บทที่ 5

2032 Words
"ขอบคุณจี๊ดมากครับสำหรับอาหารเย็นมื้อนี้" "ด้วยความยินดีค่ะธีร์ คุณรู้มั๊ยทันทีที่จี๊ดรู้เรื่องว่าธีร์ถูกรถชน จี๊ดก็รีบมาเลยค่ะ แทบเป็นลมคาโต๊ะทำงานเลยนะคะ" หล่อนกล่าวอย่างมีจริตเล็กน้อยก่อนจะเบ้ปากใส่ชายหนุ่มลับหลัง "ขอบคุณจี๊ดจริงๆ ครับที่เป็นห่วงข้าราชการธรรมดาๆ อย่างผม" เขากล่าวด้วยรอยยิ้มจริงใจ "ธีร์เองอย่าคิดมากเลยค่ะ จี๊ดเต็มใจค่ะ สำหรับธีร์คนเดียวเท่านั้นนะคะ" นางส่งรอยยิ้มอาบอย่าพิษให้ชายหนุ่มโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่านั่นคือการเสแสร้งอย่างจงใจ ทำทีเขยิบเข้าใกล้คนซื่ออย่างรักใคร่ "ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วให้ผมไปส่งที่บ้านมั๊ยครับจี๊ด" เขาเสนอความคิดเมื่อมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบสองทุ่ม โดยเขาเล็งเห็นถึงความไม่เหมาะสมหากชายหญิงอยู่ด้วยกันแบบนี้ "จี๊ดยังไม่อยากกลับค่ะ พรุ่งนี้วันหยุดนะคะ ให้จี๊ดได้อยู่กับคุณบ้างไม่ได้เหรอคะ" หญิงสาวกล่าวเชิงน้อยใจ "เปล่าหรอกครับ ผมเห็นว่าดึกแล้วเลยอยากไปส่งครับ มันอันตรายนะครับ"  "ไม่มีใครกล้ากับจี๊ดหรอกค่ะ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าจี๊ดเป็นน้องใคร" หล่อนกล่าวอย่างคนถือดี ชายหนุ่มจึงเงียบไป จังหวะนั้นเองหญิงสาวอาศัยช่วงที่ชายหนุ่มอย่างธีร์เผลอ รีบลุกขึ้นย้ายก้นไปนั่งตักทันที แล้วไม่ลืมจะกอดคอไว้มั่นเพื่อป้องกันการปฏิเสธจากเจ้าของตัก "จี๊ดคุณทำอะไรครับ ผมว่าคุณนั่งดีๆ ดีกว่านะครับ" เขาพยายามกล่าวอ้อนวอนหญิงสาวพลางกุมแกะมือออกจากคอกลับไม่สำเร็จเพราะเขาไม่ต้องการใช้ความรุนแรงกับสตรี "แหมธีร์ ก็จี๊ดขอนั่งแบบนี้ไม่ได้หรอคะ ก็ตักของธีร์มันนุ่มนี่ นุ่มกว่าเก้าอี้ตั้งหลายเท่า" นางกล่าวไปยิ้มไปแฝงความสะใจ ทันใดนั้นจี๊ดก็ทำท่าขยับสะโพกไปมาเพื่อกระตุ้นชายหนุ่ม มากไปกว่านั้นเขาค่อยๆ ใช้ปลายนิ้วมือลูบไล้แผ่นอกกว้างจากด้านนอกอยู่ตลอดเวลา "จี๊ดหยุดเถอะครับ อย่าทำแบบนี้เลยครับผมว่ามันไม่ดีนะครับ" เขาพยายามปัดป้องมือหญิงสาวไม่หยุด เขาจึงตัดสินใจจับแขนของหล่อนไว้เพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าว ถึงมือจะถูกจับไม่วายที่นางจะใช้ส่วนล่างขยับเขยื้อนเพื่อกระตุ้นความเป็นชายจากตัวเขาให้ได้ "โอ๊ย! จี๊ดเจ็บนะคะธีร์ ทำไมคุณทำกับจี๊ดแบบนี้" หญิงสาวร่วงลงไปนั่งกับพื้นเมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นไม่ทันทีที่หล่อนจะตั้งตัว "ผมขอโทษครับจี๊ด ผมพยายามบอกคุณหลายรอบแล้วว่าให้คุณหยุด แต่คุณก็ไม่..." เขาอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังส่งผลให้คนล้มนั่งจั้มเบ้ารู้สึกกลัวในแววตาก่อนจะขอตัวกลับบ้านของตัวเอง "จี๊ดขอโทษธีร์ด้วยละกันค่ะ ที่ทำให้ธีร์ไม่พอใจ" เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เตรียมลุกออกจากห้อง "จี๊ด คุณโกรธผมเหรอครับ" "เปล่าค่ะ กลับก่อนนะค่ะ" "ให้ผมไปส่งมั๊ยครับ" "ไม่เป็นอะไรค่ะ จี๊ดกลับเองได้ค่ะ” จี๊ดยืนกรานคำตอบเดิมพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจชายหนุ่มอย่างมาก "ขับรถดีๆ นะครับ" ข้าราชการหนุ่มเอ่ยปากกับเธอด้วยความเป็นห่วง ขณะที่เจ้าตัวกำลังก้าวขาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว "ขอบคุณค่ะ" หล่อนปิดประตูรถแล้วขับออกไปจนลับตา ธีร์ถึงกับโล่งใจกับการจากไปของผู้มาเยือน   คฤหาสน์หลังใหญ่ ชายชุดดำรีบวิ่งมาขับรถยนต์ราคาแพงเพื่อหลีกทางให้รถคุ้นตาที่กำลังเลี้ยวเข้าประตูใหญ่ เกือบไม่ทันเพราะเจ้าของรถหักเลี้ยวอย่างไว ทันทีที่เขาดับเครื่องยนต์เปิดประตูลงมาจากรถราคาแพงคันนั้น รถคันเดิมก็แล่นด้วยความเร็วไปจอดหน้าประตูทางขึ้นคฤหาสน์ เอี๊ยด!!... เสียงเบรคที่ล้อยางทั้ง 4 ล้อครูดไปกับพื้นหน้าประตูใหญ่ดังสนั่น ประตูรถถูกเปิดออก คนบนรถก้าวขาลงปิดประตูดังลั่นแล้วเดินกระแทกเท้าเข้าบ้าน "นายหญิงกลับมาแล้วหรือครับ" ชายสูทชุดดำกล่าวทักทาเขาอย่างสุภาพ "ก็แหกตาดูสิ ก็เห็นอยู่จะถามเพื่อ" เขาตวาดใส่คนตรงหน้าอย่างไม่สนใจ "เดี๋ยวๆ มันเกิดอะไรขึ้นจี๊ด เอะอะอะไรกัน" ชายในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงวอล์มสีดำเดินมาหน้าประตูบ้านเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ "ก็ลูกน้องตัวดีของพี่สิ ถามจี๊ดได้ว่ากลับแล้วหรอ ก็เห็นอยู่จะถามทำไม คนยิ่งหงุดหงิดอยู่" เขากล่าวพลางรีบเข้าไปเกาะแขนพี่ชาย  "เขาทำตามหน้าที่ อย่าไปว่าเขา ขอโทษพี่เขาซะ"  "ไม่ ทำไมจี๊ดต้องขอโทษขี้ข้าด้วย" หล่อนเบ้ปากยังรังเกียจ "ไม่เป็นอะไรหรอกครับนาย" "ไม่ได้ เดี๋ยวจะเคยตัว ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้"  "พี่ปอ… อ่ะ" เขาหน้างออย่างไม่พอในใจคำสั่งพี่ชาย "เดี๋ยวนี้" พี่ชายตวาดเสียงเข้ม ทำให้หล่อนถึงกับสะดุ้ง "ขอโทษค่ะ" จี๊ดยกมือไหว้ขอโทษแบบห้วนๆ แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องอย่างกับเด็กๆ ทั้งที่อยู่ในชุดข้าราชการ อย่างน้อยก็ยังดีที่เธอทำตามคำสั่งของพี่ชาย ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อยกับกริยาน้องสาวต่างมารดา "ผมต้องขอโทษแทนน้องสาวผมด้วย ไม่รู้จักโตสักที" "ไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับนาย ผมเข้าใจ" "ขอบใจนะ" เขากล่าวพลางตบบ่าลูกน้องคนสนิทเบาๆ   ปอ ปูนิพัทธ์ ฉัตรเงินตรา เจ้าพ่อมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล อยู่กับจี๊ดน้องสาวต่างแม่กัน 2 คน พร้อมกับบริวารนับร้อยที่ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปกับเขา ซึ่งปอเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจถูกกฎหมายและด้านมืดมากมาย เขาเป็นคนตรงไปตรงมา เด็ดเดี่ยว ฆ่าเป็นฆ่า กิตติศัพท์นี้จึงรู้กันไปทั่ว กระทั่งได้รับความเคารพจากกลุ่ม แก๊ง ต่างๆ   ก๊อก... ก๊อก... “จี๊ดพี่เข้าไปได้มั๊ย" "ไม่ จี๊ดไม่อยากพูดกับพี่ปอแล้ว" หล่อนตัดพ้อพี่ชายด้วยความน้อยใจ "พี่ขอโทษ เห็นบอกว่าหงุดหงิดเป็นอะไรหรือเปล่า พี่พอช่วยได้มั๊ย เปิดประตูให้พี่เถอะนะ" เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ทำให้จี๊ดนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่นายแบบหนุ่มทำให้เขาไม่พอใจ จึงรีบไปเปิดประตูให้พี่ชายทันที "พี่แน่ใจนะว่าจะช่วยจี๊ดได้" เขาทำหน้าสงสัยเหมือนเด็กๆ "ไหนลองเล่ามากก่อน" "แต่พี่ต้องสัญญาก่อนว่าจะช่วยจี๊ด" หล่อนคาดคั้นเอาคำสัญญาจากพี่ชาย "ได้ พี่สัญญา" เขารู้สึกยอมกับน้องคนนี้จริงๆ หลังจากได้ยินคำสัญญาจากพี่ชาย หล่อนก็ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดโดยใส่สีตีไข่ลงไปหลายฟองเพื่ออรรถรสให้พี่ชายฟัง "เขาพูดขนาดนี้เลยหรอ แบบนี้พี่ยอมไม่ได้จริงๆ พรุ่งนี้พี่ต้องจัดการให้เข็ดหลาบซะแล้ว" ชายหนุ่มมีสีหน้าโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด ทางน้องสาวพลางยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างสะใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับนายแบบหนุ่ม   บ้านพักวายุนายแบบหนุ่มพราวเสน่ห์ ~ขอบคุณที่โทรมาหา ที่ทำให้รู้ว่ายังคิดถึง...~ “ฮัลโหล สวัสดีคร้าบบ...” เขารับสายด้วยความงัวเงียจากการตื่นนอน "วา คุณเห็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือยัง คุณทำอะไรไว้" "อะไรของคุณครับเดย์ วาไม่เข้าใจ ข่าวอะไร" "ดูนะครับ ผมจะส่งให้ดูในไลน์” 'ไลน์' เสียงไลน์ดังขึ้นเมื่อปลายสายกล่าวจบ "นายแบบหนุ่มอักษรย่อ ว. ชอบกินน้ำใต้ศอก นั่งเฝ้าคนมีเจ้าของอยู่นานหลายชั่วโมง นายแบบ อักษร ว. เล่นชู้กลางวันแสกๆ คาห้องพิเศษ  ไร้ยางอาย เสื่อมเสียวงการ นายแบบ วอแหวน กอดรัดฟัดเหวี่ยงผู้ชายบนเตียงคนไข้..." เขานั่งอ่านข่าวที่ชายหนุ่มส่งให้นับสิบข่าวที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งสิ้น   ก๊อก... ก๊อก... “เข้ามาเลยครับนะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น "เห็นข่าวแล้วใช่มั๊ยครับ" ผู้จัดการหนุ่มกล่าวอย่างคนหมดแรง "ครับ" น้ำเสียงของนายแบบหนุ่มก็ไม่ต่างกัน "แถลงข่าวบ่ายนี้เลย" "ที่ไหนครับวา" "ข้างสระน้ำ บ้านเรานี่แหละครับ ส่งเมล์เชิญนักข่าวทุกสำนักที่เกี่ยวข้องและรีบเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ด้วย วาจะฟ้องหมิ่นประมาททั้งหมด ที่ให้ข่าวมั่วรวมถึงคนให้ข่าวด้วย เอาให้หนักเลยครับ" สายตามุ่งมั่นฉายแววแทนหยดน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอในทันที หลังจากนั้นก็มีสายเข้าไม่หยุด เพื่อถามไถ่ข้อมูลที่แท้จริงแต่กลับถูกเชิญมาฟังการแถลงข่าวแทน   กระทั่งเวลาแถลงข่าวมาถึง ไมค์จากสำนักข่าวต่างๆ ถูกวางเรียงเต็มโต๊ะ ตากล้องนับไม่ถ้วนยืนรอถ่ายการแถลงและสัมภาษณ์ข่าวจากปากนายแบบหนุ่ม เมื่อถึงเวลานายแบบหนุ่มเปิดประตูก้าวออกมาอย่างสวยสง่า