ตอนที่ 7 สงสัย

1193 Words
ขณะที่คุณชายกำลังยืนแอบมองแม่นมและพ่อบ้านหนุ่มสวมกอดกันร่ำไห้อยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา "แม่นมครับ!!” ทำให้คนทั้งสามตกใจหันมามองทางหน้าประตูห้องครัวพร้อมกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ "คุณชาย!!" แม่นมและพ่อบ้านหนุ่มร้องเรียกเขาแทบจะพร้อมกัน ทำให้ไมล์มีสีหน้าตื่นตกใจแต่ต้องรักษามาดของความเป็นคุณชายไว้ รีบเอื้อมมือคว้าหยิบแก้วน้ำชาที่วางอยู่ใกล้มือตรงทางเข้าห้องมาถือด้วยความไว แต่ก็ไม่ไวกว่าสายตาของทั้งคู่ไปได้ "คุณชาย ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ" "ผมว่าถามลุงคนขับรถดีกว่านะครับ ว่ามีเรื่องอะไรถึงเข้ามาถึงห้องครัวแบบนี้ ว่าไงครับลุง?" นับเป็นการดึงความสนใจของคนสองวัยได้เป็นอย่างดี "มีอะไรหรือจ๊ะพี่แช่ม" "คือตอนนี้ที่หน้าบ้านมีทหารจำนวนมากมายืนออ เพื่อขอพบพ่อบ้านครับแม่นม" พ่อบ้านหนุ่มได้ฟังถึงกับมีอาการตกใจตาโต "ทหารหรอครับ!?” ทันทีที่ปาร์วีนถามจบก็รีบวิ่งออกไปยังหน้าแบบไม่คิดชีวิต ทำให้ทุกคนดูตกใจกับพฤติกรรมก่อนจะเดินตามออกไปที่หน้าบ้าน เมื่อพ่อบ้านหนุ่มวิ่งมาถึงหน้าบ้าน ยิ่งทำให้เขาตกใจมากขึ้น ซึ่งเขาจำหัวหน้าองครักษ์และแม่นมผู้เป็นที่รักของเขาได้ดี "ท่านชายของนม" "แม่นม!" คนทั้งสองเข้าสวมกอดกันอย่างดีใจ "มากันได้ยังไงครับ" "คุณผู้ชายคนที่ท่านชายเคยไปทำงานด้วยบอกมาค่ะ วันนี้เขาก็มาด้วย นั่นไงคะ" หญิงชราชี้ไปทางนายใหญ่ของบ้านที่เขาเพิ่งลาออกมาได้ไม่กี่วัน "สวัสดีครับนาย" ชายกลางคนรีบเดินเข้าไปจับมือของพ่อบ้านหนุ่มที่กำลังประนมมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อมก่อนที่เขาจะนั่งคุกเข่าลงไปกับพื้น "อย่าทำแบบนี้เลยครับท่านชาย ผมไม่อาจรับการไหว้จากท่านชายได้ครับ" พ่อบ้านหนุ่มประคองนายเก่าของเขาให้ลุกขึ้นก่อนที่จะมีใครในบ้านออกมาเห็น "เอาละ ถ้าอย่างนั้นเราขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม ช่วยทำตัวเป็นปกติกับเราเหมือนเราเป็นลูกเป็นหลานเท่านั้นก็พอ จะได้ไหม? ถือว่าเราขอร้อง.." "ท่านชายคะ แต่นมว่าการทำแบบนั้นเป็นการหมิ่นเกียรติของราชสกุลนะคะ พวกเราทำไม่ได้หรอกค่ะ เหลืออีกไม่ถึงปีท่านชายก็ต้องกลับไปดำรงตำแหน่งท่านชายผู้สูงเกียรติตามเดิมแล้วนะคะ พวกเรามาที่นี่เพื่อจะเชิญท่านชายกลับไปกับพวกเราค่ะ" "ทำไมหรอ ที่วังยังมีท่านน้าอยู่นี่ นมจะให้เรากลับไปทำไม?" "ท่านหญิงสิ้นด้วยโรคประจำตัวแล้วค่ะ นมทราบข่าวเมื่อวานเลยพาองครักษ์มารับท่านชายกลับวังค่ะ เพราะตอนนี้ราชสกุลของท่านชายก็เหลือเพียงท่านชายเพียงคนเดียวค่ะ" "โธ่ ท่านน้า ไม่น่าด่วนจากไปแบบนี้เลย ถึงท่านน้าจะทำไม่ดีกับเราไว้มากเพียงใด แต่เราก็ให้ท่านน้าอภัยนะ เพราะถึงอย่างน้อยท่านน้าก็เป็นน้องแท้ๆ ของท่านแม่เรา ตกลงเราต้องไปจริงๆ หรอเนี่ยแม่นม?..." พ่อบ้านหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก "จริงค่ะ ตามพินัยกรรมท่านหญิงดวงดารากล่าวว่า ให้ท่านชายสืบราชสกุลได้ก็ต่อเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือเกิดเหตุจำเป็นนั่นคือ ท่านหญิงดวงรัศมีสิ้นเท่านั้นค่ะ" ขณะที่แม่นมกำลังกล่าวกับท่านชายอันเป็นที่รัก คนในบ้านใหญ่ได้ออกมาได้ยินเรื่องราวพอดีแต่ยังไม่เข้าใจมากนัก "พวกคุณเป็นใครกันแน่ ถึงมาพูดจาแปลกๆ กับพ่อบ้านของผม!" คุณชายกล่าวพร้อมเดินเข้ามากอดคอพ่อบ้านหนุ่มอย่างสนิทสนม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หัวหน้าองครักษ์เข้าจับตัวคุณชายที่ไม่ทันตั้งตัวกดลงนั่งคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าทุกคน "นี่พวกคุณกำลังทำอะไรคุณชายคะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" เสียงทรงอำนาจของแม่นมคุณชายไมล์ร้องถามขึ้นกับการกระทำของหัวหน้าองครักษ์ "เขาบังอาจเสียมารยาทกับท่านชายปริ้นซ์ ปาร์วีน ราชสกุลแห่งวังพงศ์เจริญ" "ท่านชาย!!” แม่นมประจำบ้านคุณชายไมล์อุทานอย่างตกใจ "ปล่อยเขาก่อนเถอะ เราขอ" "แต่เขากำลังล่วงเกินเกียรติของท่านชายอยู่นะครับ" "ปล่อยเถอะ!" ท่านชายปริ้นซ์ยกมือห้าม ก่อนที่หัวหน้าองครักษ์จะปล่อยตัวคุณชายไมล์ตามคำสั่ง "ตกลงเราต้องไปตอนนี้เลยใช่ไหมแม่นม?" "ใช่ค่ะ" สิ้นคำตอบจากหญิงชรา ท่านชายปริ้นซ์ก็เดินไปสวมกอดแม่นมประจำบ้านคุณชายไมล์ด้วยน้ำตานองหน้าอีกครั้ง "แม่นมผมต้องไปแล้วนะ รักษาสุขภาพให้ดีนะครับ ผมรักแม่นมนะครับ หากมีโอกาสผมจะกลับมาหาใหม่" ท่านชายกล่าวกับแม่นมโดยไม่เว้นช่องไฟให้แม่นมได้กล่าวอะไรกลับเลย แล้วค่อยๆ ปล่อยวงแขนจากตัวแม่นมที่ใบหน้ากำลังมีคำถามมากมายแต่ไม่มีโอกาสได้ถาม ท่านชายปริ้นซ์เดินเข้าหาคุณชายไมล์ก่อนจะจับมือทั้งสองขึ้นมาถือไว้ "คุณชายผมต้องไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆ อย่าดื้อ อย่าเอาแต่ใจมากเกินไป สงสารแม่นมบ้างนะครับ ผมไปละ!!" ท่านชายปล่อยมือของอีกฝ่ายลง แล้วเดินไปยังรถลีมูซีนคันงามที่จอดอยู่หน้าบ้าน โดยมีหัวหน้าองครักษ์เปิดและปิดประตูรถให้ก่อนจะโค้งคำนับคนในรถและแม่นมของท่านชายได้เดินอ้อมรถคันงามไปอีกด้านหนึ่งแล้วโค้งคำนับก่อนจะเปิดรถขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ จากนั้นรถคันงามก็ได้เคลื่อนตัวออกไปโดยมีรถยนต์อีกหลายคันขับตามเป็นขบวนได้สร้างความแปลกใจและสงสัยแก่คนทั้งสามที่ยืนมองอยู่หน้าบ้านเป็นตาเดียว    "ท่านชายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เห็นหันไปมองคนเหล่านั้นตลอดที่ออกมาจากบ้านหลังนั้น" "เรารู้สึกว่ามันกระชั้นชิดจนเราตั้งตัวไม่ทันน่ะแม่นม เลยทำให้รู้สึกใจหายแปลกๆ" "ท่านชายคะ ท่านชายคงมีความผูกพันกับคนเหล่านั้นไม่น้อย โดยเฉพาะพ่อหนุ่มคนนั้น" "อย่าเรียกเขาแบบนั้นนะครับ เขาเป็นถึงคุณชาย" "ขออภัยค่ะ แต่ด้วยเกียรติและราชสกุล ท่านชายมีบรรดาศักดิ์ที่สูงกว่ามากนะคะ" "เรารู้ แต่ถ้าไม่ได้เขาเราก็คงไม่มีงานทำ" ท่านชายกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความอาลัยและห่วงหาจนแม่นมล่วงรู้ในความรู้สึกลึกๆ ของท่านชายได้ "ท่านชายพึงใจในชายผู้นั้นใช่ไหมคะ?" "แม่นมรู้ แต่ถึงยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี เราเข้าใจ" ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศภายในรถคันงาม ตลอดเส้นทางการเดินทางสู่วังพงศ์เจริญ ทิ้งไว้แต่เพียงความแปลกใจและความสงสัยในใจของคุณชายไมล์ที่ยังคงยืนนิ่งมองทางที่รถคันงามขับจากไปด้วยแววตาอาลัยอยู่นาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD