แสงแดดยามสายลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามาในห้องนอน ผมขยับตัวอย่างเชื่องช้า พลางยกมือกดขมับเบาๆ ความรู้สึกมึนงงแล่นปราดขึ้นมาทันทีที่เปลือกตาถูกเปิดออก อาการคล้ายคนเมาค้างยังเกาะกุมร่างกายอยู่ไม่คลาย ร่างกายหนักอึ้งเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง แต่ผมก็ยังฝืนพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียง เดินเซไปยังห้องน้ำอย่างคนหมดแรง
น้ำเย็นจัดจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายเปลือยเปล่า ความเย็นช่วยปลุกความรู้สึกให้ตื่นขึ้นบ้าง ความคิดเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง หลังอาบน้ำเสร็จ ผมหยิบผ้าเช็ดตัวมาซับผมแล้วเดินออกมานอกห้องนอน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของซุปลอยมาแตะจมูก สายตาผมสะดุดเข้ากับเธอ ยัยคนใช้ที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาตั้งอกตั้งใจจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะ ด้วยท่าทีที่เงียบขรึมและอ่อนโยนอย่างที่เธอเป็นเสมอ
"ทำอะไร"
ผมถามเสียงแหบต่ำเล็กน้อยจากอาการเพิ่งตื่น เสียงของผมทำให้เธอหันขวับมาทางผมทันที แววตาของเธอสบตาผมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหลุบตาลง แล้วตอบด้วยน้ำเสียงเบาแต่อบอุ่น
"ตื่นแล้วเหรอคะ.."
"ทานซุปหน่อยนะคะ จะได้ดีขึ้น"
เธอเดินเข้ามาแล้วยกถ้วยซุปอุ่นๆ มาวางตรงหน้าผม มือเล็กสั่นน้อยๆ จากความร้อนของชาม แต่เธอไม่ได้บ่นหรือแสดงอาการรังเกียจเลยแม้แต่น้อย เธอทำอย่างนี้ทุกครั้ง...ทุกครั้งที่ผมเมากลับมา... ไม่เคยมีคำตำหนิ ไม่เคยถามว่าผมไปที่ไหน ทำอะไร แค่เงียบๆ คอยดูแลและตามใจผมอย่างไม่มีข้อแม้ มันทำให้ผม...เผลอนึกสงสารขึ้นมาในบางครั้ง แม้จะยังคงมีอีกเสียงหนึ่งในหัวเตือนว่าทุกอย่างอาจจะเป็นแค่การเสแสร้งก็ได้… ผู้หญิงหวังผลก็ใช่ว่าจะไม่มี... ผมนั่งลงมองเธอเงียบๆ ขณะยกซุปขึ้นจิบ กลิ่นหอมและรสละมุนชวนให้อาการวิงเวียนดีขึ้นเล็กน้อย
"เกล...เดี๋ยววันนี้เฮียจะไปพรีเซ็นต์โปรเจคจบที่มหาลัยนะ..อาจจะเลิกดึกหน่อย เกลกลับเองได้ไหม" เธอเงยหน้าขึ้นสบตาผมเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าช้าๆ พร้อมยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้มีความฝืนเลย
"ได้คะ...เดี๋ยวเกลกลับเองนะคะ..เฮียไม่ต้องห่วง" น้ำเสียงมั่นใจแต่แฝงด้วยความอ่อนโยนของเธอ ทำให้ผมรู้สึกใจหายแปลกๆ เหมือนผมทิ้งบางอย่างไว้เบื้องหลังโดยไม่รู้ตัว
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมจึงออกจากคอนโด ก้าวขาอย่างเร่งรีบเพื่อไปยังมหาวิทยาลัยให้ทันเวลา แต่ท้องฟ้าเหมือนจะไม่เป็นใจ เมฆสีเทาเข้มก่อตัวหนาแน่น ก่อนฝนจะเทลงมาอย่างไม่ปรานี เม็ดฝนกระหน่ำลงมาราวกับโกรธใครมา ความเย็นชื้นเกาะแนบเสื้อผ้าของผมอย่างรวดเร็ว...แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดไม่ใช่แค่ความเปียกปอน...แต่เป็นความห่วงใยที่แล่นเข้ามาในใจทันที ผมหันไปมองบนท้องถนนด้วยสายตาร้อนรน พลางนึกถึงยัยคนใช้... วันนี้เธอมีเรียนตอนบ่าย เธอบอกให้ผมออกมาก่อนเพราะผมมีสอบพรีเซนต์โปรเจคจบ...แล้วเธอจะออกมาท่ามกลางฝนแบบนี้ได้ยังไง ความคิดเหล่านั้นยังวนเวียนในหัว ขณะผมเดินเข้าอาคารคณะ บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดจากนักศึกษาที่ต่างเตรียมตัวสอบพรีเซนต์ ผมพยายามตั้งสติ กลับมาโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า...แม้มุมหนึ่งของหัวใจจะยังห่วงเธออยู่เงียบๆ ไม่จางหายเลย...
"ไอ้เว กูถามจริง มึงกับเกลนี่ยังงัยว่ะ หลายเดือนแล้วนะเว้ย" : จากั้ว
"ก็ไม่ยังงัย..." ผมตอบเรียบๆ ไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองเขาตรงๆ น้ำเสียงไร้อารมณ์ ดวงตานิ่งเหมือนปิดประตูความรู้สึกเอาไว้ทั้งหมด
"ไม่ยังงัยคืออะไร..ยังไม่ได้? ....ปกติมึงไม่ปล่อยไว้นานขนาดนี้ : จากั้ว"
"หึ..กับยัยคนใช้ กูไม่คิดจะเอาอยู่แล้ว.. ตอนนี้ยัยนั่นดูเหมือนจะรักกูเอามากๆ" คำพูดของผมเฉียบคมเหมือนมีด มันบาดแม้แต่ใจตัวเอง แต่น้ำเสียงกลับราบเรียบ ราวกับว่าความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่ผมควรจะมี จากั้วขมวดคิ้วทันที เหมือนกำลังไม่พอใจกับคำพูดนั้น เขาส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะถามตรงๆ
"แล้วมึงจะบอกเธอเมื่อไหร่ กูพูดตรงๆ นะ กูว่ายัยนั่นออกจะเป็นคนดี...ถ้ารู้ความจริงคงจะช็อก : จากั้ว
"หึ...แบบนั้นก็ดี..จะได้หย่ากับกูเร็วๆ" ผมยักไหล่ ไม่แม้แต่จะหันไปสบตากับเพื่อน น้ำเสียงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม
"มึงไม่กลัวเธอโกรธเหรอ : จากั้ว"
"โกรธแล้วงัย กูจำเป็นต้องแคร์ด้วยเหรอ...คนโง่ๆ แบบนั้น..กูไม่มีทางรักลงหรอก.." จากั้วเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจยาว เขามองหน้าผมอย่างผิดหวัง
"ให้มันจริงเหอะมึง..อย่ามากลับคำทีหลังแล้วกัน"
"คนแบบเวหาพูดคำไหนคำนั้น ไม่เคยกลืนน้ำลายตัวเอง" ผมยืนยันเสียงหนักแน่น ดวงตาจ้องตรงไปข้างหน้า ไม่หันกลับมามองแม้แต่นิด
"หึ..ให้มันจริง" เสียงจากั้วพูดเหมือนฝากคำเตือนสุดท้ายไว้...แต่น้ำหนักของประโยคนั้น เหมือนมีบางอย่างที่ผมเอง...ก็ไม่แน่ใจว่าจะรักษาไว้ได้จริงหรือเปล่า
@ด้านนอกห้องพรีเซ็นต์งาน
"อ้าว..เกล..มาหาไอ้เวเหรอ.."