มาดมั่นในชุดสูทสีแดงเพลิงนั่งลงเก้าอี้ที่โต๊ะแถลงข่าว ตากล้องกดชัตเตอร์รัวๆ แสงแฟลชกระพริบวิบวับไม่ขาดระยะ "สวัสดีครับพี่ๆ นักข่าวทุกท่าน วันนี้ที่วายุเชิญทุกท่านมาเร่งด่วนบ่ายนี้ เพราะเมื่อช่วงเช้ามีข่าวที่ไม่สู้ดีนักเกี่ยวกับตัววายุเอง พาดหัวข่าวไปต่างๆ นานา ล้วนแล้วไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ความจริงทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่ได้แจกให้พี่ๆ ทุกคนครับ ส่วนข่าว ข้อความ รูปภาพ คนให้ข่าว วายุจะดำเนินคดีตามกฎหมายครับ พี่ๆ ท่านใดจะสอบถามอะไรเพิ่มเติมมั๊ยครับ… หากไม่มีวายุขอยุติการแถลงข่าวนะครับ..." เขาชี้แจงรายละเอียดพร้อมตั้งคำถามทิ้งท้ายแต่ทุกคนกลับเงียบไม่ซักถามอะไร ขณะที่เขาจะปิดการแถลงข่าว "เดี๋ยวค่ะ ฉัน 'จี๊ด วรรณรส พจน์วิมาน' เป็นคนรักของธีร์ ณธีร์ ข้าราชการหนุ่มในข่าวค่ะ ที่คุณวายุขับรถชนเมื่อวานนี้ แล้วก็อุตส่าห์นั่งเฝ้าไข้แฟนของดิฉันหลายชั่วโมงด้วยความที่อยากได้คนรักของฉันไปครอบครอง" จี๊ดแขกไม่ได้รับเชิญก้าวเข้ามากลางวงนักข่าวนับสิบ รายงานตัวอย่างฉะฉาน ส่งผลให้นักข่าวและตากล้องจับจ้องไปที่เธอเป็นตาเดียว แสงแฟลชสาดกระทบร่างของเขาในชุดดำขลับ "จากภาพที่ทุกท่านได้เห็นเป็นเหตุการณ์จริง เวลาจริงและไฟล์เสียงที่ทุกคนได้ยินนั้นก็คือเสียงของคุณวายุจริงๆ ไหนขอดิฉันดูเอกสารหน่อยสิคะ จากข้อความในเอกสารพวกนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่มันขาดอรรถรสไปหน่อยนะคะ นี่ค่ะคลิปวีดิโอที่ถูกบันทึกได้ในห้องผู้ป่วยพิเศษ ที่คุณวายุอยู่กับแฟนหนุ่มของดิฉันค่ะ" แขกที่ไม่ได้รับเชิญถือวิสาสะเสียบทรัมไดรฟ์กับโน้ตบุ๊กของนายแบบหนุ่มเพื่อฉายวีดิโอดังกล่าว เสียงฮือฮาจากนักข่าวดังเป็นระยะๆ เมื่อได้ดูคลิปนั้นจนจบลง "คำถามค่ะ -คุณวายุชอบคนรักของดิฉันหรือเปล่าคะ -การกอดของคุณแสดงออกถึงความห่วงใยต่อเพื่อนร่วมโลกจริงๆ เหรอคะ -แค่การนั่งเฝ้าผู้ป่วย จำเป็นต้องประคองมือของคนรักดิฉันจับที่แก้มตัวเองด้วยเหรอคะ...?" และคำถามอีกมากมายที่หล่อนพร่ำถามนายแบบหนุ่ม กลับไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายแม้แต่ประโยคเดียว นายแบบหนุ่มทำได้แค่เพียงขอตัวเข้าบ้านให้ผู้จัดการหนุ่มรับหน้าแทนจนทุกคนกลับกันหมด     ก๊อกๆ... “วาเปิดประตูให้ผมหน่อยครับ” ผู้จัดการหนุ่มร้องเรียกนายแบบหนุ่ม เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากด้านใน "วาอยากอยู่คนเดียว นะไม่ต้องห่วงวาหรอกนะครับ วาไม่คิดทำร้ายตัวเองหรอกครับ" คำกล่าวของเขาตรงกับสิ่งที่ผู้จัดการหนุ่มกำลังเป็นห่วง ตามสไตล์ของนายแบบหนุ่มทุกครั้งที่เจอปัญหาหนักๆ สิ่งที่เขาทำก็คือการอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงไม่นานทุกอย่างก็จะดีขึ้นตามลำดับอย่างไม่น่าเชื่อ  สำหรับคนที่เขาแอบรักไม่ว่าจะเก่งกาจขนาดไหนเขาก็อดห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD