ช่วงเย็นวันนั้นเมื่อคนสนิทของนายแบบหนุ่มทราบข่าว ก็ต่างพากันไปหาเขาเพื่อจะมาปลอบโยนวากันทุกคน แต่วินาทีนั้นเขาไม่ต้องการจะพบหน้าใคร เขาเอาแต่ร้องไห้อยู่ภายในห้องนอนบนเตียงกว้างของเขาเท่านั้น ความเจ็บปวด ชอกช้ำ เสียใจ ผิดหวัง ต่างรุมสุมอยู่ในหัวสมองของวาตลอดเวลา เขานอนคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นวนไปวนมาส่งผลให้น้ำตาของเขาไหลท่วมท้นมากขึ้น ความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวและความร่าเริงของเขาหายสิ้น เพียงเพราะผู้ชายคนเดียวที่เขารู้สึกดีด้วยคนนั้น
เสียงเตือนจาก App Social ดังไม่ขาดสาย พร้อมทั้งเสียงโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาอย่างไม่ลดละ เขาจึงตัดสินใจปิดเครื่องเพื่อที่จะไม่ต้องรับรู้อะไร อยู่ในโลกส่วนตัวของเขาแบบนั้นต่อไป
ทางหน้าบ้านพักของนายแบบหนุ่ม ก็มีผู้จัดการประจำตัวคอยต้อนรับแขกคนสนิทคอยตอบคำถามต่างๆ เพื่อป้องกันการรบกวนเจ้าของบ้าน
"ให้ผมเข้าไปเถอะ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าวาเขาคิดอะไรกับไอ้ข้าราชการหนุ่มคนนั้น เขามีผมอยู่ทั้งคนทำไมกลับไปปันใจให้คนอื่น" เดย์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณเดย์ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ..."
"ไม่ใช่ยังไงครับ ก็มีผู้หญิงคนนั้นมายืนยันกลางวงแถลงข่าวของคุณวาแบบนั้น" เอ็มพูดเสริมด้วยท่าทีขุ่นเคือง
"เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ครับคุณเอ็ม อย่าเพิ่งเข้าไปรบกวนคุณวาเลยนะครับตอนนี้เขากำลังเครียดอยู่ครับ"
"แล้วตอนนี้พี่วาเขาเป็นยังไงบ้างครับพี่นะ ผมเป็นห่วงพี่เขาจังเลย" กันต์พูดด้วยความเป็นห่วงรุ่นพี่หนุ่มจับใจ
"พี่ก็เป็นห่วงเหมือนกันครับน้องกันต์ เอาแต่ร้องไห้พี่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเลย พูดคำเดียวว่าอยากอยู่คนเดียวไม่ต้องให้ใครไปรบกวน กันต์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเดี๋ยวพี่จะดูแลพี่วาเอง กันต์กลับไปก่อนนะครับ" นทีพยาพยามพูดด้วยความใจเย็นอย่างที่สุด
"นะตกลงจะให้พวกเราเข้าไปใช่มั๊ย ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะรอวาอยู่ตรงนี้แหละ จนกว่าวาจะออกมาพบพวกเราหรือให้พวกเราเข้าไปในบ้านเท่านั้น" เดย์กล่าวดึงดันด้วยสีหน้าจริงจัง
"ไม่ได้จริงๆ ครับทุกคน ฟังผมนะครับคุณวาต้องการพักผ่อนและอยากอยู่คนเดียว ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าใครทั้งสิ้น หากใครจะรอก็รอไปแต่อย่าส่งเสียงรบกวนมิฉะนั้นผมจะโทรเรียกตำรวจให้มาจัดการในข้อหาบุกรุกเคหสถานและก่อความรำคาญ หวังว่าพวกคุณคงจะเข้าใจนะครับ"
"ผมว่าพวกเราทุกคนกลับกันก่อนดีกว่าครับ อย่าทำให้พี่วาเค้าหนักใจไปมากกว่านี้เลย ผมเพียงแค่จะมาถามข่าวแล้วผมก็จะกลับ เมื่อผมเห็นเหตุการณ์แบบนี้ผมกลับรู้สึกเป็นห่วงพี่วามากขึ้น ผมขอร้องนะครับพี่ๆ กลับกันก่อนเถอะครับ" กันต์พูดอย่างมีเหตุผลจนทำให้เดย์และเอ็มเริ่มใจอ่อนคล้อยตาม
"ผมเห็นด้วยกับน้องกันต์นะครับ ถ้าเขาพร้อมที่จะเจอพวกคุณ ผมจะโทรบอกพวกคุณทันทีครับ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นผมกลับเลยแล้วกัน มีข่าวอะไรก็โทรหาผมได้ตลอดนะครับ" เอ็มกล่าวลาพร้อมกับเดินขึ้นรถเบนซ์สุดหรูแล้วขับจากไป
"โอเค! ผมกลับก็ได้อย่าลืมบอกวานะครับว่าผมมาหาและเป็นห่วงเขามาก" เดย์กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนยอมจากไปด้วยดี
"ได้ครับคุณเดย์ผมจะรีบโทรบอกคุณเลย สวัสดีครับ"
"สวัสดีครับ อย่าลืมนะครับผมจะรอ"
"ได้ครับ"
"เมื่อพี่ๆ เขากลับกันแล้วผมก็ขอตัวบ้างดีกว่านะครับพี่นะ ฝากดูแลพี่วาด้วยนะครับ สวัสดีครับพี่"
"สวัสดีครับน้องกันต์" ทันทีที่ทุกคนแยกย้ายกันหมด ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่ลืมที่จะขึ้นไปดูอาการของนายแบบหนุ่มต่อไป
คฤหาสน์หลังใหญ่
"เอ๊ะ! วันนี้ทำไมน้องสาวพี่ดูอารมณ์ดีจัง ไม่เห็นเหมือนทุกวันเลย"
"แหม พี่ปอก็ จี๊ดอารมณ์ดีไม่ได้เหรอคะถามแปลกๆ"
"ก็พี่ไม่เคยเห็นน้องสาวพี่อารมณ์ดีแบบนี้มาก่อนนี่ครับ อารมณ์ดีแบบฟินเวอร์เลยนี่ ใครเขาจะไม่สังเกตล่ะ 555+"
"วันนี้จี๊ดได้ไปจัดการนายแบบหนุ่มชื่อดัง ให้มันกลายเป็นชื่อดับไปเลยไงคะ สะใจจี๊ดมากเลยค่ะ สมน้ำหน้ามัน เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับจี๊ด 5555" หล่อนกล่าวด้วยความสะใจอย่างเต็มที่
"ผลเป็นยังไงบ้างล่ะครับ น้องสาวพี่"
"จะยังไงได้ล่ะคะ ก็หลบหน้านักข่าวหนีขึ้นบ้านแทบไม่ทันเลยสิคะ พูดแล้วสะใจ จี๊ดจัดการในส่วนของจี๊ดเรียบร้อยแล้วนะค่ะ ส่วนที่เหลือก็เป็นของพี่ปอว่าจะจัดการกับมันยังไง"
"ไม่ต้องเป็นห่วงนะเดี๋ยวพี่จัดการให้มันรู้ไปเลยว่าอย่ามาแตะต้องน้องสาวพี่อีก...” พี่ชายกล่าวเสริมทัพด้วยรอยยิ้ม ส่งผลให้น้องสาวรีบเดินเข้ามากอดเพื่อขอบคุณ
"ขอบคุณพี่ปอมากนะค่ะ จี๊ดรักพี่ปอที่สุดเลย" หล่อนขอบคุณพี่ชาย แล้วไม่ลืมที่จะหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะวิ่งขึ้นห้องอย่างดีใจ เหมือนกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้ของเล่นชิ้นใหม่
วายุทำไมคุณชั่งโชคร้ายเหลือเกินที่กล้ามามีเรื่องกับน้องสาวของผม ผมควรจะทำยังไงกับคุณเพื่อให้น้องสาวของผมสบายใจ คุณเป็นถึงนายแบบมีชื่อเสียงโด่งดัง กลับมามีเรื่องอื้อฉาวเพราะข้าราชการหนุ่มคนหนึ่งเนี่ยนะ หรือคุณจะไม่ใช่ชายแท้ ใช่ชายแท้หรือไม่ใช่ยุคนี้สมัยนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตามคุณผิดที่เข้ามาทำให้น้องของผมไม่สบายใจ ถึงอย่างไรผมก็ต้องจัดการคุณเพื่อน้องสาว มันจะมีวิธีจัดการยังไงบ้างที่จะไม่ทำให้คุณต้องเสียเลือดเนื้อหรือถึงขั้นเลือดตกยางออก ชายหนุ่มนอนก่ายหน้าผากครุ่นคิดขณะอยู่บนเตียงในห้องนอนสุดหรูส่วนตัวก่อนจะหลับไปด้วยอาการเหนื่อยอ่อย
ในห้องทำงานของกระทรวงใหญ่กระทรวงหนึ่ง
ธีร์ ข้าราชการหนุ่มที่ถูกกล่าวถึงตามเนื้อข่าวกับวานายแบบหนุ่ม เขาดูมีสีหน้าไม่สบายใจอยู่ตลอดครึ่งวันเช้าขณะปฏิบัติงานจากการกระทำของจี๊ดต่อนายแบบหนุ่มชื่อดัง วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่จี๊ดไม่มาทำงาน หากเขาจะไปหาเธอที่บ้านก็ใช่จะเหมาะสม แต่ข่าวที่จี๊ดให้กับนักข่าวไปทำให้ทุกคนที่ทำงานต่างเข้าใจว่าตัวเขากับจี๊ดเป็นแฟนกันจริงๆ จนทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงาน ทั้งที่งานเอกสารยังกองอยู่ตรงหน้ามากมาย เขาตัดสินใจลาครึ่งวันบ่าย เพื่อไปปรับความเข้าใจกับนายแบบหนุ่มที่บ้าน ธีร์โทรหาวาเพื่อนัดหมายโดยหวังว่าให้นายแบบหนุ่มว่างสำหรับเขาด้วยเช่นกัน
"สวัสดีครับคุณวา ผมธีร์ ณธีร์ครับ"
"สวัสดีครับคุณธีร์ มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"วันนี้คุณสะดวกมั๊ยครับ ผมอยากปรับความเข้าใจกับคุณเรื่องข่าวน่ะครับ ผมรู้สึกไม่สบายใจเลยกับเรื่องนี้ จี๊ดเขาทำกับคุณเกินไป" ชายหนุ่มกล่าวอย่างคนรู้สึกผิด
"วาไม่เป็นอะไรครับ วาเข้าใจ คนเป็นแฟนกันก็เป็นแบบนี้แหละครับ คุณธีร์อย่ากังวลเลยครับ" นายแบบหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉย
"คุณวา คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับคือผม..." ขณะที่ข้าราชการหนุ่มกำลังจะบอกความจริงเรื่องความสัมพันธ์กับจี๊ด ทันใดนั้นก็มีเสียงใครขนหนึ่งดังขึ้นทางปลายสายของนายแบบหนุ่ม
"หยุด! ถ้าไม่อยากตาย"
"มรึงต้องการอะไร!?" นายแบบหนุ่มหันไปมอง ก็พบเข้ากับชายชุดดำ สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าใช้วัตถุบางอย่างคล้ายปืนจี้ที่เอวโดยที่ในแบบหนุ่มยังอยู่บนรถยนต์ส่วนตัว แต่ไม่รู้ว่าชายชุดดำขึ้นรถมาได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
"ใช้คำพูดไม่สุภาพแบบนี้มันไม่เหมาะกับใบหน้าสวยๆ ของน้องเลยนะครับ" ชายลึกลับยังใช้วาจายียวนอีกคนไม่ลดละ
ด้วยปฏิภาณไหวพริบฉลาดของวา เขารีบเก็บมือถือที่ยังมีสายของข้าราชการหนุ่มที่ยังอยู่ในสายสนทนา
"อยากรู้เหรอว่าพี่ต้องการอะไร ขับรถไปน้องจะได้รู้"
"ฮัลโหล… ฮัลโหลครับคุณวา เกิดอะไรขึ้นครับ คุณวาได้ยินผมมั๊ย..." ไม่มีเสียงตอบรับจากนายแบบหนุ่ม เขาได้ยินเพียงเสียงสนทนาระหว่างคนสองคน หลังจับใจความได้ว่านายแบบหนุ่มกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงทำได้เพียงตั้งใจฟังและสะกดรอยตามจากชื่อสถานที่ต่างๆ ที่นายแบบหนุ่มสนทนากับชายลึกลับในชุดดำตลอดทาง
"นี่มรึงจะให้กรูขับรถไปไหน ขับมาไกลมากแล้วนะ"
"ทำไม รีบร้อนอยากเป็นเมียพี่เหรอจ๊ะ ได้ถ้าอย่างนั้นเลี้ยวเข้าซอยหน้านี้เลย!"
"มรึงจะทำอะไร" วาถามอีกฝ่ายอย่างหวาดกลัวพร้อมทั้งเลี้ยวรถเข้าซอยตามคำสั่ง
ทันใดนั้นเมื่อรถยนต์จอดสนิทภายในซอยเปลี่ยว ชายลึกลับก็พยายามลวนลามเขาบนรถอย่างสะเปะสะปะแบบไม่ตั้งใจเท่าไหร่ วาปัดป้องมือนั้นตลอดเวลา กลับถูกมือใหญ่จับไว้แน่น ด้วยความกลัวบวกกับสู้แรงของชายร่างกำยำไม่ไหวแต่นายแบบหนุ่มก็ไม่ยินยอมง่ายๆ พยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากน้ำมือมัจจุราชในคราบชายชุดดำอยู่นาน กระทั่งหมดแรงแล้วสลบไปในที่สุด
"ผมขอโทษนะครับคุณวายุ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณกลัว สิ่งที่ผมทำก็เพื่อน้องสาวของผมเท่านั้น" เมื่อชายลึกลับเห็นว่านายแบบหนุ่มหมดสติแล้ว เขาจึงถอดหมวกไหมพรมที่ใช้อำพรางใบหน้าออก
ชายลึกลับนั่งพิจารณานายแบบหนุ่มอยู่นาน ด้วยวงหน้าที่สวยประหลาดล้ำ ขนตาดำขลับเรียงดุจแพรไหม จมูกโด่งเป็นสันสวย ตกแต่งด้วยริมฝีปากบางอมชมพูน่าสัมผัส ผิวพรรณขาวสะอาดใสทั่วเรือนร่าง ในชุดเดรสสีครีมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายแบบหนุ่มเสร็จจากการถ่ายแบบเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิมก่อนที่จะไปทำงาน ที่ยังหลับตาสนิท ยิ่งชายหนุ่มผู้ประสงค์ร้ายได้มองดวงหน้านายแบบหนุ่มนานเท่าใดก็เหมือนยิ่งต้องมนต์สิเน่หาที่ชวนหลงใหลจนไม่อาจห้ามใจได้เป็นทวีคูณ
คุณสวยมากวายุ สวยจริงๆ สวยกว่าใครทุกคนที่ผมเคยเจอมา ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณคือผู้ชายจริงๆ ถ้าไม่มีคำว่านายแบบผมคงคิดไปแล้วว่าคุณคือผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ คุณสวยเสียจนผมห้ามใจไว้ไม่อยู่ เขาพร่ำพรรณนาถึงคนหมดสติอยู่นานพอสมควรพลางเผลอใช้ปลายนิ้วสัมผัสใบหน้านวลอย่างเบามือด้วยความหลงใหลในมนต์เสน่ห์ เพียงไม่นานเขาก็สามารถดึงสติกลับคืนจากภวังค์ลุ่มหลงคนตรงหน้าได้ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเย็นมาก ทันทีที่รู้สึกตัวเขาก็ไม่ลืมที่จะดึงชุดเดรสของวาให้ตกไหล่ไปข้างหนึ่ง จากนั้นจึงใช้มือฉีกชุดเดรสนั้นให้ขาดวิ่นไม่อยู่ในสภาพเดิมโดยเน้นบริเวณชายชุดเดรสให้ขาดแหว่งให้ไม่เหลือชิ้นดี ขณะที่เขากำลังทำลายเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของนายแบบหน้าหวานด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีโดยสันดาน เขาพยายามหันหน้าหนีเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นสภาพดังกล่าวซึ่งถือเป็นการให้เกียรติคนหมดสติถึงแม้คนที่ถูกกระทำจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ตาม
“ผมขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้คุณเข้าใจว่าตัวคุณถูกกระทำย่ำยี หัวใจของผมตอนนี้มันกลับบอกว่าชอบคุณเข้าแล้วคุณวายุ!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ก่อนจากไป
ขณะเดียวกันข้าราชการหนุ่มก็ขับรถมาพบกับรถยนต์ของวา ที่จอดอยู่ในซอยเปลี่ยว หลังจากที่เขาพยายามสะกดรอยตามตามชื่อสถานที่ที่นายแบบหนุ่มสนทนากับชายลึกลับระหว่างทาง ทำให้เขารู้สึกกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวา พอเขาเดินเข้าไปข้างรถก็พบว่านายแบบหนุ่มนอนหมดสติอยู่ที่เบาะคนขับ
"คุณวา!!" ชายหนุ่มร้องเรียกอีกคนด้วยความตกใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับวา สภาพที่เขาเห็นเสื้อผ้าฉีกขาด ผมเผ้ายุ่งเหยิง มันเกิดอะไรขึ้นกับวากันแน่
"ผมมาช้าไปใช่มั๊ยคุณวา ผมขอโทษ ผมขอโทษ" ชายหนุ่มร่ำไห้กับสิ่งที่เห็นแล้วค่อยๆ เปิดประตูรถ นำร่างที่ไร้สติของวาขึ้นรถยนต์ของตนเองพาไปโรงพยาบาลด้วยความกระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงอย่างที่สุด
"คุณต้องไม่เป็นอะไรนะครับ คุณต้องไม่เป็นอะไร ผมจะพาคุณไปหาหมอ" ชายหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตาแล้วบึ่งรถไปยังโรงพยายามทันที
เกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของชายหนุ่มอย่างธีร์ ทำไมเขาต้องรู้สึกสงสารและเป็นห่วงนายแบบหนุ่มมากถึงเพียงนี้หรือเป็นเพราะเขาเริ่มมีใจให้กับคนหมดสติด้านข้าง มันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อเขารู้ทั้งรู้ว่าคนที่หมดสติคือผู้ชายเหมือนกันกับเขา แล้วเขาจะมีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับผู้ชายด้วยกันยังไงได้ ธีร์เริ่มสับสนกับความรู้สึกต่างๆ ที่มีต่อนายแบบหนุ่มคนนี้ เขาพยายามไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้เพราะมีสิ่งสำคัญกว่า คือพาคนหมดสติส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเสียก่อน
เวลาไม่นานหลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับนายแบบชื่อดัง
"เป็นยังไงบ้างคะพี่ปอ จัดการมันเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ยคะ" ทันทีที่จี๊ดเห็นพี่ชายตนเองเดินเข้าบ้าน หล่อนก็ยิงคำถามใส่ทันที
"แล้วน้องสาวพี่คิดว่าระดับพี่จะพลาดเหรอครับ" เขากล่าวพลางยิ้มย่องให้น้องสาวอย่างภูมิใจ
"พี่จัดการกับมันยังไงคะ จี๊ดอยากรู้"
"อย่างพี่น่ะเหรอก็แค่ส่งคน 3-4 คนไปยัดเยียดความเป็นผัวให้มันได้รู้ว่าอย่ามาแตะต้องน้องสาวพี่อีกก็แค่นั้น 5555" เมื่อผู้เป็นพี่ชายกล่าวจบลง ทำให้หล่อนส่งเสียงหัวเราะลั่นอย่างสะใจด้วยความสุข
"ขอบคุณพี่ปอมากนะคะ รักพี่ที่สุดเลย 5555" หล่อนหัวเราะทิ้งท้ายก่อนเดินขึ้นชั้นบนอย่างสบายใจ นี่เขากำลังตามใจน้องสาวแบบผิดๆ ใช่มั๊ย จะไม่มีครั้งต่อไปกับคนที่ชื่อวายุอีกเพราะในใจของเขาตอนนี้มีเพียงนายแบบหนุ่มไปเสียแล้ว