"มึงมาถึงปากหมาเลยนะ" บอลตอบโต้
"เหอะ ภาพมันก็ฟ้องอยู่ตรงหน้า"
"แค่เช็ดผมให้น้องขนมเพราะเปียกน้ำตอนวิ่งไปเก็บป้ายเมนูหน้าร้าน คิดอะไรเลอะเทอะ"
เพื่อนส่ายหน้าเอือมระอา ก่อนที่สองหนุ่มจะนั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน ฝนตกยังไม่สามารถออกไปไหนได้ทั้งนั้น บอลยกดื่มชาร้อนพร้อมส่งคำถาม
"มาทำอะไรที่นี่"
"กูมาเดินเล่นแล้วฝนตกก็เลยแวะเข้าร้านนี้เห็นว่าไฟเปิดอยู่ แล้วมึงล่ะ..มาทำอะไร"
"กูเพิ่งเซ้งร้านนี้"
"อะไร?! แล้วบริษัททัวร์ของมึงล่ะ"
"ก็ยังทำปกติ ร้านนี้ถือว่าเป็นงานอดิเรกไง ที่กูเซ้งร้านนี้ก็เพราะว่าขนมจะได้ไม่ต้องไปหางานใหม่ทำพาร์ตไทม์ สมัยนี้งานมันก็หายาก"
เตโช เข้าใจเหตุผลในทันที สายตาดูเหมือนจะไม่ชอบใจแต่ก็กระตุกยิ้มเย้ย ส่วนในตอนนี้ขนมก็จัดเตรียมข้าวของจะกลับบ้าน บอลรีบลุกเก้าอี้ตรงดิ่งไปหา "ให้พี่ไปส่งนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฝนก็ไม่ได้ตกหนักแล้ว"
"แต่ตอนนี้ก็มืดมันอันตราย"
"หนูกลับเองจนชินแล้วพี่ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ"
"แต่ว่า.."
"อยู่คุยกับพี่เตโชไปเถอะค่ะ"
ขนมอยากหลีกเลี่ยงการปะทะ จึงรีบเดินออกจากร้านเพื่อนเรียกแท็กซี่กลับหอพักของตัวเองทันที ปล่อยให้บอลกับเตโชนั่งพูดคุยกันต่อ
หลายสัปดาห์ผ่านไป
"อะไรกันวะ เราอยู่มาตั้งนาน ตึกข้างๆ ร้างไม่มีใครมาเช่า ตอนนี้มาเปิดร้านกาแฟแข่งซะงั้น" พนักงานในร้านเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกัน "แล้วแต่งร้านอย่างหรู"
"นั่นสิ ทำแบบนี้ได้ยังไง" อีกคนแย้ง
"ลูกค้าน้อยลงมาก แบบนี้จะโดนเลิกจ้างไหม"
"นั่นสิ ต่อให้เจ้าของอย่างพี่บอลจะรวยแต่ถ้าขายแล้วขาดทุนใครมันจะอยากทำต่อ เฮ้อออ"
"ขนาดแต่งร้านยังไม่เสร็จคนยังแห่ไป"
เจมส์กับขนมยืนเช็ดโต๊ะกับเก้าอี้มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เป็นอย่างที่พนักงานในร้านพูดคุยกัน จู่ๆ ตึกข้างที่ว่างและปล่อยรกร้างกลับกลายเป็นร้านกาแฟที่หรูหราแม้ยังรีโนเวทไม่เสร็จแต่ก็เปิดร้านให้ลูกค้าได้เข้ามาเชยชมบรรยากาศและอาหารเครื่องดื่ม
วันศุกร์
เวลาบ่ายสามโมง
ขนมมีเรียนเพียงคาบเช้าจึงรีบกลับเข้าหอพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาทำงานที่ร้านกาแฟต่อในช่วงบ่ายจนถึงค่ำ แต่เมื่อเดินทางมาถึงต้องตกใจหยุดชะงักเมื่อผู้คนแห่แหนมากองกันอยู่แถวตึกหน้าร้าน
กริ่งงงง~
"ขนม" เพื่อนร่วมงานเรียก "ได้ฝ่าฝูงชนเข้ามาใช่ไหมเนี่ยยยย"
"ใช่ ทำไมคนถึงเยอะแยะเต็มถนนไปหมด"
"พรุ่งนี้ไอ้ร้านกาแฟด้านข้างมันเปิดอย่างเป็นทางการ วันนี้จึงจ้างดาราที่คิวยาวระดับต้นของประเทศมาโฆษณา เล่นใหญ่เวอร์มาก!"
"อะไรจะขนาดนั้น"
"คนก็เลยแห่มาถ่ายรูปไง แถมในร้านก็แน่นอย่างกับปลากระป๋องลามมาจนปิดหน้าร้านเรา"
"ใครกันนะ..เจ้าของร้าน"
ขนมหงุดหงิดเพราะกว่าจะแหวกว่ายฝูงชนที่กองกันเป็นกระจุกก็แทบหายใจไม่ทันจนหอบเหนื่อย
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงผู้คนก็เริ่มจางหายเพราะดาราชื่อดังกลับไป มองดูนาฬิกาเป็นเวลา หกโมงเย็น
"ขนมจะไปไหน" เจมส์ถาม
"จะแวะไปดูร้านข้างๆ"
"เธอเอาผ้ากันเปื้อนที่มีชื่อร้านของเราออกก่อนดีไหม ฮ่าๆ"
"จริงด้วย เดี๋ยวจะคิดว่าเราไปหาเรื่อง"
เสียงแหลมพูดเหวี่ยงก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนวางไว้บนเคาน์เตอร์จากนั้นก็เดินเรียบไปยังร้านติดกันซึ่งประดับประดาไปด้วยคริสตัลหรูหรา สักพักก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
กริ่งงงง~
"พี่เตโช!!" ไม่ผิดแน่..ใบหน้าเจ้าเล่ห์หล่อเหลาเลิกคิ้วให้ ยืนอยู่กลางร้านคล้ายกับกำลังเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ ถือขวดไวน์แกว่งไปมา "อย่าบอกนะว่านี่เป็นร้านของพี่"
"ถูกต้อง เป็นยังไงร้านของฉันเก๋ไหม"
"พี่บ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย คิดอะไรของพี่อยู่"
"เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ ขอขอบคุณพนักงานที่วันนี้ทำงานหนักเพราะลูกค้าเยอะมากๆๆ"
"พี่เตโช!"
ขนมกัดฟันกรอด ได้แต่ยืนรอให้เขาบอกกล่าวขอบคุณกับพนักงานแล้วสั่งให้กลับบ้านได้เนื่องจากของไม่มีจะขาย เพราะวันนี้ลูกค้าต่างมาอุดหนุนมากมาย คงเพราะมีดาราชั้นนำเป็นพรีเซนเตอร์เปิดตัว
ทันทีที่ขึ้นป้ายว่าปิดร้าน ขนมตรงดิ่งมายืนประจันหน้า เท้าสะเอวพร้อมกับสาดเสียงแข็งใส่ "พี่ก็รู้ว่าพี่บอลเซ้งร้านที่หนูทำงานอยู่ นี่พี่มาเปิดร้านแข่งกับเพื่อนเหรอ?"
"ธุรกิจกับเรื่องเงินทองใครดีใครได้สิ แต่ฉันชอบความทะเยอทะยานของมันนะ ไอ้บอลมันเปย์เซ้งร้านให้เธอทำงาน แม้จะรู้ว่าเธอมีแฟน ถ้าวันนั้นเธอไม่เข้าใจผิดว่าฉันเป็นมันแล้วเปิดนมให้มันดูด ปานนี้คงมีลูกกันเป็นโหลแล้วมั้ง"
"พี่เตโช! แล้วพี่เป็นบ้าอะไร ถึงอยากเอาชนะคนอื่นอยู่เรื่อยอะ"
"ฉันไม่ได้อยากเอาชนะคนอื่นแต่ฉันอยากเอาชนะเธอ โทษฐานที่เธอทิ้งฉันไปไง!!"