กระเป๋าเดินทางราคาหลายหมื่นถูกขนใส่ท้ายรถตู้ สองสามีภรรยาที่ดูภายนอกเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกัน เคทใส่แว่นดำเพราะวันนี้ขี้เกียจแต่งหน้า เธอเองยังงุนงงอยู่เพราะแทนที่วันนี้จะได้ไปทำงานแต่กลับกลายเป็นว่าเธอจะต้องร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับสามีด้วยเหตุผลที่ว่าต้องไปช่วยดูแลเขาระหว่างทำงานสำคัญ
“เคทต้องทำงานนะคะพี่วิทย์”
“นั่นมันงานรอง งานหลักเธอคือดูแลผัว”
“พี่วิทย์ดูแลตัวเองได้ แถมยังมีเลขาอีก แต่คุณชาต้องการเคท”
“ฉันโทรไปบอกน้ำชาแล้ว น้ำชาไม่มีปัญหาอะไร อย่าเพ้อเจ้อ”
“เคทไม่อยากไป”
“ก็ไปบอกคุณปู่เอง”
“…”
“ไปสิ แต่เตือนไว้ก่อน ถ้าเธอไม่ไป รับรองว่าเธอจะไม่ได้ไปทำงานที่บริษัทนั่นอีก”
” พี่วิทย์! พี่มันคนไม่มีหัวใจ” เคทบ่นเบาๆ ระบายอารมณ์แต่ทว่าชายหนุ่มได้ยินทุกคำ
สุดท้ายเคทก็ต้องยอมตามเขาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทั้งสองนั่งรถมาถึงสนามบิน ก็เห็นพนักงานทั้งห้าคนโดยมีคุณรันแพรวาและอีกสามคนที่เคทยังไม่เคยรู้จักกำลังยืนรอทั้งสองคน เมื่อสมาชิกครบแล้วการเดินทางจึงได้เริ่มต้นขึ้น
หลังจากนั่งเครื่องบินเกือบสิบชั่วโมงทั้งหมดก็มาถึงยังโรงแรมหรูในเมืองซิดนีย์ พนักงานต้อนรับพาเคทและวีวิทย์ไปยังห้องเพรสซิเดนเชียลคลับสวีทแบบหนึ่งห้องนอน
“ห้องนอนเดียว เตียงเดียว พี่วิทย์” เคทเอ่ยขึ้นทันทีที่พนักงานออกไป
“ทำอย่างกับไม่เคยนอนด้วยกัน”
“แล้วพี่วิทย์จะนอนไหน”
“ก็นอนเตียงไง ถามได้”
“แล้วเคทจะนอนไหน”
“แล้วแต่เธอเลยค่ะ อยากนอนไหนก็เชิญ”
เคทจ้องหน้าสามีอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“เย็นนี้ มีดินเนอร์กับพนักงาน ช่วยแต่งตัวสวยๆ ด้วยนะ จะได้ไปทำหน้าที่เมียท่านประธาน”
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ปีนขึ้นไปบนเตียงก่อนจะนอนพักเอาแรง
เคทกรอกตาใส่ก่อนจะเอากระเป๋าเดินทางของเธอและสามีไปจัดให้เรียบร้อย เธอต้องทำหน้าที่ซะหน่อยเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะถูกคุณสามีค่อนขอดได้ว่าไม่ดูแล
หลังจากเก็บของเสร็จเคทก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนไปใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำแสนสวย จากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตา ให้ดูดี ไม่มีที่ติ เอาให้คุณสามีตาค้างไปเลย
หลังทำทุกอย่างเสร็จแล้วเธอก็เดินเข้าไปปลุกสามีที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียง เมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นสาวสวยตรงหน้าก็ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ราวกับว่าเขากำลังฝัน
“พี่วิทย์คะ ตื่นได้แล้ว จะไปได้ยัง”
“….”
“พี่วิทย์!”