น้ำเสียงทักทายธรรมดาๆ ของไอ้มาคาส ทำให้ผมกับจากั้วหันควับไปตามเสียงนั้นแทบจะพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย หัวใจผมกระตุกวูบ เหมือนถูกบางสิ่งฟาดเข้าอย่างแรงโดยไม่ทันตั้งตัว มองผ่านช่องประตู ผมยังไม่เห็นหน้าเธอ แต่แค่ได้ยินชื่อ ผมก็เหมือนหายใจติดขัดไปชั่วขณะ
"คือ..เกลเอาเล่มโปรเจคมาให้คุณเวหาน่ะค่ะ..เห็นคุณเวหาลืมไว้... เกลฝากพี่มาคาสเอาไปให้เขาด้วยนะคะ"
"ครับๆ ..จะรีบไปไหน : ไอ้มาคาสรับเอกสารจากมือเธอ สีหน้าเขาดูมึนๆ งงๆ ปนเป็นห่วง ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้ามาในห้อง ระหว่างที่เขากำลังเดิน สีหน้าเขาก็ยังเต็มไปด้วยคำถาม และบางอย่างในแววตานั้นดูไม่ปกติ ผมเองได้ยินทุกคำพูด แต่ยังไม่เห็นหน้าเธอเลยสักนิด สิ่งเดียวที่มาถึงผมคือ "ความรู้สึก"
"ไอ้คาสเมื่อกี้มึงพูดกับใคร : จากั้ว
"ก็เกลงัย เอาเล่มมาให้เวหา สงสัยจะไม่กล้าเข้ามาเลยยืนอยู่หน้าห้อง เธอหน้าตาดูซีดๆๆ เหมือนตกใจอะไรสักอย่าง : มาคาส"
หัวใจผมเต้นผิดจังหวะทันที คำเหล่านั้นทำให้ผมกลืนน้ำลายแทบไม่ลง มือที่ถือปากกาสั่นเล็กน้อยจนต้องรีบกำแน่นไว้ใต้โต๊ะ จากั้วเบิกตากว้างทันที เขาหันหน้ามาจ้องมาที่ผม สีหน้าของมันเริ่มจริงจังขึ้น
"หรือว่า? ... : ไอ้จากั้วหันหน้ามามองผมทันที ผมรู้สึกร้อนรุ่มในใจแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผม"
ผมหลุบตามองพื้น พยายามควบคุมสีหน้าให้เรียบเฉย ทั้งที่ข้างในมันร้อนรุ่มเหมือนโดนไฟสุม ความรู้สึกสับสน สำนึกผิด หวาดกลัว และบางอย่างที่ผมไม่กล้ายอมรับ...มันถาโถมเข้ามาไม่หยุด
"อะไรกันว่ะ... : มาคาส"
"กูกับไอ้เวคุยเรื่องยัยเกลอยู่ เรื่องที่ไอ้เวมันหลอกน้อง : จากั้ว"
คำว่า "หลอกน้อง" ทำให้หัวใจผมบีบรัดแน่นขึ้นอีกหลายเท่า เสียงจากั้วฟังดูเหมือนฟาดใส่หน้าผมแรงๆ ทั้งที่มันพูดไปตามความจริงเท่านั้น
"อะไรนะ...หรือเกลจะได้ยินหมดแล้วว่ะ ไม่น่าล่ะขอบตาเธอดูแดงๆ แล้วยังรีบวิ่งออกไปอีก : มาคาส
"แล้วมึงจะทำยังงัยว่ะไอ้เว : จากั้ว
"รู้ก็ดี..จะได้ยอมอย่าง่ายๆ"
ผมพูดออกไปเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่ในใจ...มันโคตรตรงข้าม เสียงของตัวเองฟังดูเย็นชา...เหมือนคนใจดำที่ไม่รู้จักความรู้สึก แต่ในอกตอนนี้ กลับอึดอัด แน่นหน่วง และเต็มไปด้วยคำถามที่ทิ่มแทงใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงในห้องเริ่มเบาลง ผมพยายามตั้งใจฟังอาจารย์หน้าห้องที่กำลังพูดถึงการพรีเซนต์งานครั้งสุดท้ายของชีวิตในมหาวิทยาลัย แต่เสียงภายในใจมันกลับดังลั่นจนกลบทุกสิ่ง ผมกัดฟันแน่น ร่างกายเย็นวาบราวกับสติหลุดลอยไปแล้ว มือสั่นเล็กน้อยเมื่อถือรีโมทขึ้นไปนำเสนอ สายตาพยายามจับจ้องสไลด์ตรงหน้า แต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เพราะในหัว...มันเต็มไปด้วยภาพของเธอ ท้ายที่สุดผมทนไม่ไหว ผมปิดโปรเจกเตอร์ทันทีที่จบพรีเซนต์ ก่อนจะเดินออกจากห้องแทบจะทันที ทิ้งสายตาของเพื่อนร่วมทีมและอาจารย์ที่ยังไม่ทันได้ตั้งคำถามไว้ข้างหลัง
"ไปไหนว่ะไอ้เว : จากั้ว"
"ไปธุระ....ฝากเก็บของด้วยนะ"
"เออๆ ...รีบอะไรขนาดนั้น : จากั้ว"
ผมไม่หันกลับไปตอบอะไรอีก ก้าวขาออกจากคณะด้วยหัวใจที่ร้อนรน ว้าวุ่น และอยากเจอหน้าเธอให้เร็วที่สุด...เพราะตอนนี้...ผมไม่แน่ใจแล้วว่า ตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรกับยัยคนใช้คนนี้จริงๆ หรือเปล่า
ผมขับรถฝ่าฝนกลับมาที่คอนโดทันทีหลังจากพรีเซนต์จบ ใจร้อนรุ่มเหมือนมีอะไรบางอย่างติดค้างในอกที่ต้องรีบเคลียร์ รีบเคลียร์ให้รู้ดำรู้แดง ไม่ใช่เพราะผมแคร์…แต่เพราะผมทนความอึดอัดนี้ไม่ไหว เมื่อมาถึงหน้าห้อง ผมยืนอยู่ตรงนั้น มือจับลูกบิดไว้นิ่ง ใจผมลังเล…มันมีบางอย่างในหัวที่กำลังสู้กันอยู่ ความโกรธ ความสับสน และ...ความรู้สึกที่ผมไม่อยากยอมรับ ผมสูดหายใจลึก แล้วตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในที่สุด
"เธอ?"
ผมเรียกเธอด้วยเสียงต่ำแผ่ว ราวกับไม่มั่นใจว่าเธอจะยังอยู่ หรือบางที...ผมอาจแค่ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง
"คุณเวหา... ทานข้าวมาหรือยังคะ เกลทำข้าวผัดกุ้งของโปรดคุณด้วยนะคะ"
เสียงเธอนุ่มนวล ยิ้มบางๆ แต่มันดูฝืน ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองภาพของเธอในห้อง เธอยังคงทำตัวปกติ เตรียมอาหาร จัดจาน จัดช้อน...ทุกอย่างเหมือนทุกวัน ยกเว้นสิ่งเดียว คำเรียกแทนตัว
"คุณเวหา" มันฟังแปลกหู...ห่างเหิน...ไม่ใช่ "เฮีย" แบบที่เธอเคยเรียก และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง
เธอก้มหน้าอยู่ตลอด ไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตา ผมก้าวเท้าเข้ามาใกล้ เห็นชัดเจนว่าขอบตาเธอแดงก่ำ ผิวรอบดวงตาบวมเล็กน้อย...เธอร้องไห้หนักมากแน่ๆ ก่อนที่ผมจะมา
"ไปอาบน้ำดีกว่านะคะ..เดี๋ยวเกลจะเตรียมอาหารไว้รอ" เสียงเธอยังพยายามปกติ แต่ผมรู้ดีว่าทุกคำพูดมันสั่นเครือไปหมด
"เธอได้ยินหมดแล้วใช่ไหม..?" ผมถามพลางจ้องไปที่เธอแผ่นหลังของเธอเกร็งขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่หันมา
"คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นก่อน" เธอยังคงก้มหน้า มือจัดจานชาม แต่สั่นนิดๆ ผมรู้ทันทีว่าเธอกำลังเก็บกลั้นอะไรบางอย่างเอาไว้
"ฉันถามว่าเธอได้ยินทุกอย่างแล้วใช่ไหม...ทำไมยังทนอยู่อีก..." เสียงผมเริ่มดังขึ้น ไม่ใช่เพราะโกรธเธอ...แต่เพราะโกรธตัวเองที่รู้สึกสับสน และโกรธที่เธอยังใจดีไม่ไปจากชีวิตผมสักที
"เกลไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น..." ในที่สุดเธอก็หันหน้ามาสบตาผม น้ำเสียงที่พูดออกมานิ่งจนผิดปกติ แต่นัยน์ตากลับเปล่งประกายของความเจ็บปวด น้ำตาคลอเบ้า และนั่น...ทำให้ใจผมร้าวแปลบในชั่ววินาที
"เธอได้ยินจริงๆ ด้วย...ในเมื่อรู้แล้วงั้นฉันจะบอกความจริงกับเธอเลยก็แล้วกัน...ที่ผ่านมาฉันไม่เคยรัก ไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอ ที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้เธอหลงรักฉัน และฉันก็จะทำให้เธอเจ็บ เจ็บเจียดตาย แล้วยอมหย่าขาดจากฉัน...."
คำพูดแต่ละคำถูกพ่นออกมาจากปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา เหมือนผมกำลังปิดประตูสุดท้ายของหัวใจให้เธอ แต่ขณะเดียวกัน...หัวใจผมเองกลับเจ็บปวดแปลกๆ เหมือนพูดคำเหล่านั้นใส่ตัวเอง
"......"
เธอยืนนิ่ง น้ำตาไหลลงอาบแก้ม แต่กลับไม่เปล่งเสียงอะไรออกมา แววตาเธอเศร้าลึกเกินกว่าคำพูดใดจะอธิบายได้ เธอก้มหน้าลงอีกครั้ง ใช้หลังมือปาดน้ำตาเบาๆ
"หยุดร้องไห้ แล้วยอมหย่ากับฉันสักที ฉันไม่ได้รักเธอ จะทนอยู่ทำไม..เธอควรไปหาคนอื่น..คนที่เขารักเธอ" คำพูดนั้นยิ่งเหมือนคมมีด เธอสั่นเทาเล็กน้อยแต่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด
"แต่เกลรักคุณไปแล้ว"
เธอตะโกนออกมา ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยแรงอารมณ์ แววตาที่เคยมองผมด้วยความรักอ่อนโยน…วันนี้มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่กัดกิน เธอจ้องมองผมด้วยสายตาที่แน่วแน่และจริงจังที่สุด ผมไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้จากเธอมาก่อน ผมเบือนหน้าหนี รู้สึกเหมือนสายตานั้นแทงทะลุเข้ามาในอก
"คุณจะใจร้ายกับเกลก็ได้..แต่อย่าพึ่งหย่ากันเลยได้ไหม..หากวันใดที่เกลหมดความอดทน เกลจะเป็นฝ่ายไปเอง ไม่ต้องรอให้คุณมาไล่...อึก อึก"
เสียงเธอสั่นเครือ แววตาสั่นไหว น้ำตาร่วงลงมาไม่หยุด ใบหน้าแดงก่ำด้วยแรงอารมณ์ มือทั้งสองข้างสั่นจนเธอเผลอกำเข้าหากันแน่น เหมือนใช้มันประคองใจที่ใกล้จะแตกสลาย
"เธอบ้าไปแล้วรึงัย...ฉันพูดขนาดนี้แล้ว"
"คุณลองเปิดใจให้เกลบ้างไม่ได้เหรอคะ"
เสียงเธอแทบกลั้นสะอื้นไม่อยู่ น้ำตาท่วมเต็มใบหน้า ดวงตาแดงช้ำ เธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเด็ดเดี่ยว ทั้งที่กำลังเจ็บปวดที่สุด
"ไม่มีทาง..ยังงัยฉันก็ไม่มีทางรักเธอ...ถ้าเธอจะทน..ก็เตรียมรับกับความเสียใจไว้ได้เลย..ฉันเตือนแล้วนะ" น้ำเสียงของผมฟังดูเย็นเยียบกว่าครั้งไหนๆ เหมือนกำแพงสุดท้ายถูกขึงแน่นขึ้นจนไม่มีช่องว่างให้แสงสว่างลอดเข้ามา
"ขอบคุณที่พูดตรงๆ นะคะ..."
เธอพูดเบาๆ ก่อนจะหันหลังให้ผม เดินกลับไปยังห้องตัวเองอย่างช้าๆ ท่าทางเธอเหมือนคนหมดแรง ไร้เรี่ยวแรงทั้งกายและใจ บ่าทั้งสองลู่ลง น้ำตาไหลอาบใบหน้าเหมือนสายน้ำไม่มีวันหยุด ผมยืนนิ่ง มองเธอจนลับสายตา ความรู้สึกบางอย่างจุกแน่นอยู่ในอก มันไม่ได้โล่งใจอย่างที่ควรจะเป็น มันกลับหนักอึ้งราวกับแบกหินเอาไว้ทั้งก้อน
"โถ่โว้ย...!!!!"
ผมตะโกนออกมาสุดเสียง เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อัดแน่น ก่อนจะคว้ากุญแจ เดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย ร่างกายสั่นนิดๆ เหมือนยับยั้งอะไรบางอย่างไว้ไม่อยู่ ผมโทรหาไอ้จากั้วเรียกให้มันออกมาเจอกันที่คลับ เพราะตอนนี้...ผมต้องหนีออกไปจากความรู้สึกของตัวเองก่อนที่มันจะพังลงมาทับผมทั้งเป็น
@ไนต์คลับ : 20.00 น.
"เบาๆ..ไอ้เว มึงเป็นอะไร..มาถึงก็ซัดเอาซัดเอา.. : จากั้ว
"หรือมึงทะเลาะกับเกล : จากั้ว
"ยัยนั่นรู้ความจริงแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมหย่ากับกู
"จริงดิ...แม่งโคตรทน : จากั้ว
"มึงคอยดูกูจะทำให้อกแตกตายไปเลย..
"ไอ้เว... มึงก็พูดเกินไป..มึงรังเกียจอะไรเขาหนักหนาว่ะ : จากั้ว
"การเกลียดหรือรังเกียจใครสักคนจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอว่ะ..
"เฮ้อ....กูล่ะยอมมึงเลยจริงๆ
@คอนโด ~ 23.00 น. 🕗
"ยัยคนใช้....ยัยคนใช้..!!
"เกล.....ออกมาเดี๋ยวนี้...
ผมเรียกเธออยู่นานเกือบ 15 นาที จนเธอเปิดประตูออกมา สายตาเธอจ้องมองมายังผมและผู้หญิงอีกคนที่ผมยืนควงอยู่
"คุณเวหามีอะไรจะใช้เกลคะ..
"เธออยากทนมากใช่ไหม งั้นก็ออกมาดู..ดูให้เห็นกับตา ตอนฉันเอากับคนอื่น
"คุณเวคะ..แต่นาวอายนะคะ..
"อายก็กลับไปฉันจะได้เรียกคนอื่น ผมหันไปบอกมะนาว ผู้หญิงที่ผมหิ้วกลับมาจากคลับ
"ไม่ค่ะ..นาวจะอยู่กับคุณ..
"หึ....ออกมา.......ผมลากเธอออกมา ให้เธอนั่งลงข้างๆเตียง แล้วผมกับมะนาวก็เริ่มนัวเนียกัน จูบกันเสียงดังลั่น ผมจัดการถอดเสื้อผ้าของมะนาวออก แล้วผลักเธอให้นอนราบอยู่บนเตียง โดยไม่ได้หันมามองอีกคนที่กำลังนั่งดูอยู่ ผมขึ้นคร่อมร่างมะนาว แล้วดูดไปตามซอกคออย่างหนักหน่วง...มะนาวครางออกมาไม่หยุด....จนสักพักผมเริ่มได้ยินเสียงยัยนั่นร้องไห้ออกมาเบาๆ เธอหลับตาลงช้าๆ ...
"อื้อ..คุณเวหาเมื่อไหร่จะยัดเข้ามาสักทีละคะ นาวรอนานแล้วน๊า..
"อึก..อึก... ยัยนั่นก้าวขาลงจากเตียงกำลังจะวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่ผมดึงแขนเธอเอาไว้..
"จะไปไหน ? ฉันสั่งให้เธอดูจนจบ...เธอไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น..
"ถ้าคุณอยากหย่ากับเกลมาก เกลจะหย่าให้คุณ พรุ่งนี้เราไปเจอกันที่สำนักงานเขตนะคะ
เธอไม่หันหน้ามามองผมแม้แต่น้อย...ผมนิ่งอึ้งกับคำพูดของเธอ ใจผมมันวูบหายไปแวบหนึ่ง ไม่คิดว่าเธอจะยอมหย่าง่ายๆแบบนี้...เธอสะบัดมือผมแล้วรีบวิ่งกลับเข้าห้องทันที ได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอไม่หยุด
"คุณเว..มาต่อกันเถอะค่ะ..นาวอยากมากแล้วนะคะ..
"ออกไป...
"แต่คุณเวหาคะ...นาว
"กูบอกให้ออกไป..!!." ผมตะโกนเสียงดังจนมะนาวรีบใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องทันที ผมนั่งคิดอยู่นาน กับคำพูดของยัยนั้น ใจผมมันรู้สึกสั่นๆยังงัยไม่รู้ รู้สึกเหมือนกำลังจะเสียของรักไป แต่ผมไม่ได้รักเธอ...ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
"โถ่เว้ย !!!!!