“ป๊ามีอะไรครับ”
ผมเดินตามป๊ามาติดๆ ถ้าเป็นเรื่องงานป๊าจะจริงจังมาก
“มันมีบริษัทเปิดตัวใหม่ ชื่อบริษัทเมธากรุ๊บ
ตอนนี้เขากำลังตีตลาด แย่งลูกค้าของบริษัทเดิม เสนอราคาที่ถูกกว่าเกือบ20% ป๊าอยากให้แกรีบเข้ามาเรียนรู้งานที่บริษัท ไม่อย่างนั้นถ้าเจอตัดหน้าแบบนี้ บริษัทของเราอยู่ลำบากแน่”
ป๊าอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด
“ แล้วเขาจะเสนอราคาที่ถูกกว่าเราได้ยังไงครับ
ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ ”
ผมไม่เชื่อหรอกว่างานเหมือนกัน จะสามารถเหมาถูกกว่ากันได้ถึง 20% เรื่องนี้อาจไม่ชอบมาพากล คงต้องตามสืบอย่างละเอียด
“ ป๊าก็คิดแบบนั้นแหละ ถึงอยากให้แกเร่งเข้ามาดูแลงาน ลำพังตัวป๊าก็แก่แล้วอยากถ่ายทอดให้แกเรียนรู้ให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ยังไงถ้าช่วยกันคิดและวางแผน บริษัทของเราก็อาจจะไม่ต้องเจอวิกฤตในเวลาแบบนี้”
ดูป๊าหนักใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะมีคู่แข่งหน้าใหม่มาแรงแล้ว เขายังตัดราคาเจ้าอื่นอีก
ดูแล้วเรื่องนี่คงเป็นเรื่องใหญ่
“ ปีสี่แล้วก็ไม่มีอะไรครับป๊า เดี๋ยวผมจะเริ่มเข้ามาทำงานช่วยป๋าเลย แต่ก็คงจะยังไม่เต็มที่นัก
เพราะยังต้องเรียนบ้าง ”
พอได้ยินป๊าพูดแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากรีบเข้ามาช่วยดูแล เพราะไม่อยากให้ป๊าต้องเสียบริษัทที่สร้างมากับมือไป
“ป๊าฝากความหวังไว้กับแกนะ แกคือผู้บริหารคนต่อไปของบริษัทเรา อย่าทำให้ป๊าผิดหวังเข้าใจรึเปล่า”
ป๊าจับที่ไหล่ผมเบาๆ มองหน้าผมอย่างมีความหวัง
“ครับป๊า”
ผมรับปากป๊าอย่างเต็มใจ คงถึงเวลาที่ผมจะต้องจริงจังกับงานซักที
“เสร๊จธุระแล้วผมกลับเลยนะครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียน แต่จะพยายามเข้าบริษัทบ่อยๆ”
ป๊าพยักหน้าให้ผม และผมก็เดินลงมาหาม๊า
“เฮียหวัดดี ”
และนี่ก็คือน้องชายผมชื่อปริ้นซ์ กำลังจะจบม.6แล้ว
ขึ้นปี1ก็คงย้ายไปอยู่คอนโดกับผมนั่นแหละ
“อืม ทำไมพึ่งกลับ”
ดูจากลักษณะแล้วก็คงพึ่งกลับแหละ ชุดนักเรียนก็ยังไม่เปลี่ยนเลย
“ ซ้อมกีฬาทุกวันแหละเฮีย เดือนหน้าก็ได้ไปแข่งที่ต่างโรงเรียนแล้ว ทำชื่อเสียงซักหน่อยก่อนจบ”
น้องชายผมชอบเล่นกีฬามาก คงจะเหมือนผมนั่นแหละที่แต่ก่อนก็เป็นนักกีฬาของโรงเรียน แต่ตอนนี้ก็ยังเล่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก
“แล้วนี่จะไม่นอนกับม๊าซักคืนเหรอลูก”
ผมรีบนั่งลงข้างๆม๊า และก็กอดอ้อนม๊าอีกครั้ง
“ พอดีพรุ่งนี้ผมมีเรียนครับ แต่สัญญานะว่าจะกลับมาหาหาม๊าบ่อยๆ เพราะต่อไปคงเข้ามาช่วยป๊าดูแลงานที่บริษัท”
“จริงๆนะ ”
มือเล็กของผู้เป็นแม่ จับประคองที่แก้มของปกป้องเอาไว้
“ค้าบ ผมไม่โกหกม๊าหรอก รักม๊านะครับ”
จุ๊บ!!
“ รีบกลับเถอะลูกเดี๋ยวจะดึกเอา ขับรถดีๆนะม๊าเป็นห่วง”
รัศมีบอกลูกชายอย่างเป็นห่วง
“เฮียกลับแล้วนะ/ค้าบ”
ผมมุ่งหน้ากลับคอนโด เพราะพรุ่งนี้มีเรียนจริงๆไม่ได้โกหก แต่ก็คงต้องหาเวลาเข้ามาทำงาน
เพราะรับปากป๊าเอาไว้แล้ว
เมอร์เรนด้าคลับ
“ เดี๋ยววันนี้จุ๊บแจงกับผ้าแพร เข้าไปดูแลแขกที่ห้องvvip7นะ ทำงานกันให้เต็มที่ แขกห้องนี้กระเป๋าหนักมาก ”
ในขณะที่ผ้าแพรและคนอื่นๆ กำลังนั่งรอสแตนด์บายอยู่นั้น ผู้จัดการก็เดินเข้ามาบอกจุ๊บแจงกับผ้าแพร สองสาวโซนvipที่ดูโดดเด่นกว่าใคร
“ ผู้จัดการขา มะเหมี่ยวขอไปแทนผ้าแพรได้ไหมคะ ผ้าแพรเพิ่งขึ้นมาเมื่อวานเองวันนี้จะได้ดูแลห้องvvipแล้ว เป็นแบบนี้มะเหมี่ยวก็น้อยใจแย่สิคะ”
มะเหมี่ยวเด็กโซนvipเดิม ดูท่าจะไม่พอใจที่ผ้าแพรจะได้ดูแลแขกห้องvvip เพราะผ้าแพรเพิ่งย้ายขึ้นมาเพียงเมื่อวานนี้เอง
“เอ่อ ผู้จัดการคะให้พี่มะเหมี่ยวไปก็ได้ค่ะ เดี๋ยวแพรขอดูแลโซนvipก็ได้”
ใจจริงแล้วถึงจะอยากได้เงิน แต่ก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน อันที่จริงให้คนเก่าไปก็ถูกแล้ว
“ ผมไม่ได้เป็นคนเลือก แขกโน้นที่เป็นคนเลือก เราขัดใจแขกได้ด้วยเหรอ”
พอผู้จัดการพูดแบบนั้น ต่างคนก็ต่างเงียบไปไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ดูจากหน้าแล้วมะเหมี่ยวไม่พอใจผ้าแพเป็นอย่างมาก
“ฮึ่ย!!”
มะเหมี่ยวเดินสะบัดก้นกลับไปนั่งที่เดิม มองหน้าผ้าแพรอย่างไม่พอใจ
“ อย่าไปสนใจเลยนะผ้าแพร ตอนที่พี่ขึ้นมาใหม่ก็เป็นแบบนี้แหละ เราไม่ต้องไปเก็บมาใส่ใจนะ”
พอเดินออกมาจากห้องรับรอง จุ๊บแจงก็พูดให้กำลังใจผ้าแพร เหมือนกับว่าเรื่องนี้เธอก็เคยเจอมาก่อน
“ ขอบคุณนะคะพี่จุ๊บแจง ความจริงแล้วแพรไม่ได้อยากผิดใจกับใคร แค่อยากมาทำงานหาเงินแค่นั้นเองค่ะ ”
ผ้าแพรพูดกับจุ๊บแจงอย่างเป็นกังวล เพราะกลัวมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน
“ พี่จะบอกอะไรให้เราอย่างนะ อยู่วงการนี้ต้องเข้มแข็งเท่านั้นถึงจะรอด ถ้ามัวแต่อ่อนแอคนอื่นก็เอาเปรียบเราหมด จำคำพี่ไว้นะ”
ผ้าแพรพยักหน้ารับ อย่างน้อยก็ยังมีรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำที่ดี
“ค่ะพี่จุ๊บแจง”
เธอไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ผ่านมาเกือบหมดแล้ว แต่ในสถานการณ์บางอย่างที่ไม่เคยเจอ บางทีก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน
“ เตรียมตัวนะยิ้มสวยๆเข้าไว้”
พอเดินมาถึงห้องvvip7 จุ๊บแจงกับผ้าแพรก็เตรียมตัว เพราะด้านในคือแขกคนสำคัญ ที่จะต้องบริการให้ดีที่สุด
ก๊อกๆๆ
แอ้ด!!
เริ่มตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า ที่มีการ์ดยืนกันอยู่ถึงสี่ห้าคน คงจะเป็นคนใหญ่คนโตพอสมควร
“ สวัสดีค่ะเสี่ย”
เสียงหวานของจุ๊บแจง รีบไหว้เสี่ยที่นั่งอยู่ด้านในสามสี่คน
“เอ่อ สวัสดีค่ะเสี่ย”
แต่ผ้าแพรกลับดูกล้าๆกลัวกลัวอยู่ เสียงอาจจะไม่หวานเท่าจุ๊บแจง เพราะยังดูตื่นกลัวอยู่บ้าง
“ ว้าวคนนี้ถูกใจเสี่ยเลย มานั่งข้างเสี่ยนี่มา”
หนึ่งในแขกห้องvvip เรียกให้ผ้าแพรไปนั่งข้างๆ
ผ้าแพรก็เดินไปนั่งอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นเธอก็โดนรวบเอวเล็กเข้าไปกอดทันที จนเธอสะดุ้งโหยง เพราะมือหยาบยังบีบเบาๆที่เอวเล็กอีกด้วย พอจุ๊บแจงเห็นท่าทีของผ้าแพร เลยส่งสัญญาณให้อยู่เฉยไว้ก่อน
“เอ่อ เสี่ยขาเสี่ยดื่มแบบไหนคะ เดี๋ยวจุ๊บแจงชงให้”
เสียงหวานของจุ๊บแจงเจื้อยแจ้วเอาใจแขก
“ หนูมาใหม่หรอ ทำไมเสี่ยไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เสี่ยคนที่กอดเอวผ้าแพร ถามเธอเพียงแผ่วเบา
พร้อมสูดดมที่ไหล่เล็กของเธอเบาๆไปด้วย จนเธอนึกรังเกียจจนอยากจะร้องไห้
“ค่ะหนูพึ่งมาใหม่ ขอร้องเสี่ยอย่ารุกหนักนะคะ หนูกลัว”
ผ้าแพรตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งกลัวทั้งรังเกียจจริง
“ เสี่ยขาน้องยังใหม่อยู่ เสี่ยใจเย็นๆนะคะให้น้องได้ปรับตัวก่อน”
และจุ๊บแจงก็ช่วยพูดอีกที
“คุณเมธาใจเย็นๆสิครับ ดูสิเด็กตกใจหมดแล้ว”
พอได้ยินชื่อของไอ้เสี่ยนี่ ผ้าแพรก็ใจกระตุกวูบ
รีบมองหน้าเขาให้ชัดๆ
“มีอะไรหืม มองหน้าเสี่ยแบบนี้ อยากได้อะไร”
จุ๊บ!!
และไอ้เสี่ยหื่นนี่ มันก็ยังพยายามจุ๊บที่ไหล่เล็กของเธออีกหลายที
“เปล่าหรอกค่ะ แพรแค่จะถามเสี่ยว่า เสียจะดื่มแบบไหนคะแพรจะได้ชงให้ถูก”
เมื่อความรู้สึกนึกคิดเริ่มกลับมา ผ้าแพรก็คิดได้
ว่าควรจะทำตัวยังไงให้มีประโยชน์มากที่สุด
“ เสี่ยชอบกินเพียวๆ ไม่ต้องผสมอะไรมาเลย”
ผ้าแพรจัดให้ เทเหล้าเพียวๆให้เสี่ยเมธาดื่ม
“ แล้ววันนี้เสี่ยฉลองเนื่องในวันอะไรคะ”
ผ้าแพรเริ่มชวนคุย เพราะเริ่มอยากรู้จักเสี่ยเมธามากขึ้น
“ ก็เสี่ยประมูลงานได้นะน่ะสิ งานราคาเป็นพันล้าน จบงานนี้กำไรมหาศาลเลยนะรู้รึเปล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า/ฮ่า ฮ่า”
และพวกเสี่ยก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“โอโห!!สงสัยคืนนี้ หนูสองคนคงได้ทิปเยอะแน่ๆ”
จุ๊บแจงพูดขึ้นอย่างเอาใจ ส่งยิ้มยั่วไอ้พวกเสี่ยแก่หื่นกามไปทั้งโต๊ะ
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว แค่วันนี้หนูน่ารักกับเสี่ย
อยากได้เท่าไร แค่บอกเสี่ยมา”
เสี่ยหื่นบอกจุ๊บแจง พร้อมกอดเอวเล็กเอาไว้แน่น
“วันนี้คุณยุทธกระเป๋าหนักอยู่แล้ว เพราะพึ่งเบิกค่างานงวดแรกมา หนูสองคนไม่ต้องกลัวนะ”
และอีกคนในกลุ่มก็พูดขึ้น
“หนูหละอยากได้เท่าไหร่ ยังเรียนอยู่รึเปล่า
สนใจไปคอยดูแลเสี่ยที่คอนโดไหม”
เสี่ยเมธาหันมาสนใจผ้าแพรบ้าง หลังจากที่ฟังคนอื่นเมาท์กันไปมาอยู่นาน
“เรียนค่ะเสี่ย แต่หนูกลัวมีปัญหากับที่บ้านเสี่ย
หนูคอยดูแลเสี่ยที่นี่จะสะดวกกว่าค่ะ แค่เสี่ยมาหาหนูที่นี่บ่อยๆก็พอ”
ผ้าแพรพยายามบ่ายเบี่ยง เพราะดูแล้วเสี่ยเมธาดูจะพูดจริง