@ 3 วันต่อมา
เช้านี้แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านสีขาวครีมอ่อน สะท้อนเข้ามาในห้องอย่างอ่อนโยน กลิ่นแดดยามเช้าเจือกลิ่นผ้าห่มที่ซักใหม่อบอวลในอากาศ เงียบเกินไปสำหรับวันสอบวันแรก เสียงเคาะประตูห้องเบา ๆ ดังขึ้นสองสามที ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุ้มต่ำของคนที่เจ้าของห้องรู้ดีว่าเป็นใคร
"มีน..ตื่นได้แล้ว สายแล้ว"
เสียงเรียกยังไม่ดังนัก แต่พอผ่านไปไม่กี่วินาที เสียงเริ่มจริงจังขึ้น
"มีน..!"
ร่างที่นอนขดตัวใต้ผ้าห่มผืนหนาได้แต่ขยับพลิกตัวเล็กน้อย ใบหน้าแนบหมอนอย่างเหนื่อยอ่อน ริมฝีปากขยับตอบเบา ๆ ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา
"อื้อ ~"
เสียงนั้นฟังดูแผ่วเบาและเจือความทรมาน ปืนขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินเข้ามายืนข้างเตียง มองดูสภาพของเพื่อนสนิทที่ยังไม่ขยับตัวขึ้นจากเตียงด้วยความสงสัย
"ไปอาบน้ำ..มึงไม่ไปเรียนรึไง จะแปดโมงแล้วนะ.."
เขาก้มลงมองใบหน้าซีดเซียวของอีกฝ่าย มีนยังคงหลับตา มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้องแน่น สีหน้าแสดงความปวดร้าวชัดเจน
"ปืน..วันนี้มึงไปคนเดียวนะ กูไม่ไหว ฝากลาอาจารย์ให้ด้วย"
เสียงตอบกลับเบาและเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด ปืนมองใบหน้าเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ใช้มือแตะหน้าผากเธอเบา ๆ แววตาฉายชัดถึงความกังวล
"เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ.."
มืออุ่นของเขาแนบลงบนหน้าผากเล็กที่ยังเย็นปกติ ไม่มีไข้ แต่สีหน้าซีดเซียวและร่างที่ดูหมดแรงทำให้เขาไม่วางใจ เขาสังเกตว่ามีนกำลังข่มความเจ็บอยู่ ทั้งสายตาและท่าทางบอกได้โดยไม่ต้องพูด
"เปล่า..เรื่องของผู้หญิงน่ะ.."
เสียงตอบกลับเบาอย่างคนที่ไม่อยากพูดมาก แต่ปืนก็เดาได้ทันที
"เป็นเมนเหรอ.."
คำถามนั้นมาพร้อมแววตาเข้าใจและเห็นใจ
"อืม..."
"ปวดท้องเมน ?"
"เออ..!"
เสียงตอบนั้นห้วนขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ไม่ได้แฝงความหงุดหงิด มีเพียงความเหนื่อยและเจ็บที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียง ปืนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ราวกับได้รับคำสั่งบางอย่าง
"งั้นมึงก็นอนพักอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวกูไปเอาถุงน้ำร้อนมาให้..แล้วเช้านี้ อยากกินอะไร เอาโจ๊กไหม..?"
