EPISODE 06
ตรวจภายใน
“อยากได้ฉันมากไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึงกลัวซะได้ล่ะ มันดูย้อนแย้งนะเธอไม่คิดอย่างงั้นเหรอ?” คำถามของวาเลนยิ่งตอกย้ำความรู้สึกสับสนของพริบพราว เพราะเจ้าตัวเองก็ไม่สามารถให้คำตอบนี้กับตัวเองได้
“พราว…”
“เธออุตส่าห์ตอบแทนที่ฉันช่วยพ่อเธอด้วยร่างกายของธอ งั้นฉันก็จะตอบแทนร่างกายของเธอคืนโดยการตรวจภายในให้เธอฟรีแล้วกัน”
“อ๊ะ!” ร่างบางร้องอุทานออกมาเสียงหลง เมื่อแพนตี้ตัวบางถูกแหวกออกไปด้านข้างส่งผลให้กลีบกุหลาบงามเปิดเผยสู่สายตาของชายหนุ่ม
ปลายนิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้ามาทักทายโพลงสวาทรักอ่อนนุ่มจนร่างบางกระตุกเกร็ง มือเรียวพยายามดันเอามือหนาออก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานเรียวแรงของอีกฝ่ายได้
“คุณหมอ…” ในขณะที่คนตัวเล็กพยายามส่งเสียงเรียกเขา เพื่อร้องขอความเห็นใจ แต่อีกฝ่ายกลับจ้องมองใบหน้าเหยเกด้วยแววตาเยือกเย็น
ปลายนิ้วร้ายที่ครูดง้อกับผนังอ่อนนุ่มทำเอาร่างกายกระตุกเกร็งปลดปล่อยสายธารน้ำรักออกมาตามสัญชาตญาณของร่างกายเมื่อถูกกระตุ้น
“พะ…พอแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ใบหน้าหวานชาขึ้นมาทันทีเมื่อวาเลนชูปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำหวานที่เธอปลดปล่อยออกมาตรงหน้า
“คุณหมอต้องการอะไรจากพราวคะ ทำแบบนี้ทำไม” คนตัวเล็กก้มหน้าถามเสียงสั่น
“เธอโตเกินกว่าจะมานั่งตั้งคำถามไร้เดียงสาพวกนี้กับฉันนะ”
“เรื่องระหว่างเราที่มันเคยเกิดขึ้นพราวเข้าใจถึงสถานะ และสถานการณ์ดีค่ะ แต่ตอนนี้พราวไม่เข้าใจพวกเราไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้กันอีก”
“ถ้าไม่อยากให้ฉันทำงั้นเธอก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าสิ”
“จะเป็นไปได้ยังไงคะ ก็พ่อพราวพักรักษาตัวอยู่ที่นี่หนำซ้ำคุณหมอยังเป็นเจ้าของไข้อีก”
“งั้นเธอก็ไม่ควรอ้าขาให้ฉันเอาตั้งแต่ทีแรกสิ”
“แล้วถ้าพราวปฏิเสธคุณหมอจะยอมปล่อยพราวไปเหรอคะ?” เธอรู้ดีว่าในคืนนั้นไม่มีทางให้เธอหนีเนื้อมือของเขาพ้นได้เลยบวกกับความรู้สึกดีที่มีให้เขาเป็นเดิมทุนเลยยอมให้เกิดเรื่องราวเกินเลยขึ้น
“แน่นอนว่าไม่เพราะฉันจ่ายค่าตัวเธอไปแล้ว”
“แล้วคุณหมอจะมาถามพราวแบบนี้ทำไมคะ” เธอถามขณะที่พยายามจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าทีเรียบร้อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมให้คนตัวเล็กได้ทำความต้องการตัวเองจนสำเร็จร่างบางถูกดันให้นอนคว่ำหน้าไปบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มือหน้ากดลำคอระหงเอาไว้ไม่เปิดโอกาสให้เธอเงยหน้าขึ้นมาขัดขืนได้
“คุณหมอจะทำอะไร!” คนตัวเล็กเริ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ฟาดลงมาบนบั้นท้ายงอนงาม ซึ่งมันก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากแก่นกายใหญ่ของอีกฝ่าย
“ฉันว่าฉันยังเอาเธอไม่คุ้มเท่าไหร่เลย” วาเลนโน้มลงมากระซิบข้างใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ทำเอาร่างบางสั่นสะท้านไปทั่วร่างโดยเฉพาะตอนที่เขาพยายามดันเอาแก่นกายใหญ่รุกล้ำเข้ามา
ก๊อกๆ ~
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้พริบพราวรีบฉวยโอกาสใช้แรงที่มีขืนตัวออกจัดการเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่วาเลยจะจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดเก็บเจ้าโลกที่ตื่นตัวกลับลงไป แล้วตะโกนบอกให้คนด้านนอกเข้ามา
“อ้าวพราว ไม่รู้ว่ามีแขกอยู่” หมอวายุ หรือนายแพทย์หนุ่มที่ฝีมือไม่เป็นสองรองใครหนุ่มฮอตประจำแผนกศัลยกรรมทรวงอกดูตกใจที่เห็นพริบพราวอยู่ไม่น้อย ก่อนจะหันไปคุยกับวาเลนเจ้าของห้อง
“ไม่เป็นไรธุระเสร็จแล้ว” วาเลนบอกพร้อมกับปรายตามองคนตัวเล็กที่นืนตัวเกร็งอยู่ข้างๆ เพียงนิด
“ถ้างั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ” พริบพราวบอกพร้อมกับเตรียมกลับออกไปซึ่งระหว่างนั้นต้องเดินผ่านหน้าหมอวายุไปก่อน ซึ่งเธอกับวายุก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
“เดี๋ยวลงไปคุยเล่นด้วยนะ” วายุบอกพร้อมกับวางมือลงมาบนศีรษะทุยเบาๆ สายตาเอ็นดูที่เขาใช้มองทำให้พริบพราวยิ้มตอบกลับอย่างอ่อนหวาน
ซึ่งนั้นเป็นเสน่ห์ดึงดูดที่น่าเหลือเชื่อที่วาเลนไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะพริบพราวไม่เคยยิ้มให้เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายตาที่เธอมองเขามันสะท้อนความกลัวออกมา แต่ก็น่าแปลกที่เธอก็ดูเหมือนจะไม่กลัวในคราเดียวกัน หรือเพราะความรักที่เธอมีต่อเขาเลยทำให้สมองหัวใจของเธอทำงานสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัดแบบนั้น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหมองานเยอะจะตาย จะมาเสียเวลาคุยเล่นกับพราวทำไมคะ” พริบพราวพยายามควบคุมน้ำเสียงสั่นจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ตอบกลับวายุให้ดูเป็นปกติ และเป็นกันเองมากที่สุด
และความเป็นกันเองที่ดูสนิทสนมของเธอกับหมอวายุทำให้หมอวาเลนที่ยืนมองเงียบๆ รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาดื้อๆ
“มึงเข้ามามีธุระอะไร ส่วนเธอไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว”
“ทำไมต้องเกรี้ยวกราดด้วยวะ” ความที่สายุก็เป็นแพทย์รุ่นราวคราวเดียวกันทำให้เขาค่อนข้างสนิทกับวาเลนในที่ทำงานพอสมควร
“เอางานมาให้ไม่ใช่เหรอ จะมาเสียเวลายืนคุยเล่นทำไม” วาเลนบอกพร้อมกับหมุนตัวเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“สงสัยไปกินรังแตนมาพราวรีบกลับออกไปก่อนเถอะเดี๋ยวโดนหมอวาเลนตอยเอา” วายุหันไปบอกพริบพราวไม่ให้ตกใจกับสถานการณ์มากจนเกิดไป ความหวังดีของเขายิ่งทำให้วาเลนรู้สึกหมั่นไส้พริบพราวไปกันใหญ่
“ถ้างั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ คุณหมอวายุก็ตั้งใจทำงานสู้ๆ นะคะ” เธอส่งกำลังใจให้เขาเหมือนทุกครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นนิสัยส่วนตัวของเธอเองที่ชอบส่งพลังบวก และกำลังใจให้คนอื่น นิสัยที่แสนดีไม่มีพิษมีภัยกับใคร ในสายตาของวาเลนกลับมองว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้ามารยาเสียอย่างงั้น
เพราะเธอเคยบอกว่าแอบชอบเขา แต่ในขณะเดียวกันเธอก็พยายามโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชายคนอื่นอย่างหน้าไม่อาย
“ขอตัวก่อนนะคะ” คราวนี้เธอหันกลับมาลาวาเลนด้วยใบหน้าที่รอยยิ้มหายไปในเสี้ยววินาที ก่อนจะกลับออกไป
-------------------------
หมั่นไส้หรือหึงเอาดีๆ หมอ ไม่เอาจะส่งให้หมอวายุแล้วนะเอาไง😂