ยังจะกล้ามาอีก!

933 Words
“รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ตื่นตั้งแต่เช้า เพื่อจะไปสูดอากาศหอมหวานในเอเธนส์ให้ฉ่ำปอดไปเลย” หญิงสาวทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่ม รู้สึกมีความสุขดีเยี่ยมจนกระทั่งหวนคิดขึ้นมาได้ว่า เธอมีภารกิจบางอย่างที่ต้องจัดการ นั่นคือเรื่องของมารดาผู้ทรงเกียรติ แน่นอน เธอมีที่อยู่ของครอบครัวนั้นแล้ว แต่คำถามก็คือ เธอควรจะไปพบกับผู้หญิงคนนั้นรึเปล่านะ? “เธอจะรู้สึกยังไงนะ ที่ได้เจอกับเรา จะดีใจไหมนะ” ดวงตากลมสวยจ้องมองดวงไฟเพดานนิ่งๆ แววตาที่ดูฉลาด สุกสกาว ก็พลันเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด กังวล เพียงไม่กี่วินาทีที่จ่มจมกับการตั้งคำถามงี่เง่าสารพัด เธอก็พลิกร่าง นอนตะแคง จับจ้องไปที่ตุ๊กตาหมีคู่กาย มันกำลังถูกสายลมเอื่อยเฉื่อยไหวไปมา “พ่อจ๋า พ่อยังอยู่ข้างๆ หนูใช่ไหมคะ เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ หนูจะทำทุกเรื่องที่พ่อสั่งไว้ให้ดีที่สุด” เปลือกตาบางๆ ใต้คิ้วสีน้ำตาลอ่อน ค่อยๆ กลบปิดดวงตาสีน้ำเงินเข้มเอาไว้ในความชุ่มชื่นและมืดมิด หญิงสาวหลับใหลไปในโลกแห่งความเวิ้งว้างว่างเปล่า ราวกับว่าเธอกำลังล่องลอยอยู่ในอวกาศ แหวกว่ายอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ มินานนัก ดวงตาของสาวน้อยก็ได้เห็นนางฟ้าตัวเล็กๆ กำลังวิ่งเล่นอยู่บนหาดทรายสีขาวระยิบระยับ ที่มีทะเลสีฟ้าสดโอบคลุม เธอเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก ช่างเจรจา ชอบมีคำถามชวนปวดหัวอยู่เรื่อยและหากสงสัยสิ่งใดก็จะต้องค้นหาคำตอบให้ได้ แน่นอนที่สุด เธอต้องถามเขาเรื่องมารดาอยู่แล้ว ที่ห้องเรียนของเธอ เธอเป็นหนึ่งในเด็กที่ไม่มีแม่ เป็นลูกฝรั่งที่มาปักหลักใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำไปว่าเธอมีแม่เป็นคนไทย พ่อของเธอ ไม่ยอมมีภรรยาใหม่ เพราะเขายังรักปักใจกับผู้หญิงคนนั้น เธอซึ่งได้จุมพิตลาเขาหลังจากที่คลอดลูกสาวให้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน บิดาเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับรักครั้งนั้นอย่างไม่คิดจะปิดบัง บอกให้เธอรักแม่ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เธอก็รับปากและสัญญาว่าจะเป็นลูกที่ดี แม้บางคราวที่เธอโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นจากแม่ เธอก็จะเก็บงำอย่างเข้มแข็งและสวมกอดพ่อแทน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของบิดาจากดินแดนอันไกลโพ้น ทำให้การลืมตาตื่นขึ้นในวันใหม่ของเธอเปี่ยมไปด้วยความหมาย