น้ำเสียงของเขาฟังดูมั่นคง อ่อนโยนแบบที่ไม่ต้องประดิษฐ์ ราวกับคุ้นเคยกับการดูแลเธอในสภาพนี้มานับไม่ถ้วน
"มึงไปเรียนเถอะ มันสายแล้ว เดี๋ยวกูจัดการเอง"
มีนพยายามจะยกมือดันเขาเบา ๆ อย่างคนที่ไม่อยากรบกวน แต่ร่างกายก็แทบไม่มีแรงจะขยับจริง ๆ ปืนยืนกอดอกมองเธออย่างไม่ยอม
"มึงจะเอาแรงที่ไหนมาจัดการ ดูหน้าตัวเองก่อนไหม สภาพอย่างกับศพเดินได้..หน้าซีดขนาดนี้"
คำพูดของเขาแม้จะฟังดูตรงไปตรงมา แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความห่วงใยล้นทะลัก มีนหันหน้าหนี ไม่อยากให้เขาเห็นแววตาอ่อนแอของเธอในตอนนี้
"แต่วันนี้มีสอบนะ"
น้ำเสียงของเธอยังยืนยันเบา ๆ แต่ปืนกลับถอนหายใจแล้วนั่งลงข้างเธออีกครั้ง
"เดี๋ยวกูค่อยไปขอสอบทีหลังพร้อมมึงก็ได้.."
สายตาของเขาจริงจังจนเธอเถียงไม่ออก น้ำเสียงนั้นไม่ยอมให้เธอปฏิเสธด้วยซ้ำ
"ว่ามา อยากกินอะไร หืม.."
มือของเขายื่นไปลูบเส้นผมเธอเบา ๆ อย่างปลอบโยน มีนหลับตาลงนิดหนึ่ง สูดลมหายใจเข้าช้า ๆ เพื่อกดอาการเจ็บไว้ แม้จะพยายามเข้มแข็ง แต่เธอก็อดรู้สึกอบอุ่นไม่ได้
"เอาข้าวต้มแล้วกัน..กูไม่ค่อยอยากกินโจ๊กเท่าไหร่"
เสียงเธอแผ่วเบา แต่แฝงความวางใจอย่างชัดเจน ปืนพยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจ
"อืม...งั้นมึงนอนรออยู่นี่ เดี๋ยวกูไปซื้อร้านหน้าคอนโดที่มึงชอบ.."
เขาลูบผมเธออีกครั้งเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าเงิน มีนหันมองแผ่นหลังเขาอย่างเงียบ ๆ ความอบอุ่นค่อย ๆ แทรกซึมในใจ
"ขอบใจนะ.."
เสียงของเธอแผ่วเบา แต่จริงใจและสั่นนิด ๆ อย่างคนที่กำลังฝืนกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
"..นอนได้แล้ว..เดี๋ยวถึงเวลากูมาปลุก"
เขาหันมายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูห้องออกไปอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้เธอกลับเข้าสู่ความสงบในห้องอีกครั้ง
บรรยากาศค่อย ๆ กลับมาเงียบ มีเพียงเสียงแอร์เบา ๆ กับกลิ่นสบู่จากเสื้อของเขาที่ยังหลงเหลืออยู่ข้างหมอนข้าง มีนหลับตาลงช้า ๆ ยกมือวางทาบที่หน้าท้อง พร้อมกับนึกถึงคำพูดและการกระทำของเขา มันก็แบบนี้แหละ ทุกครั้งที่ฉันป่วย มันจะคอยดูแลฉันตลอด เพื่อนคนอื่นก็มีบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่ามัน มันอยู่กับฉันแทบจะตลอดเวลา คนอื่นที่ไม่รู้ว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน มักจะคิดว่าฉันกับมันเป็นผัวเมียกันซะมากกว่า...ก็มันเล่นไม่ยอมกลับห้องตัวเอง ทั้งที่อยู่ถัดจากห้องฉันแค่ไม่กี่ชั้น..
@20 นาทีต่อมา
บรรยากาศในห้องเงียบสงบ มีเพียงเสียงแอร์ที่พัดเบา ๆ คล้ายปลอบโยน ร่างบางนอนนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่มสีอ่อน ใบหน้าแม้จะยังซีด แต่ดูอ่อนแรงน้อยกว่าก่อนหน้านี้
เสียงประตูห้องเปิดออกเบา ๆ ก่อนที่ร่างสูงของปืนจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมถุงข้าวต้มร้อน ๆ และถุงน้ำร้อนในมือ เขาค่อย ๆ วางของทุกอย่างไว้ข้างเตียง สายตามองสำรวจเธออย่างห่วงใย ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ
น้ำเสียงทุ้มของเขาดังขึ้นเบา ๆ คล้ายกระซิบ
"ดีขึ้นไหม.."
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยมองใบหน้าของมีนอย่างจริงใจ ดวงตาของเขาฉายความห่วงใยออกมาชัดเจน
"อืม.."
เสียงตอบของมีนเบาแผ่ว แต่แววตาที่เคยมืดมนเมื่อเช้ากลับดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย เธอไม่หลบสายตาเขาเหมือนก่อนหน้านี้ แม้จะยังดูอ่อนล้าอยู่ก็ตาม
"แล้วยังปวดอยู่รึเปล่า.."
เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้อีกนิด ใบหน้าเต็มไปด้วยความใส่ใจ เธอขยับตัวเล็กน้อย พลิกตัวเบา ๆ ให้สบายขึ้นก่อนจะตอบ
"ปวด..แต่ดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว.."
เสียงเธอยังเบาและแหบเล็กน้อย แต่แฝงความรู้สึกว่าอุ่นใจขึ้นไม่น้อยเพราะมีเขาอยู่ข้าง ๆ ปืนพยักหน้ารับคำเบา ๆ
"อืม"
ไม่มีคำพูดเพิ่มเติม แต่แววตาของเขาพูดแทนทุกอย่าง ราวกับเขาอยากให้ความเจ็บของเธอหายไปแทนได้
"นอนพัก...เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง"
เสียงเขานุ่มลงกว่าเดิม มือใหญ่ของเขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบางที่นอนอยู่จนถึงบ่า ปรับให้มันห่มแนบชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา ท่าทางนั้นไม่ได้เร่งรีบ แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจละเอียดอ่อน
: ปืนดึงมาห่มมาคุมให้ฉัน ตัวมันเองนั่งอยู่บนเตียงข้างๆกันกับฉัน มือหนาของมันค่อยๆลูบวนไปมาบนศีรษะทุย มันทำแบบนั้นซ้ำๆ จนฉันหลับไป
มืออุ่นของเขาลูบเส้นผมของเธอช้า ๆ ซ้ำไปซ้ำมา น้ำหนักมือเบาแต่มั่นคง สัมผัสนั้นปลอบโยนยิ่งกว่าคำพูด เสียงลมหายใจของเขาที่สม่ำเสมอข้างเตียง กลายเป็นจังหวะที่กล่อมให้หัวใจเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ เปลือกตาของเธอค่อย ๆ ปิดลง หัวใจที่เคยบีบรัดจากความปวดในร่างกายและความเหนื่อยในใจ ค่อย ๆ สงบลง...ท่ามกลางความเงียบสงบที่มีเขาอยู่เคียงข้าง ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรมากมาย...แต่มันกลับมีค่าที่สุด
@ปืน
ผมกล่อมเพื่อนตัวดีให้นอนหลับ พอเห็นว่ามันหลับสนิทแล้ว ผมจึงค่อยๆก้มใบหน้าลงไปข้างๆแก้มเนียนใส จ้องมองมันอยู่นาน มีนมันเป็นคนสวย เซ็กซี่ แถมยังน่ารักมากอีกด้วย เพราะแบบนี้มันถึงมีทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาตามเฝ้าตามจีบ แต่มันก็คุยกับใครได้ไม่นานหรอกครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะผมนี่ไง ทุกครั้งที่มันดูเหมือนจะชอบใคร ผมก็จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จัดการถอนรากถอนโคนไอ้พวกที่มันชอบมายุ่งกับเพื่อนของผม ซึ่งในอนาคตมันก็คือแฟนผมนั่นแหละ ทำทุกวิถีทางให้พวกนั้นตีตัวออกห่างจากเธอ ทั้งยัดเงินบ้าง ใช้กำลังบ้าง แสดงความเป็นเจ้าของบ้าง ก็ยอมรับแหละครับ ว่าผมนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่นั่งเฝ้านอนเฝ้าปลาย่างไว้ขนาดนี้แล้ว คงไม่ปล่อยให้หมาแมวตัวอื่นคาบไปกินแน่ๆ
ผมจ้องมองมันอยู่นาน นิ้วเรียวค่อยๆลูบวนไปมาที่ใบหน้า ก่อนจะมองไปยังริมฝีปากอวบอิ่ม..น่าจูบนั่น..
"จุ๊บ 💋
"ฟอด !!
นั่นไง สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ผมจูบมีนเบาๆหนึ่งที พร้อมทั้งหอมไปที่แก้มเนียนใส คนที่โดนกระทำยังไม่รู้สึกตัว ดูเหมือนมีนจะหลับสนิทเอามากๆ ถ้าถามว่านี่ใช่ครั้งแรกไหมที่ผมทำแบบนี้กับมีน...ตอบเลยว่า..ไม่...ผมทำแบบนี้กับมีนทุกครั้งที่มันนอนหลับ...ใจจริงก็อยากจะบอกกับมันนะ ว่าผมชอบ ชอบมันมาก...แต่อีกใจก็กลัวว่าจะเสียมันไป เพราะคำว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ก็มีนมันตั้งกฎของเพื่อนไว้ขนาดนั้น ก่อนที่ผมจะแหกกฎ ผมต้องทำให้มันชอบผมให้ได้ก่อน ถึงเวลานั้นค่อยบอกมันก็ยังไม่สาย
"กฎของเพื่อน คือห้ามคบเพื่อนเป็นแฟน"
"แล้วถ้าวันนึง....กูคิดกับมึงเกินคำว่าเพื่อนล่ะ มึงจะทำยังไง
"ถ้ามีวันนั้น กูกับมึงก็คงจะมองหน้ากันไม่ติด กูไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง ถ้ากูชอบมึงมันก็ดีไป แต่นี่คือกูไม่ ! และก็ไม่เคยคิดที่จะชอบเพื่อนในกลุ่มของตัวเองด้วย
คำพูดของมีนที่พูดกับไอ้ธัน หลังจากวันนั้น มีนก็พูดกรอกหูพวกเราทุกวัน เพราะมันรู้ว่าไอ้ธันชอบมัน แต่กับผมมันกลับดูไม่ออก ทั้งที่ผมชัดเจนขนาดนั้น นอนด้วยแทบจะทุกคืน มันไม่เอะใจอะไรเลยรึไง เพื่อนผู้ชายกับผู้หญิงถึงจะสนิทกันแค่ไหน มันก็ต้องมีระยะห่างกันบ้าง อย่างเช่นมันกับไอ้ธัน อย่างมากก็แค่ลูบหัว กับไอ้สิงก็เหมือนกัน แต่ผมกับมัน ไม่เคยมีระยะห่างหรืออะไรมากั้น มันไม่แม้แต่จะระมัดระวังตัว บางครั้งก็อยากบอกกับมัน "กูก็ผู้ชายนะโว้ย ไม่ใช่พระอิฐพระปูน มีอารมณ์ มีความรู้สึก" เพื่อนที่ไหนเขาจะนอนตัวติดกันขนาดนั้น เพื่อนที่ไหนเขาจะนอนกอดกันทุกคืน..เพื่อนที่ไหนเขาจะจูบกัน (ถึงจะหลอกจูบมันก็เถอะ) บางทีก็แอบหงุดหงิดที่มันไม่ค่อยระวังตัว มันคิดน้อยเกินไป การกระทำของผม พฤติกรรมที่แสดงออกมา คนไม่รู้ก็คงจะคิดว่าผมกับมันเป็นผัวเมียกัน แต่ก็อยากให้เป็นแบบนั่นแหละครับ..ถ้าไม่ติดว่ากลัวความสัมพันธ์จะไม่เหมือนเดิม ผมคงจับมันกดลงเตียงไปนานแล้ว....