“ตะโกนทำไม ได้ยินแล้ว”
“ค่ะ ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ”
วีวิทย์งัวเงียตื่นแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพียงไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพอดี สายนั้นมันเป็นของเลขาสาวสวยของเขานั่นเอง
“ตื่นแล้ว ผมกำลังจะลงไป”
เคทได้ยินสามีเธอตอบเลขา
มีโทรมาปลุกกันด้วยเหรอ เคทนึกในใจ
วีวิทย์เดินเข้าไปแต่งตัวก่อนจะเดินออกมา
“จะไปได้ยัง”
“ค่ะ ไปสิคะ”
วีวิทย์เดินนำภรรยาไปยังลิฟต์เพื่อลงไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนัก เมื่อสองสามีภรรยาเดินเข้าไปในร้านก็เห็นรันนรงค์โบกมือให้ วีวิทย์เดินนำเคทเข้าไปก่อนที่เขาจะเลื่อนเก้าอี้ให้ทำเอาเธอประหลาดใจไม่น้อยแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเขากำลังเล่นละครอยู่
เคทนั่งลงร่วมโต๊ะกับพนักงานทั้งห้าคนซึ่งมีผู้ชายสาม ผู้หญิงสองคน ทั้งโต๊ะเคทก็รู้จักแค่รันนรงค์ กับแพรวาเท่านั้น
“รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้นั่งทานข้าวกับคุณเคท” ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างรันนรงค์เอ่ยขึ้น
“เช่นกันค่ะ ได้เจอคุณตอนงานแต่งแล้วก็ไม่ได้เจออีกเลย” เคทเริ่มจำได้ คนนี้เป็นผู้ช่วยคนสนิทของสามีเธอที่มาร่วมงานแต่งในวันนั้น
“ก็นายไม่ยอมพาคุณเคทมาให้เจอเลย สงสัยจะหวงมากเลยนะครับ”
“น้อยๆ หน่อยคุณกฤต” สามีของเธอเอ่ยปรามลูกน้องคนสนิท
“ผมแซวเล่น ตอนนี้ไม่ใช่เวลางานแล้วนะครับนาย ผ่อนคลายบ้าง”
“จริงค่ะ เนี่ยทำพวกเราเกร็งมากรู้ไหม” พนักงานผู้หญิงที่แต่งตัวดีเอ่ยขึ้น
“ก็จริง เคทยังเกร็งเลยค่ะ” เคทเอ่ยยิ้มๆ จนวีวิทย์หันไปมองหน้าเพราะเคืองนิดๆ ที่เธอเห็นดีเห็นงามกับคนอื่น
“คือคุณวิทย์เขาไม่ใช่คนช่างพูด เวลาไปไหนมาไหน แพรต้องเป็นคนพูดแทนตลอด”
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เคทคิดในใจ ดูแล้วแพรวาเหมาะจะเป็นภรรยาท่านประทานมากกว่าเธอเสียอีก
“คุณวิทย์ทานนี่สิคะ ของโปรดคุณวิทย์เลยนะคะ” แพรวาตักอาหารที่เธอบอกว่าเป็นของโปรดใส่จานท่านประธานท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมโต๊ะ
เคทเห็นแล้วก็ละอาย สามีตัวเองชอบกินอะไรเธอยังไม่รู้เรื่องเลย
วีวิทย์พยักหน้าให้แพรวาก่อนที่เขาจะก้มหน้าทานอาหารต่อเงียบๆ ในขณะที่คนอื่นๆ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“จริงไหมครับที่คุณเคทจบไอวีลีกมา”
“รู้ได้ยังไงคะ” เคทแปลกใจที่พนักงานชายอีกคนรู้เรื่องของเธอ
“เขาว่ากันว่า…”
“ฮ่าๆๆๆ จริงค่ะ แหล่งข่าวใช้ได้เลยนะคะ” เคทแซวเล่น
“ฮือออออ สวย รวย เก่ง ตอนเจอๆ ผ่านนึกว่าคุณเคทจะเข้าถึงอยาก เพราะทั้งสวย เริศ เก่ง แต่พอได้คุยจริงๆ เป็นกันเองมากเลย” พนักงานหญิงเอ่ยอย่างประจบประแจงจนแพรวาแอบเบ้ปากใส่
“จริงเหรอคะ พี่วิทย์คะ เคทดูเข้าถึงยากขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เคทยิ้มแล้วก็หันไปถามผู้เป็นสามี เมื่อสามีมองดูรอยยิ้มนั้นเขาก็นึกตาม
สำหรับเขาที่คุ้นเคยกับยัยตัวแสบเคทในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนจึงไม่เคยรู้สึกว่าเธอเข้าถึงยากเลยสักนิดแถมคุณเธอยังติงต้องอีกต่างหาก แต่พอลองนึกดีๆ แล้ว ในสายตาคนนอก เคทถือได้ว่าเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา จนแทบจะหาที่ติไม่ได้…
วีวิทย์ไม่เคยได้พิจารณาเธอนักจนกระทั่งตอนนี้
“....นิดหน่อย” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ
“ถ้าเคทเข้าถึงยาก พี่วิทย์คงเข้าถึงไม่ได้แล้วมั้งคะ” เคทเอ่ยขำๆ ทำเอาเพื่อนร่วมโต๊ะขำตามแต่ทว่าชายหนุ่มกลับจ้องภรรยาตัวแสบตาเขม็งซึ่งเธอหาได้แคร์กลับยกไวน์ดื่มโชว์เขาจนหมดแก้ว
ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าถูกรินให้คนบนโต๊ะ เมื่อมีแอลกอฮอล์เข้ามาก็ยิ่งคุยกันสนุกขึ้น วีวิทย์ที่เห็นเคทเริ่มพูดมากเขาก็กลัวว่าเธอจะหลุดพูดอะไรออกมา
“จะกลับได้ยัง พรุ่งนี้มีงานนะ” เขาขึ้นท่ามกลางวงสนทนา
“อีกนิดได้ไหมคะ” เคทหันมาอ้อนสามี
ก็เป็นแบบนี้ทุกทีเมาทีไรไม่ชอบกลับบ้าน
“ไม่ได้ งานเลี้ยงเลิกแล้ว”
เคทรีบหันมาทำหน้าหยักใส่ชายหนุ่ม
วีวิทย์เหนื่อยใจกับสิ่งที่เธอทำกับเขาแต่ละอย่าง
“กลับ” ชายหนุ่มเสียงเข้มใส่จนเคทต้องทำตาม
“ค่ะ”
หลังจากจ่ายค่าอาหารเสร็จทุกคนก็ลุกออกไปจากโต๊ะเพื่อเดินกลับโรงแรม วีวิทย์เดินนำไปพร้อมกับแพรวาในขณะที่เคทเองก็เดินคุยเล่นกับพนักงานคนอื่นอย่างสนุกสนาน
วีวิทย์คอยชำเลืองไปมองยัยตัวแสบนั่น เวลาที่เธออยู่กับคนอื่น เธอชอบทำตัวให้ใครต่อใครตกหลุมรัก เธอคุยเก่ง ยิ้มง่าย หัวเราะดัง ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับเขาเลยสักนิด พูดไปแล้วก็หมั่นไส้
“ว้ายยยยย”
“คุณเคท!!!”
วีวิทย์รีบหันไปมองก็เห็นว่าภรรยาของเขานั่งพับอยู่บนพื้น
“เคทลื่นน่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
วีวิทย์ที่เห็นหญิงสาวนั่งหัวเราะตัวเองก็ยิ่งหัวเสีย ดูทรงแล้วเธอน่าจะเมาใช้ได้ เขาหันหลังกลับไปยืนตรงหน้าคนล้มก่อนจะก้มลงอุ้มเธอขึ้นมา
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” วีวิทย์บอกกับพนักงานทุกคนก่อนที่จะอุ้มภรรยาสาวสวยกลับไปที่โรงแรม
“เห็นเย็นชาแบบนี้ก็คิดว่าไม่สนใจเมีย”
“จริง ไหนใครมันปล่อยข่าวว่าท่านประธานจำใจแต่งเมีย ไม่รักเมีย”
“ดูนั่นสิ อุ้มกันไปนู่นแล้วววว”
“โรแมนติกเหมือนกันเนอะบอสเรา”
แพรวายืนฟังคนอื่นคุยกันขณะมองตามทั้งสองไปก็รู้สึกร้อนใจ หรือว่าสิ่งที่เธอสงสัยมันจะผิด…