เธอยิ้มรับกับแสงแรกของตะวันในเอเธนส์ ที่ส่องผ่านบานหน้าต่างเข้ามา ผ่านดอกforget me notช่อใหม่ที่เพิ่งจะผลิดอกก่อนรุ่งสาง แสงสีทองฉาบห้องเล็กๆ ให้มีพลัง อบอุ่น และงดงาม “อรุณสวัสดิ์เอเธนส์” อยู่ๆ เธอก็ได้กลิ่นขนมอบคลอเคล้ามากับอากาศอ่อนหวาน ได้กลิ่นอาหารที่มีเครื่องเทศผสมผสานอย่างคุ้นจมูก ทันใด เธอก็นึกถึงพิชซ่าบางชนิดขึ้นมา “เหมือนเมนูของพ่อเลย ใช่แล้ว พิชซ่าหน้าอาหารทะเล” เธอดีดตัวลุกขึ้นนั่งเหมือนกับตุ๊กตาล้มลุก “ไม่ได้การละ ต้องใช้เวลาในวันนี้ให้คุ้มค่าหน่อยสิ” หญิงสาวกระโดดลงจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่ได้อาบ แต่ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเท่านั้น เธอชโลมกายด้วยน้ำมันหอมกลิ่นธรรมชาติเพื่อป้องกันผิวแห้งแตก ไม่แต่งหน้า ทาปากด้วยลิปสติกมันเท่านั้น เธอแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว ใส่เสื้อผ้าสามชั้นเพื่อกันมิให้อุณหภูมิราวๆ สิบแปดองศาในวันนี้ทำอะไรเธอได้ เธอมีกระเป๋าหนึ่งใบสำหรับสะพายติดตัว ภายในกระเป๋า บรรจุของสำคัญทุกอย่าง รวมทั้งของวิเศษที่ทำให้สามารถเอาตัวรอดจากการหลงทางได้ โดยเฉพาะแผนที่อย่างละเอียดยิบและโปรแกรมสำหรับการท่องเที่ยวหนึ่งวันในเอเธนส์ “เริ่มต้นที่ตลาดพลาก้านี่แหละ” หญิงสาวฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ขณะลงมายังชั้นล่างสุดของตัวอาคาร กลิ่นของอาหารลอยอวลต้อนรับเธอ เธอแน่ใจว่าวันนี้จะเป็นวันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเธอ แต่แล้วเมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย ฝีเท้าเธอกลับชะงัก ดวงตาตกตะลึงค้างเติ่ง ก่อนจะกระพริบเร็วๆ เหมือนคนไม่แน่ใจตัว “เฮ้...” ทำไมเธอไม่ได้กลิ่นสาบสางเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่มีอสูรกายเข้ามาในร้าน เธอต้องตาฝาดไปแน่ๆ ที่เห็นหมอนั่นนั่งอยู่ที่โต๊ะติดกระจกตรงหน้าร้าน เขาสวมสูทหรูหราเช่นเคย ก็นะ หมอนี่คงไม่กล้าสวมเสื้อผ้าแบบอื่นออกจากบ้านเป็นแน่ละ เขากำลังนั่งดื่มกาแฟอย่างสบายอารมณ์ เขาไม่ได้ฮัมเพลงเหมือนกับเธอ แต่สีหน้าของเขาบอกว่าเป็นเช่นนั้น ควันโขมงที่ลอยเป็นริ้วอยู่เหนือถ้วยกาแฟ ทำให้รู้ว่าเขาเพิ่งจะมานี่ได้ไม่นาน “ตลกแล้ว” แม้เธอมั่นใจว่าไม่ตลกแน่ๆ เขาหันมามองเธอ เผยรอยยิ้มที่ชวนประหลาดตา รอยยิ้มหยามเย้ย และชวนพิศวงระคนกัน “ยังจะกล้ามาอีก” มาลินีคิดว่าเธอยังคงฝันอยู่เป็นแน่ เธอคงยังไม่ตื่นหรอก แต่อะไรเลยจะเท่ากับกลิ่นน้ำหอมที่ผสมมากับบรรยากาศเงียบสงบของร้านที่น่ารักแห่งนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD