่สุด” “ครับคุณศิ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD