อย่าคิดว่าฉันจะกลัว

696 Words
“ไอ้บ้านี่” เธอเพิ่งจะสังเกต ทั้งร้าน มีหมอนั่นนั่งอยู่เพียงลำพัง “หน้าด้าน” เธอบ่นเป็นภาษาไทย ดูเขาจะสะใจไม่น้อยที่ได้เห็นหญิงสาวทำหน้าเหวอ “อยากโดนด่าอีกรึไง” เธอทำหน้าเซ็ง เป่าลมออกปากแรงๆ ขณะก้าวลงบนพื้นกระเบื้องสีน้ำตาลแดงที่คิดว่าทรงคุณค่ากว่าหมอนั่นเป็นไหนๆ เธอหมุนตัวเลี้ยวเข้าไปหลังร้าน สู่บริเวณครัว เพื่อจะดูว่าสถานการณ์ของเจ้าของเคหะสถานเป็นเยี่ยงไรในตอนนี้ ทว่า สิ่งที่เธอพบ เพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น “พี่ศจีคะ” เธอเรียกแค่คำเดียว เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์แน่ๆ สัญชาตญาณส่งกลิ่นว่ามันต้องมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นแน่ๆ ซึ่งคนที่จะให้คำตอบแก่เธอได้นั้น เขานั่งอยู่ในร้านนี่เอง หญิงสาวหมุนตัวจะหันหลังกลับ หากก็ต้องชะงักด้วยความตกใจแกมตะลึง เพราะคนที่เธอจะไปเอาเรื่องโผล่มายืนด้านหลังของเธอแล้ว มาลินีอุทานพร้อมกับผงะหงายหลังล้มตึงลงไปนั่งแช่อยู่บนพื้นห้อง หมอนี่แค่มองเธอด้วยสายตาเย็นชากึ่งเยาะ ลิ้นดันกระพุ้งแก้มเล่น มือกอดอก เท้ากระดิก “ผู้หญิงแบบนี้ ต่อให้กำลังจะตกเหว ตกสะพาน ตกตึก ฉันก็ไม่มีวันเอามือที่สวยงามและทรงคุณค่าของฉันไปแตะให้เสื่อมเสียหรอก” มาลินีอ้าปากค้าง กัดฟันกรอด คิดว่าเธออยากจะให้ช่วยนักรึไง เธอรีบลุกขึ้นยืน แม้มิอาจจะเทียบความสูงของหมอนี่ได้ ก็ยังดีกว่านั่งอย่างไร้ทางสู้ “คุณใช่ไหม ที่ทำให้คนในบ้านนี้หายไป คุณเอาพวกเขาไปซ่อนไว้ที่ไหน” ชายหนุ่มยิ้มเย้ย เชิดหน้า ท่าทางกวนประสาทจับจิตจับใจ เดินเลยเธอไปหยุดหน้าเตาอบขนม เตาแบบโบราณที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาลองหยิบขนมมาดมดู “ชอบคำถามนี้จังเลย เอาไปซ่อนไว้ที่ไหนนะ” พูดพลางหันกลับมาทำหน้าเข้มใส่เธอ เดินเข้าหาเธอ แล้วก้มลงมองใบหน้าเธอใกล้ๆ จนหญิงสาวต้องเบี่ยงหน้านิดๆ เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะเธอตอนนี้ ไม่มั่นใจว่าหมอนี่คือคนหรือผีดิบดูดเลือดกันแน่ “ก็บอกแล้วไง ว่าวันนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ตลอดกาล” “หมายความว่าไง” “หมายความว่า พระเจ้า สามารถทำอะไรก็ได้ไงแม่หนู” เขากระดกคิ้ว กวนโทสะ “แม้แต่ ตอนนี้ ที่ห้องพักของเธอ ก็ว่างเปล่าไปแล้ว เพราะคนของพระเจ้ากำลังลื้อกระเป๋าและข้าวของของเธอออกมาโยนทิ้งที่หน้าร้านจนหมดเกลี้ยงแล้ว ไม่เชื่อก็ลองไปดูด้วยตาตัวเองสิ” หญิงสาวอ้าปากค้าง ถ้าหมอนี่พูดจริง เธอจะทำยังไงดี “ทำแบบนั้นไม่ได้นะ” “ทำไมจะไม่ได้ ที่อื่นฉันไม่รู้ แต่ถ้าที่นี่ ที่เอเธนส์ ไม่สิ กรีซดีกว่า ไม่มีคำว่าไม่ได้สำหรับฉัน” พูดพลางทำเย้ยหยันใส่เธอ ท่วงท่าจำเจที่คงทำเป็นประจำ มาลินีรู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้า มือกำแน่น แต่ไม่สามารถนำไประบายบนใบหน้าที่คู่ควรของเขาได้ ตอนนี้ ดูเหมือนเธอจะเสียเปรียบทุกทาง เธอหันหลังขวับ ก้าวเร็วเดินออกจากครัว เขาเดินตามมาติดๆ เพื่อจะตอกย้ำความผิดพลาดของหญิงสาวที่ได้กระทำไว้เมื่อวาน ด้วยการหัวเราะเสียงเล็กๆ บาดหู “ทุกคนเดือดร้อนไปหมด โธ่ ช่างน่าสงสารครอบครัวน้อยๆ ในร้านขนมอบ” หัวใจของหญิงสาวตกวูบ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าพระเจ้าจะถือหางเขา เมื่อเธอเปิดประตูหน้าร้านออกไปก็พบว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของเธอและข้าวของบางชนิดวางอยู่อย่างระเกะระกะ ตรงนั้นเองมนุษย์คุ้มครองหมอนี่กำลังคุ้มครองสิ่งของของเธออยู่ เธอนิ่งงัน ก่อนจะหลับตาแน่น แล้วตั้งสติ หากมิทันนิ่งดี เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาก็ปลุกเตือนเธออีกครั้ง อย่าอ่อนแอนะมาลินี จงเข้มแข็งไว้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD