ความเกลียดมันน้อยกว่าความรัก (1)

1472 Words
5 ความเกลียดมันน้อยกว่าความรัก  กันต์ดนัยถูกปลุกด้วยเสียงกุกกักที่รบกวนโสตประสาทมาครู่หนึ่งแล้ว ร่างสูงลุกนั่งบิดขี้เกียจพลางหันไปทางคนท้องที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เจนนินทร์แลมองเขาผ่านกระจกเงาแต่ไม่เอ่ยทักทาย “รู้สึกดีจัง หลับสนิททั้งคืนเลย” นานนับหลายเดือนที่กันต์ดนัยไม่ได้ปล่อยสมองให้หลับใหลอย่างอิสระและเต็มอิ่ม ตั้งแต่เลิกรากับเจนนินทร์เขาก็ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย ใช่ว่าหวังชื่อเสียงเงินทอง แต่หวังให้ความยุ่งเหยิงช่วยหยิบภาพเจนนินทร์ออกไปจากความคิด “ล้างหน้าล้างตา เก็บข้าวของแล้วไปเช็คเอาท์ได้แล้วค่ะ” ชิ! เอาแต่ขับไสไล่ส่ง จ้างให้ก็ไม่ไปหรอก ซุปตาร์หนุ่มไม่ต่อบทกับหญิงสาว ก้าวขาลงจากเตียงก็เดินผ่านเธอเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ เจนนินทร์เบะปากไล่หลังพอมัดผมเป็นหางม้าเสร็จแล้วก็ออกไปจากห้อง ไม่สนใจสั่งเสียเขาทิ้งท้าย เจนนินทร์เดินลงบันไดไปชั้นล่างอย่างระมัดระวัง คาดว่าเรไรยังไม่ออกจากห้องนอน มิเช่นนั้นประตูบ้านชั้นล่างรวมถึงตรงระเบียงคงเปิดรับลมแล้ว เจนนินทร์ตรงไปปลดกลอนด้านหน้าและแง้มให้ลมเข้ามา ก่อนเดินไปเช็กของในตู้เย็น วันนี้เป็นวันหยุดของนายต้อง ซึ่งกลับบ้านไปอยู่กับลูกเมียตั้งแต่เมื่อเย็นวานหลังซื้ออาหารพร้อมของสดมาใส่ตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว “ไข่ต้มไหมยัยหนู ง่ายดีนะ” เจนนินทร์เอ่ยกับเจ้าก้อนในครรภ์ ทั้งเธอและเรไรเป็นแม่บ้านที่ไม่สันทัดการทำครัว วัตถุดิบในตู้เย็นมีเพียบแต่รังสรรค์เมนูเลิศรสไม่เป็นสักอย่าง วันที่นายต้องหยุดทีไรสองแม่ลูกก็ได้ทานแต่ของง่ายๆ ไม่ไข่เจียวก็ไข่ต้ม เหนือชั้นขึ้นหน่อยก็เป็นปลากระป๋องผัด ด้วยความที่รีสอร์ตแห่งนี้อยู่ห่างจากความสะดวก ร้านอาหารจึงไม่ปรากฏในละแวก อย่าพูดถึงฟู้ดเดลิเวอรี่เลย ไม่มีให้บริการหรอก “เจนหิวแล้วเหรอลูก” เรไรเดินลงมาที่ชั้นล่างเห็นคนท้องเอาแต่จดจ้องมองของในตู้เย็นอยู่อย่างนั้น “ยังไม่หิวค่ะ แต่เจนนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดี เข้าเมืองวันนี้คงต้องซื้ออาหารแช่แข็งมาตุนไว้สักหน่อย สะดวกดีเวลาที่พี่ต้องไม่อยู่ทำครัวให้” “อาหารแช่แข็งก็ง่ายดีเหมือนกันนะ” เรไรเอ่ยตอบรับลูกสาวก่อนเบือนสายตาไปทางเสียงลงบันได ก่อนตามมาด้วยประกายตกใจในแววตา พลางหันมองเจนนินทร์และกันต์ดนัยสลับกัน “อรุณสวัสดิ์ครับคุณน้า” กันต์ดนัยส่งยิ้มกว้างสู้ไว้ก่อน “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่เมื่อคืนมานอนที่นี่ เป็นผมเองครับที่ดื้อดึง ก็ลูกสาวคุณน้าน่ะสิครับหลอกว่าห้องพักนั้นมีคนตาย” “มีที่ไหนกันล่ะจ๊ะ รีสอร์ตนี้ไม่เคยมีคนตาย อย่าไปฟังยัยเจน” เรไรส่ายหน้าส่งสายตาดุไปทางลูกสาวที่ปั้นหน้าเป็นยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้ เรไรไม่มีแก่ใจคิดมากเรื่องความเหมาะสมอะไรอีกแล้ว ในเมื่อเด็กทั้งสองเกินเลยมานานจนท้องโย้ใกล้คลอด ครั้นจะอบรมตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว “ผมก็ไม่อยากเชื่อหรอกครับ แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงเอาเรื่อง” กันต์ดนัยว่าก่อนเดินไปทางเจนนินทร์ที่หยิบไข่ไก่ออกมาจากตู้เย็นสี่ฟอง “ว่าแต่ค่าห้องห้าพันนี่ include breakfast แล้วใช่ไหม” “มีแต่ไข่ต้ม” “แค่เนี้ย?” “ค่ะ ไม่พอยาไส้ก็ไปหาทานที่สนามบินสิคะ” แล้วใครบอกว่าเขาจะกลับวันนี้ ไล่อีกร้อยคำก็ไม่ไสหัวไปหรอก ร่างสูงเดินเฉียดคนท้องไปเปิดตู้เย็นแบบสองประตูพร้อมด้วยดวงตาขยายกว้าง “ของสดเยอะแยะเต็มตู้เลย แต่ทำไม่เป็นสิท่า” เจนนินทร์อ่อนด้อยเรื่องทำอาหาร และกันต์ดนัยก็ให้คะแนนเธอติดลบ ไม่มีคะแนนพิศวาสให้ด้วยเพราะเธอไม่แม้แต่จะพยายาม เอะอะไม่มีอะไรทานก็ไข่ต้มตลอด ขนาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเธอยังเอาไม่รอดเลย ไม่ใส่น้ำน้อยก็เติมจนเกินพอดีแล้วก็มาบ่นว่ายี่ห้อนี้ไม่อร่อย แค่ทำตามวิธีปรุงด้านหลังซองมันยากตรงไหน “งั้นคุณเชฟกันต์ก็ทำเองสิคะ” “เป็นแขกที่จ่ายค่าห้องต่อคืนตั้งครึ่งหมื่น แต่กลับต้องทำอาหารกินเอง แถมยังต้องทำให้เจ้าของรีสอร์ตกินอีก” พ่อดาราทำบ่นแต่ก็นำผักและเนื้อออกมาจากตู้เย็น ส่วนเจ้าของรีสอร์ตที่เช้านี้แต่งหน้าทำผมผ่องแพร้วกว่าเมื่อวานเลื่อนเก้าอี้นั่งตรงไอส์แลนด์ครัว สองมือเท้าคางจ้องเขาราวกับลูกค้ารอรับประทานอาหาร “เป็นจุดเด่นของภูพราวดาวรีสอร์ต ยูนิคไม่เหมือนใคร” “แบบนี้ต้องลดค่าห้องให้แล้วเปล่า” “จ่ายแล้วจ่ายเลย ใครเขาคืนเงินกัน” กันต์ดนัยแค่นเสียงหึ เมื่อล้างใบกะเพราเสร็จแล้วก็เลื่อนไปตรงหน้าหญิงสาวบุ้ยปากให้เธอช่วยเด็ด ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางเจ้าของอีกรายที่นั่งอยู่หน้าจอทีวีฟังรายงานข่าวเจื้อยแจ้ว แม้กายหยาบประทับนิ่งและสายตาจ้องจอ แต่ราวกับจิตใจของเรไรไม่อยู่ตรงนั้น แววตาเธอเลื่อนลอย ออร่าเศร้าหมองมีมากจนสังเกตได้อย่างชัดเจน “พี่เสียใจด้วยนะเรื่องคุณลุงเจย์” กันต์ดนัยเอ่ยออกไปในระดับที่พอได้ยินกันแค่สองคน มือเล็กที่เด็ดใบกะเพราชะงักเล็กน้อย “รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ” แม้คุณพ่อบุญธรรมของเธอเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง แต่ไม่ถือว่าโด่งดังจนข่าวสารมีเผยแพร่ในเมืองไทย นั่นเพราะเขาเป็นลูกครึ่งไทยสิงคโปร์ที่ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ ชื่อเสียงจึงโด่งดังในต่างแดนมากกว่า “ก็รู้จากฝนแก้วอีกน่ะแหละ คุณลุงเป็นอะไรเสียเหรอ” “หัวใจวายค่ะ เสียชีวิตที่สิงคโปร์ ผ่านไปสามเดือนแล้วค่ะป่านนี้ท่านคงมีความสุขอยู่บนสวรรค์” ในขณะที่คนเป็นผู้เคยผูกพันยังจมอยู่กับความระทม เรไรไร้ชีวิตชีวานับตั้งแต่การจากไปของสามี เธอไม่เอาอะไรสักอย่าง ไม่สืบทอดสานต่อสักกิจการของสามี ทั้งยังโอนมอบทุกกรรมสิทธิ์ให้เป็นของเจนนินทร์บุตรบุญธรรมที่อยู่ในการอุปการะของสองสามีภรรยานับตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบ “ท่านอาจกำลังรอดูหน้าหลานอยู่ก็ได้ ว่าแต่เจนทานอะไรได้บ้าง แพ้ท้องบ้างไหม” กันต์ดนัยพาเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย “ทานได้ทุกอย่าง หายแพ้ท้องแล้วค่ะ...อ้อ ไม่สิ เพิ่งกลับมาแพ้อีกรอบเมื่อวาน พอเห็นหน้าคนบางคนแล้วก็พะอืดพะอมอยากอาเจียน” “ใจร้ายให้น้อยๆ หน่อยเถอะเรา พี่อยากได้ลูกสาวน่ารักๆ เรียบร้อยอ่อนหวาน ไม่ปากแซ่บ ไม่พูดจาเหน็บแนม” “ก็เรื่องของพี่สิคะ นี่ลูกเจน ตัวเองก็ยังไม่เชื่อว่าเจ้าก้อนในท้องนี้เป็นลูกของพี่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาคาดหวัง ไม่ต้องมาเจ้ากี้เจ้าการ” “ก็...ก็...” กันต์ดนัยมองหาคำพูดสวยๆ ในขณะกำลังหั่นเนื้อ เหล่มองหล่อนที่ตวัดตาขุ่นใส่เสียหลายยก “...ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่ลูกของพี่ ก็มองว่ามีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้สูงเหมือนกัน คุณน้าเองเขายังพูดเลยว่าพี่เป็นพ่อของลูกเจน” “ก็คุณแม่ท่านเชื่อมั่นในตัวเจนนี่คะ เขาเชื่อว่าเจนไม่มั่วผู้ชาย ไม่นอกใจคนรัก” “เบาๆ ใบกะเพราไม่ผิดอะไร อย่าขยุ้มแบบนั้นสิ” กันต์ดนัยกระแอมปรามเมื่อมือบางขยำต้นกะเพราเสียเกือบเละ “ใบมันจะช้ำแล้วไง เดี๋ยวเอาไปผัดก็เหี่ยวอยู่ดี” เถียงได้ทุกคำ ไม่ปล่อยให้ตกฟากเลยจริงๆ ยัยคนนี้ “พี่ก็อยากเชื่อใจเจน แต่สิ่งที่พี่เห็นวันนั้น คำพูดของไอ้นั่น สภาพของเจนที่...ทุกอย่างมันเกินกว่าจะเชื่อในคำพูดมากกว่าภาพที่เห็น” “ก็เข้าใจค่ะ” เข้าใจที่แปลว่าไม่เข้าใจ...ฮึบไว้เจนนินทร์ อย่ามีน้ำตาให้เขาเห็นตอนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD