บทที่10 ไม่ทิ้งลายเสือ

1559 Words
เพียงดาราหูอื้อตาลาย เมื่อถูกริมฝีปากร้อนระอุฉกจูบปิดปากอวดดีของเธอ สัมผัสอ่อนโยนนุ่มนวลด้วยความต้องการมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อครั้งก่อน เขาต้องสั่งสอนจูบแม่ของลูกที่ยังยอกย้อน ปากเก่ง เถียงคำไม่ตกฟากอย่างไม่เกรงกลัว ผู้หญิงบอบบางตัวเล็กๆ กลับใจเด็ดเดี่ยว เข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ “อื้อ หวาน หวานมาก” ทนความปรารถนาตัวเองที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยไม่ไหว เขาก้มลงฟอนเฟ้นทรวงอกสูดดมกลิ่นหอมหวานโดยมีเนื้อผ้าเบาบางกั้นกลางขวางเอาไว้ “คุณปรเมศ ที่นี่มันโรงพยาบาลนะคะ คุณหยุดก่อนเถอะค่ะ แพรอายคนอื่นเขา” หญิงสาวพยายามผลักห่างจากคนตัวโต ความรู้สึกวาบหวามยังซาบซ่านไม่ลืม “แต่ฉันอยากให้เธอเรียกชื่อเล่นของฉันนะ คุณเมศเป็นยังไงล่ะ” ร่างสูงใหญ่ตัดสินใจจากร่างหอมหวานทำเอาเขาแทบคลั่งตลอดเวลา รอให้พ้นคืนนี้ก่อน เขาจะทบต้นทบดอกให้สาสมที่เธอสวยงามมากเกินไป “แพรว่าเรียกคุณว่าท่านรองประธานดีกว่าค่ะ อย่าลืมว่าแพรเข้ามาทำงานให้คุณในฐานะเลขาคนสนิทของท่านรองประธาน” เพียงดาราไม่อยากมีเรื่องคู่หมั้นคนสวยที่พร้อมจิกกัดเธออยู่เรื่อย ถ้าไม่เอาตัวใกล้ชิดชายหนุ่มมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง “อยากเรียกแบบนั้นก็ตามใจ แต่เวลาเธออยู่กับฉันเพียงสองคน เธอต้องเรียกฉันว่าคุณเมศหรือพี่เมศ ตกลงตามนั้น เอาไว้ให้ลูกของเราหายป่วยเมื่อไหร่ ฉันจะรับเธอกับลูกย้ายไปอยู่ที่คอนโดของฉัน” ฝ่ามือหนาจับกลีบปากอวบอิ่มน่าจูบไกล่เกลี่ยมันเบาๆ ด้วยความเสน่หาในตัวเธอ “ถ้าแพรกับลูกย้ายไปอยู่กับคุณ...คุณเมศ แล้วแม่ของแพรล่ะคะ แพรไม่อยากเป็นลูกอกตัญญูทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียวได้หรอก” อีกอย่างเจนนิตาป่วยเป็นโรคประจำตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใครจะดูแลท่านได้ดีมากกว่าเธอที่เป็นลูกสาว “ถ้าเธอเป็นห่วงแม่ของเธอมาก ฉันจะให้แม่เธอไปอยู่ด้วยกัน ดีซะอีกแม่เธอจะได้ช่วยเลี้ยงออกัส ระหว่างที่ฉันและเธอออกไปทำงานช่วงตอนกลางวัน เธอว่าดีมั้ย” ปรเมศยื่นข้อเสนอแก่แม่ของลูก คราวนี้เธอหนีไม่ไหนไม่รอด เขาทำให้หญิงสาวมาอยู่ข้างกายและตักตวงความหวานเต็มที่จนกว่าจะเบื่อ “อันนี้แพรขอไปคุยกับแม่ของแพรก่อนนะคะว่าท่านจะยอมไปอยู่ด้วยหรือเปล่า” “ฉันเกเรกับงานหลายชั่วโมง ป่านนี้พ่อฉันคงเป็นห่วงแย่ ฉันขอตัวไปสะสางงานที่ค้างคาอยู่แล้วกัน เสร็จงานตอนเย็นแล้วฉันจะรีบมาหาลูก วันนี้ฉันให้เธอพักหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานวันแรก” ปรเมศกำลังหมุนตัวออกจากร่างหอมหวานก่อนนึกขึ้นอะไรออกได้พลางหันกลับมาบอกเลขาสาวคนสนิท “ฉันให้ธาวิน ลูกน้องของฉันซื้อเสื้อผ้าตัวทำงานชุดใหม่และชุดลำลองแก่เธอ แต่ตอนนี้ฉันจะให้ธาวินเหมาเสื้อผ้าเด็กแก่ลูกชายฉันด้วยดีกว่า เดี๋ยวตอนเย็นธาวินคงมาส่งที่โรงพยาบาล อย่าปฏิเสธความหวังดีของฉัน แพร” สั่งการเลขาสาวคนใหม่เสร็จสรรพก่อนเดินออกจากโรงพยาบาลเอกชนปล่อยให้หญิงสาวยืนอึ้งหลายนาทีกับความเปลี่ยนแปลงของรองประธานหนุ่ม ฉายาเสือผู้หญิง “ตั้งสติหน่อยยัยแพร เขาทำทั้งหมดก็เพราะลูกของเขา เขาไม่ปล่อยให้ลูกตกลำบากหรอก ระหว่างเขากับแพรเป็นได้แค่พ่อกับแม่ออกัสเท่านั้น” เพียงดาราทาบอกตัวเองข้างซ้าย ฟังเสียงหัวใจเต้นแรงระรัวไม่เป็นจังหวะ เธอพยายามห้ามใจไม่ให้หลงรักผู้ชายที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตน __________ ปรเมศสั่งการให้ธาวินจัดการตามที่สั่งเหมาชุดเด็กชาย ก่อนจัดแจงเสื้อผ้าตัวเองเข้าที่เรียบร้อยก้าวเดินมายังบริษัทสกุลเรวัติ รองประธานหนุ่มขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารสูงสุดตามเลขาประธานมาริคแจ้งว่าต้องการพบเขาด่วน ชายหนุ่มคิดว่าคงไม่พ้นเรื่องที่เขาหายไปกับเลขาคนใหม่ของตัวเอง กิ่งพยอมฟ้องบิดาว่าเกิดอะไรขึ้นสิท่า “คุณพ่อ ผมขอโทษที่ออกไปโดยไม่ได้บอกก่อน คุณพ่อจะลงโทษผมยังไงก็ได้นะครับ ผมยินดี” ปรเมศน้อมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เขาไม่โทษว่าเป็นความผิดของคู่หมั้นสาวขี้ฟ้อง “หนูกิ่งเล่าให้พ่อฟังหมดแล้วว่าลูกรับเลขาคนใหม่เข้ามาสอบสัมภาษณ์งาน พ่อไม่รู้ว่าเพราะอะไรลูกถึงได้เกเรงานหลายชั่วโมง แต่พ่อจะบอกให้รู้ไว้ว่าอีกไม่นานลูกกำลังจะได้เป็นประธานบริษัท เพราะพ่อกับพศินให้คนหาฤกษ์แต่งงานลูกกับหนูกิ่งเรียบร้อย ฤกษ์เร็วที่สุดคือเดือนหน้า” มาริคต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกชายคนโต ลูกๆ สี่คนไม่ห่วง เพราะเขากับบัวหอมไม่ยุ่งก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของลูกๆ แต่ยกเว้นปรเมศที่เป็นลูกชายคนโตต้องหาคนเหมาะสมและหนูกิ่งคือคนเดียวเหมาะทั้งฐานะและชาติตระกูล อีกอย่างปรเมศรักเอ็นดูคู่หมั้นตัวเองไม่น้อย “ผมว่าคนที่พ่อต้องห่วงมากที่สุดคือน้องวีร์นะครับ คนนั้นเอาแต่ใจตัวเอง นอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า รักสนุก ผมว่าสักวันหนึ่งน้องชายผมจะทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบ พ่อก็รู้ว่าปรวีร์เป็นเหมือนใคร” “ลูกไม่ต้องเป็นห่วงไอ้น้องชายไม่รักดีหรอก เรื่องนั้นพ่อกับแม่มีวิธีรับมือลูกชายหัวดื้อรั้นแล้ว ที่พ่อเรียกลูกมาที่นี่ก็เพื่อจะบอกว่าหุ้นส่วนรายใหม่กำลังจะมาร่วมหุ้นกับเรา ในฐานะที่ลูกกำลังจะขึ้นเป็นประธานแทนพ่อ พ่ออยากให้เราไปด้วย” มาริครู้ว่าลูกชายคนโตเอ่ยเหน็บแหนมพาดพิงถึงตัวเองตอนสมัยหนุ่มๆ หวังว่าปรวีร์คงไม่ทำให้ผู้หญิงตนรักต้องเสียน้ำตาตามรอยคนเป็นพ่อหรอก “ครับคุณพ่อ” ปรเมศพยักหน้ารับคำบิดาเบาๆ สีหน้าเคร่งเครียดหนักกับคำพูดเร่งรัดให้แต่งงานกับคู่หมั้นที่ไม่ได้รัก แล้วไหนจะเรื่องลูกชายวัยสี่ขวบเพิ่งรับรู้ว่ามีโดยเจ้าตัวไม่ทันตั้งรับ ไม่ได้รักคู่หมั้น แล้วเขารักใคร? รักแม่ของลูกอย่างนั้นหรือ รองประธานหนุ่มสลัดความคิดตัวเองเผลอนึกถึงความหวานจากปากนุ่มที่ลิ้มลอง ใบหน้าหวานของเพียงดาราลอยเข้ามาในหัวทำเอาเขาสถบออกมาเล็กน้อยอย่างอารมณ์เสียที่ห้องไม่มีใคร “ทำไมแกต้องไปนึกถึงแม่ของลูกด้วย แกเป็นบ้าหรือเปล่าวะไอ้เมศ เธอเห็นแก่เงิน เอาตัวเข้าแลกเพื่อเงิน ให้สิทธิ์แม่ของลูก ฉันก็ใจดีมากพอแล้ว” _________ รองประธานปรเมศและประธานมาริคเข้าร่วมประชุมต้อนรับหุ้นส่วนคนใหม่จากต่างประเทศที่จะร่วมลงทุน มาร์ติน มิเกล บรูซ นักธุรกิจวัยห้าสิบสี่พร้อมพาลูกสาวเพียงคนเดียววัยยี่สิบหกปีกำลังขึ้นบริหารแทนบิดาบังเกิดเกล้าแท้ๆ “ผมในฐานะเจ้าของบริษัทสกุลเรวัติยินดีต้อนรับท่านมาร์ตินมาเป็นหนึ่งในบริษัทของเรา นี่ปรเมศ ลูกชายคนโตของผม อนาคตเป็นประธานบริษัทคนต่อไปจากผมครับ” มาริคเอ่ยแนะนำตัวลูกชายคนโตแก่หุ้นส่วนคนสำคัญร่วมมือกันภายภาคหน้าอันใกล้ “สวัสดีครับท่านมาร์ติน บริษัทสกุลเรวัติยินดีอย่างยิ่ง ผมดีใจมากที่ท่านตัดสินใจมาร่วมหุ้นกับเรา” ปรเมศยื่นมือแก่หุ้นส่วนรายใหญ่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ “ผมได้ยินข่าวว่าลูกชายคนโตคุณมาริคมีคู่หมั้น กำลังจะแต่งงานเร็วๆ นี้ น่าเสียดายนะครับ ผมอุตส่าห์พาลูกสาวคนเดียวว่าจะแนะนำตัวให้รู้จักกันเอาไว้” “ไม่เป็นไรนี่ครับท่าน ผมยังมีลูกชายที่โสดสนิทเหลืออีกสองคน พอถึงตอนนั้นก็คงไม่สาย” มาริคเอ่ยแก่หุ้นส่วนรายใหญ่แก้สถานการณ์เอาหน้าก่อน เรื่องส่วนตัวให้ลูกๆ เป็นคนตัดสินใจเลือกคู่ครองกันเองดีกว่า “ใบชา เข้ามาหาพ่อสิลูก” ร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่ก้าวเดินเข้ามา ความสวยงดงามปรากฎต่อหน้าพวกผู้ชายหลายคนใจเต้นกันเลยทีเดียว ยกเว้นปรเมศทำหน้าตานิ่งเรียบเฉย สายตาหวานสะดุดร่างสูงใหญ่ทำตัวเย่อหยิ่ง ไม่มองเธอสักนิด ผู้ชายคนนั้นเป็นทายาทคนโตของเจ้าของบริษัทใหญ่โต ยิ่งทำให้เกิดความท้าทายในตัวหญิงสาวมากกว่าเดิม “นี่คือลูกสาวคนเดียวของผม ชนัญชิดา” มาร์ติน มิเกล บรูซ เอ่ยแนะนำลูกสาวแก่รองประธานหนุ่มหล่อเหลาให้รู้จัก “สวัสดีค่ะคุณปรเมศ คุณมาริค ชนัญชิดาหรือคุณปรเมศจะเรียกว่าใบชาก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ฝ่ามือเรียวสวยยื่นตรงหน้ารองประธานหนุ่มอย่างสนใจในตัวเขา ไม่ทันปรเมศจะยื่นมือแกร่งเข้าไปจับเป็นการทักทายตามธรรมเนียมของที่โน้นกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น “โอ๊ย!” “หนูใบชา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD