5
ความเกลียดมันน้อยกว่าความรัก
กันต์ดนัยถูกปลุกด้วยเสียงกุกกักที่รบกวนโสตประสาทมาครู่หนึ่งแล้ว
ร่างสูงลุกนั่งบิดขี้เกียจพลางหันไปทางคนท้องที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง
เจนนินทร์แลมองเขาผ่านกระจกเงาแต่ไม่เอ่ยทักทาย
“รู้สึกดีจัง
หลับสนิททั้งคืนเลย” นานนับหลายเดือนที่กันต์ดนัยไม่ได้ปล่อยสมองให้หลับใหลอย่างอิสระและเต็มอิ่ม
ตั้งแต่เลิกรากับเจนนินทร์เขาก็ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย
ใช่ว่าหวังชื่อเสียงเงินทอง
แต่หวังให้ความยุ่งเหยิงช่วยหยิบภาพเจนนินทร์ออกไปจากความคิด
“ล้างหน้าล้างตา
เก็บข้าวของแล้วไปเช็คเอาท์ได้แล้วค่ะ”
ชิ! เอาแต่ขับไสไล่ส่ง
จ้างให้ก็ไม่ไปหรอก
ซุปตาร์หนุ่มไม่ต่อบทกับหญิงสาว
ก้าวขาลงจากเตียงก็เดินผ่านเธอเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ
เจนนินทร์เบะปากไล่หลังพอมัดผมเป็นหางม้าเสร็จแล้วก็ออกไปจากห้อง
ไม่สนใจสั่งเสียเขาทิ้งท้าย
เจนนินทร์เดินลงบันไดไปชั้นล่างอย่างระมัดระวัง
คาดว่าเรไรยังไม่ออกจากห้องนอน
มิเช่นนั้นประตูบ้านชั้นล่างรวมถึงตรงระเบียงคงเปิดรับลมแล้ว
เจนนินทร์ตรงไปปลดกลอนด้านหน้าและแง้มให้ลมเข้ามา
ก่อนเดินไปเช็กของในตู้เย็น วันนี้เป็นวันหยุดของนายต้อง
ซึ่งกลับบ้านไปอยู่กับลูกเมียตั้งแต่เมื่อเย็นวานหลังซื้ออาหารพร้อมของสดมาใส่ตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว
“ไข่ต้มไหมยัยหนู
ง่ายดีนะ” เจนนินทร์เอ่ยกับเจ้าก้อนในครรภ์
ทั้งเธอและเรไรเป็นแม่บ้านที่ไม่สันทัดการทำครัว
วัตถุดิบในตู้เย็นมีเพียบแต่รังสรรค์เมนูเลิศรสไม่เป็นสักอย่าง
วันที่นายต้องหยุดทีไรสองแม่ลูกก็ได้ทานแต่ของง่ายๆ ไม่ไข่เจียวก็ไข่ต้ม
เหนือชั้นขึ้นหน่อยก็เป็นปลากระป๋องผัด
ด้วยความที่รีสอร์ตแห่งนี้อยู่ห่างจากความสะดวก ร้านอาหารจึงไม่ปรากฏในละแวก
อย่าพูดถึงฟู้ดเดลิเวอรี่เลย ไม่มีให้บริการหรอก
“เจนหิวแล้วเหรอลูก”
เรไรเดินลงมาที่ชั้นล่างเห็นคนท้องเอาแต่จดจ้องมองของในตู้เย็นอยู่อย่างนั้น
“ยังไม่หิวค่ะ
แต่เจนนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรทานดี
เข้าเมืองวันนี้คงต้องซื้ออาหารแช่แข็งมาตุนไว้สักหน่อย
สะดวกดีเวลาที่พี่ต้องไม่อยู่ทำครัวให้”
“อาหารแช่แข็งก็ง่ายดีเหมือนกันนะ”
เรไรเอ่ยตอบรับลูกสาวก่อนเบือนสายตาไปทางเสียงลงบันได ก่อนตามมาด้วยประกายตกใจในแววตา
พลางหันมองเจนนินทร์และกันต์ดนัยสลับกัน
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณน้า”
กันต์ดนัยส่งยิ้มกว้างสู้ไว้ก่อน “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่เมื่อคืนมานอนที่นี่
เป็นผมเองครับที่ดื้อดึง ก็ลูกสาวคุณน้าน่ะสิครับหลอกว่าห้องพักนั้นมีคนตาย”
“มีที่ไหนกันล่ะจ๊ะ
รีสอร์ตนี้ไม่เคยมีคนตาย อย่าไปฟังยัยเจน”
เรไรส่ายหน้าส่งสายตาดุไปทางลูกสาวที่ปั้นหน้าเป็นยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้
เรไรไม่มีแก่ใจคิดมากเรื่องความเหมาะสมอะไรอีกแล้ว
ในเมื่อเด็กทั้งสองเกินเลยมานานจนท้องโย้ใกล้คลอด
ครั้นจะอบรมตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
“ผมก็ไม่อยากเชื่อหรอกครับ
แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงเอาเรื่อง”
กันต์ดนัยว่าก่อนเดินไปทางเจนนินทร์ที่หยิบไข่ไก่ออกมาจากตู้เย็นสี่ฟอง
“ว่าแต่ค่าห้องห้าพันนี่ include breakfast แล้วใช่ไหม”
“มีแต่ไข่ต้ม”
“แค่เนี้ย?”
“ค่ะ
ไม่พอยาไส้ก็ไปหาทานที่สนามบินสิคะ”
แล้วใครบอกว่าเขาจะกลับวันนี้
ไล่อีกร้อยคำก็ไม่ไสหัวไปหรอก
ร่างสูงเดินเฉียดคนท้องไปเปิดตู้เย็นแบบสองประตูพร้อมด้วยดวงตาขยายกว้าง
“ของสดเยอะแยะเต็มตู้เลย
แต่ทำไม่เป็นสิท่า”
เจนนินทร์อ่อนด้อยเรื่องทำอาหาร
และกันต์ดนัยก็ให้คะแนนเธอติดลบ ไม่มีคะแนนพิศวาสให้ด้วยเพราะเธอไม่แม้แต่จะพยายาม
เอะอะไม่มีอะไรทานก็ไข่ต้มตลอด ขนาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเธอยังเอาไม่รอดเลย
ไม่ใส่น้ำน้อยก็เติมจนเกินพอดีแล้วก็มาบ่นว่ายี่ห้อนี้ไม่อร่อย
แค่ทำตามวิธีปรุงด้านหลังซองมันยากตรงไหน
“งั้นคุณเชฟกันต์ก็ทำเองสิคะ”
“เป็นแขกที่จ่ายค่าห้องต่อคืนตั้งครึ่งหมื่น
แต่กลับต้องทำอาหารกินเอง แถมยังต้องทำให้เจ้าของรีสอร์ตกินอีก”
พ่อดาราทำบ่นแต่ก็นำผักและเนื้อออกมาจากตู้เย็น
ส่วนเจ้าของรีสอร์ตที่เช้านี้แต่งหน้าทำผมผ่องแพร้วกว่าเมื่อวานเลื่อนเก้าอี้นั่งตรงไอส์แลนด์ครัว
สองมือเท้าคางจ้องเขาราวกับลูกค้ารอรับประทานอาหาร
“เป็นจุดเด่นของภูพราวดาวรีสอร์ต
ยูนิคไม่เหมือนใคร”
“แบบนี้ต้องลดค่าห้องให้แล้วเปล่า”
“จ่ายแล้วจ่ายเลย
ใครเขาคืนเงินกัน”
กันต์ดนัยแค่นเสียงหึ
เมื่อล้างใบกะเพราเสร็จแล้วก็เลื่อนไปตรงหน้าหญิงสาวบุ้ยปากให้เธอช่วยเด็ด ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางเจ้าของอีกรายที่นั่งอยู่หน้าจอทีวีฟังรายงานข่าวเจื้อยแจ้ว
แม้กายหยาบประทับนิ่งและสายตาจ้องจอ แต่ราวกับจิตใจของเรไรไม่อยู่ตรงนั้น
แววตาเธอเลื่อนลอย ออร่าเศร้าหมองมีมากจนสังเกตได้อย่างชัดเจน
“พี่เสียใจด้วยนะเรื่องคุณลุงเจย์”
กันต์ดนัยเอ่ยออกไปในระดับที่พอได้ยินกันแค่สองคน
มือเล็กที่เด็ดใบกะเพราชะงักเล็กน้อย
“รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ”
แม้คุณพ่อบุญธรรมของเธอเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง
แต่ไม่ถือว่าโด่งดังจนข่าวสารมีเผยแพร่ในเมืองไทย
นั่นเพราะเขาเป็นลูกครึ่งไทยสิงคโปร์ที่ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ
ชื่อเสียงจึงโด่งดังในต่างแดนมากกว่า
“ก็รู้จากฝนแก้วอีกน่ะแหละ
คุณลุงเป็นอะไรเสียเหรอ”
“หัวใจวายค่ะ
เสียชีวิตที่สิงคโปร์ ผ่านไปสามเดือนแล้วค่ะป่านนี้ท่านคงมีความสุขอยู่บนสวรรค์”
ในขณะที่คนเป็นผู้เคยผูกพันยังจมอยู่กับความระทม
เรไรไร้ชีวิตชีวานับตั้งแต่การจากไปของสามี เธอไม่เอาอะไรสักอย่าง
ไม่สืบทอดสานต่อสักกิจการของสามี
ทั้งยังโอนมอบทุกกรรมสิทธิ์ให้เป็นของเจนนินทร์บุตรบุญธรรมที่อยู่ในการอุปการะของสองสามีภรรยานับตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบ
“ท่านอาจกำลังรอดูหน้าหลานอยู่ก็ได้
ว่าแต่เจนทานอะไรได้บ้าง แพ้ท้องบ้างไหม”
กันต์ดนัยพาเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย
“ทานได้ทุกอย่าง
หายแพ้ท้องแล้วค่ะ...อ้อ ไม่สิ เพิ่งกลับมาแพ้อีกรอบเมื่อวาน
พอเห็นหน้าคนบางคนแล้วก็พะอืดพะอมอยากอาเจียน”
“ใจร้ายให้น้อยๆ
หน่อยเถอะเรา พี่อยากได้ลูกสาวน่ารักๆ เรียบร้อยอ่อนหวาน ไม่ปากแซ่บ
ไม่พูดจาเหน็บแนม”
“ก็เรื่องของพี่สิคะ
นี่ลูกเจน ตัวเองก็ยังไม่เชื่อว่าเจ้าก้อนในท้องนี้เป็นลูกของพี่
เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาคาดหวัง ไม่ต้องมาเจ้ากี้เจ้าการ”
“ก็...ก็...”
กันต์ดนัยมองหาคำพูดสวยๆ ในขณะกำลังหั่นเนื้อ
เหล่มองหล่อนที่ตวัดตาขุ่นใส่เสียหลายยก “...ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ใช่ลูกของพี่
ก็มองว่ามีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้สูงเหมือนกัน
คุณน้าเองเขายังพูดเลยว่าพี่เป็นพ่อของลูกเจน”
“ก็คุณแม่ท่านเชื่อมั่นในตัวเจนนี่คะ
เขาเชื่อว่าเจนไม่มั่วผู้ชาย ไม่นอกใจคนรัก”
“เบาๆ
ใบกะเพราไม่ผิดอะไร อย่าขยุ้มแบบนั้นสิ” กันต์ดนัยกระแอมปรามเมื่อมือบางขยำต้นกะเพราเสียเกือบเละ
“ใบมันจะช้ำแล้วไง
เดี๋ยวเอาไปผัดก็เหี่ยวอยู่ดี”
เถียงได้ทุกคำ
ไม่ปล่อยให้ตกฟากเลยจริงๆ ยัยคนนี้
“พี่ก็อยากเชื่อใจเจน
แต่สิ่งที่พี่เห็นวันนั้น คำพูดของไอ้นั่น
สภาพของเจนที่...ทุกอย่างมันเกินกว่าจะเชื่อในคำพูดมากกว่าภาพที่เห็น”
“ก็เข้าใจค่ะ”
เข้าใจที่แปลว่าไม่เข้าใจ...ฮึบไว้เจนนินทร์
อย่ามีน้ำตาให้เขาเห็นตอนนี้