7ไอ้นั่นแฟนเธอเหรอ

1589 Words
“ น้ำแตงโมปั่นที่เธอชอบ และนี่ก็ของเธอสองคน” สิงหายื่นน้ำแตงโมปั่นให้ฉัน และยื่นน้ำมะพร้าวให้ใบพัดกับพู่กัน “ ขอบใจนะแล้วนายกินอะไร” “ กินน้ำเปล่าน่ะ เราไม่ค่อยชอบกินอะไรหวานๆ” หลังสิ้นบทสนทนา พวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าว แต่คงจะเป็นฉันนี่แหละที่รีบกินกว่าเพื่อน เพราะไม่อยากทนกับสายตาที่จ้องฉันแบบนี้ “ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” หลังจากที่รีบกินรีบอิ่ม ฉันก็ลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ปั้ง!! “ ทำไมโลกมันกลมแบบนี้เนี่ย ” อยู่มหาลัยติดกันก็สองปีกว่าแล้ว แต่ไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่ามันซวยอะไร พอได้เจอกันครั้งหนึ่งแล้วก็เหมือนจะเจอกันอีกเรื่อยๆ ซ่า!! ฉันทำธุระเสร็จ ก็ส่องกระจกดูความเรียบร้อยสักหน่อย หน้าฉันก็ยิ่งโทรมเข้าไปทุกวันแล้ว ก็ผลจากการนอนดึกนั่นแหละ ปึก!! “ โอ้ยนี่นาย จะมายืนขวางฉันทำไมหลีกไปนะ” พอฉันหันกลับมา ก็ชนเข้ากับปกป้องพอดี “ ไอ้นั่นแฟนเธอหรอ มันก็ดูรวยดีนี่ ทำไมปล่อยให้แฟนไปทำงานแบบนั้น เป็นแฟนภาษาอะไรกัน” “ เราไม่ใช่แฟนกัน เราเป็นเพื่อนกันจบไหม ต่อให้เป็นแฟนจริง ฉันคงไม่เกาะแฟนกินไปตลอดหรอกนะ หลีกไปได้แล้ว” ฉันมองหน้าเขาอย่างไม่วางตา ไม่รู้เขาจะตามรังควานอะไรฉันนักหนา ขอโทษก็ขอโทษไปแล้ว “ ผู้หญิงเห็นแก่เงินแบบเธอน่ะหรอ ที่จะไม่เกาะแฟนกิน ไอ้นั่นมันก็ดูชอบเธอมากกว่าเพื่อนอยู่แล้วนิ ทำไมไม่ขอเงินมันใช้ล่ะ ดีกว่าจะไปเปลืองตัวกับผู้ชายคนอื่น” ที่เขาพูดออกมาแต่ละคำ มันใช้ได้ที่ไหนกัน “ ฉันจะทำยังไง มันก็เป็นสิทธิ์ของฉันมั้ย แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมายุ่งด้วย หรือว่าจริงๆแล้วนายยังชอบฉันอยู่ ” คราวนี้ฉันถามอย่างไม่ยอม จนคนที่เอาแต่ยืนขวางฉัน ถึงกับหน้าดำหน้าแดง ก็คงโกรธนั่นแหละที่ฉันพูดถึงเรื่องนั้น “ อย่าสำคัญตัวให้มาก คนอย่างฉันไม่เอาผู้หญิงเห็นแก่เงินมาเป็นแฟนหรอก ” พูดจบเขาก็เดินหนีไปด้วยความโมโห “เฮ้อ!!” ฉันได้แต่ถอนหายใจ ต่อไปคงไม่ออกมากินข้าวข้างนอกแล้วแหละ อะไรที่ไม่อยากเจอก็ได้เจอ สุดกว่านี้มีอีกไหม ชีวิตของฉัน “ อิ่มกันหรือยัง กลับกันเลยไหม” พอออกจากห้องน้ำมา ฉันก็รีบชวนเพื่อนๆกลับ “ ไปดิ อิ่มกันหมดแล้วเนี่ย รอเธอคนเดียวนั่นแหละไปเข้าห้องน้ำนานจัง ว่าจะให้ใบพัดไปตามอยู่แล้วเชียว” สิงหาพูดขึ้น จนมีบางคนแอบมองอย่างหมั่นไส้ “ แหมก็ห่วงจนออกนอกหน้าเนาะ เพื่อนแค่ไปเข้าห้องน้ำจ๊ะสิงหา ไม่ได้ไปเข้าโรงแรมสักหน่อย” ใบพัดพูดแซวอย่างหยอกล้อ “ แพรกลับก่อนนะคะคุณไดจิ แล้วก็ทุกคนด้วยนะคะ” ฉันรีบบอกลาโต๊ะเจ้านาย “ ครับ/ค่ะ” หลังจากนั้นพวกเราก็กลับเข้ามหาลัย และฉันก็ซ้อนท้ายสิงหากลับเหมือนเดิม “ พูดมาไอ้ปกป้อง มึงดูสนใจผู้หญิงคนนั้นเป็นพิเศษ” พอกลุ่มของผ้าแพรกลับไป ไอ้ซันเดย์ก็เค้นถามผม เกี่ยวกับเรื่องของผ้าแพร “ กูจะสนอะไร มึงก็ถามไอ้ไดจิดิ ก็แค่เด็กที่ร้านมัน เมื่อวานมันให้กูไปช่วยดูให้ ก็ได้พูดกันนิดหน่อยก็แค่นั้นเอง” ผมคิ้วขมวดตอบเพื่อน “ แค่นั้นจริงเหรอวะ แต่อาการมึงออกนะ มึงสนใจเขาหรือเปล่า ” คราวนี้เป็นไอ้ภูมิที่ถาม “ แล้วมึงยุ่งอะไรด้วยสัส ไปเอาเด็กที่ห้องของมึงให้อยู่เถอะ ได้ข่าวว่าดื้อไม่ใช่หรอ” ได้ทีเอาคืนเลยผม ไอ้พวกเพื่อนนี่ชอบเสือก คนไม่ได้สนใจ ก็จะบังคับให้ผมสนใจอยู่นั่นแหละ “ ไปกันได้แล้ว จะบ่ายโมงอยู่แล้วคุยกันอยู่นั่นแหละ” และไอ้สายธารก็พูดขึ้น ส่วนพวกเวรนี่ก็ยังถามผมไม่ยอมหยุด จนตอนนี้มาถึงมหาลัยแล้ว ไอ้ภูมิก็ยังเซ้าซี้ผมอยู่นั่นแหละ “ ตอบมาไอ้ปกป้อง มึงชอบเธอคนนั้นหรอ มึงตามเธอไปห้องน้ำกูเห็น อย่าให้กูต้องพูดกูไปดูดบุหรี่พอดี จะให้กูพูดไหมว่ามึงคุยอะไรกับเธอกูได้ยินหมด” และไอ้ภูภูมิก็พูดขึ้น “ เชี้ย!! แล้วมึงไปเห็นกูตอนไหนวะ” ผมก็ว่ามองซ้ายมองขวาแล้วนะ ก็ไม่เห็นมีใครเดินตามไป แต่เพื่อนเวรก็ดันตาดีไปเจอ “ ป่าวหรอกกูแกล้งมึง สรุปมึงสนใจคนนั้นเหรอวะ” และมันก็เสือกฉลาดด้วย ผมจะทำยังไงกับไอ้เพื่อนเวรนี้ดี “ กูไม่ได้สนใจ และกูก็ไม่คิดจะสนใจด้วย จบป่ะ มีอะไรจะถามกูอีกไหม ” “ เชื่อตายแหละสัส อาการโคตรออกแต่ไม่ยอมรับ ” แล้วไงใครจะแคร์ สนใจแบบไหนก็ว่ากันอีกที แต่คงไม่ได้สนใจในตัวเธอแน่ แค่อยากเอาคืน “ กูไม่สนและกูก็ไม่ยอมรับ ไปเรียนได้แล้วบ่ายโมงแล้วเนี่ย” ผมเริ่มหงุดหงิดละถามอยู่นั่นแหละ หลังจากเรียนเสร็จพวกเราก็ไปซ้อมบาสกันนิดหน่อย เพราะอาทิตย์หน้าพวกไอ้เจมส์ มาชวนแข่งบาส แต่ไม่ได้อยู่มหาลัยเดียวกันหรอก มหาลัยข้างกันนี่แหละไม่ไกลกันมาก “ นั่งรอตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวพวกพี่ไปซ้อมแค่ชั่วโมงเดียวก็เสร็จ” วันนี้แฟนของเพื่อนก็มานั่งเชียร์เต็มเลย พวกเราซ้อมกันประมาณชั่วโมงนึง พอมีกำลังหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ “ ไอ้ปกป้องวันนี้มึงเข้าผับป่าววะ” ไอ้ไดจิก็ถามซะ เหมือนกับผมเป็นหุ้นส่วนอย่างนั้นแหละ “ ไม่ได้เข้าอ่ะ วันนี้กูจะกลับบ้าน” พักนี้ผมไม่ค่อยได้กลับบ้าน ป๊าจึงให้น้องชายตัวแสบของผมโทรมาตาม “ เอองั้นกูไปก่อน” หลังจากนั้นผมก็กลับไปอาบน้ำที่คอนโด และเตรียมตัวกลับบ้าน “ พี่ปกป้องคะ” ผมถึงกับยืนอึ้ง เมื่อได้ยินเสียงหวานของใครเรียกผมจากทางด้านหลัง ในขณะที่ผมกำลังจะขึ้นรถ เตรียมขับกลับบ้าน “ พริ้มพลอย มาได้ไงครับ” ผมถามขึ้นเสียงดัง เธอรู้จักคอนโดผมได้ไงกัน “ พี่ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะว่าพริ้มมาได้ไง ทำไมพี่ไม่ตอบ LINE พริ้ม และพี่ก็ไม่อ่าน LINE ด้วย” เธอยืนกอดอกทำหน้างอ จนผมสำนึกผิดแทบไม่ทัน “ พี่ไม่ค่อยว่างจริงๆครับ อีกอย่างพี่ก็เรียนหนักมากด้วย เอางี้มั้ยเดี๋ยวพี่ไปเลี้ยงข้าว” พอได้ได้ยินผมพูดแบบนั้น เธอก็ยิ้มขึ้นมาหน่อย “ ตกลงค่ะ” และผมก็พาเธอไปเลี้ยงข้าว ก็แถวคอนโดผมนั่นแหละ เพราะผมยังต้องกลับบ้านอีกไปไหนไกลไม่ได้ “ อร่อยไหมครับ” เธอพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู ก็แบบนี้จะให้ผมทำร้ายเธอลงได้ไง รู้สึกเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวเสียมากกว่า “ ทีหลังไม่มาหาพี่ที่นี่แล้วนะครับ ขืนไอ้ภูมิรู้มันเอาพี่ตายแน่ มันหวงน้องสาวจะตายพริ้มก็รู้” ผมรีบอธิบายให้เธอฟัง ไม่อยากต้องไปมีปัญหากับเพื่อนทีหลัง “ เข้าใจค่ะ แต่ต่อไปถ้าพริ้มไลน์มาพี่ต้องรับ แต่ถ้าพี่ไม่รับ พริ้มก็จะมาหาพี่ที่คอนโดตกลงไหมคะ” น้องไอ้ภูมิ ก็ดื้อเหมือนไอ้ภูมิไม่มีผิด ผมต้องกุมขมับให้กับพี่ และก็ต้องกุมขมับให้กับน้องอีก เฮ้อ!! “ ตกลงครับต่อไปพี่จะอ่าน LINE ทุกวันและก็ตอบทุกวันด้วย” ผมไม่ค่อยอยากเข้าไปอ่านจริง รู้แหละว่าเธอ LINE มาทุกวัน แต่หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาทีหลัง “ งั้นพริ้มกลับนะคะ” ผมยืนรอจนเธอขึ้นแท็กซี่ไป และผมก็เดินมาที่รถตัวเอง และรีบขับกลับบ้าน เพราะตอนนี้ก็มืดมากแล้ว “ ป๊าม๊าสวัสดีครับ” พอกลับมาถึงบ้าน ป๊ากับม๊าก็นั่งดูทีวีรออยู่ที่ห้องรับแขก “ กลับมาได้ซักทีนะ ไปเรียนอะไรไม่คิดจะกลับบ้านเลย ได้ข่าวว่าเที่ยวหนักเหรอช่วงนี้” “ ม๊าไปฟังใครพูดมาครับ ผมเรียนหนักต่างหาก” และนี่ก็เป็นทีเด็ดของผม พอกลับมาถึงก็อ้อนให้หนักเลย กอดด้วยหอมด้วยจนแก้มม๊าช้ำไปหมดแล้ว ฟ้อด ฟ้อด ฟ้อด “ เลิกทำตัวเป็นเด็กซะป๊ามีธุระจะคุยด้วย ตามป๊าไปที่ห้องทำงาน ” แกล้งม๊าได้ไม่นาน ป๊าก็บอกให้ตามขึ้นไปที่ห้องทำงาน ใช่ครับอีกไม่นานเท่าไหร่ผมก็จะจบปีสี่แล้ว เตรียมออกมาช่วยงานป๊าอย่างเต็มตัว หลังจากนี้คงไม่มีเวลาเล่นแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD