ตอนที่15

1239 Words
ทันทีที่เรือออก พวกเขาก็รีบเข้าไปในห้องแล้วล็อคประตูไว้อย่างหนาแน่น “เราต้องรีบโทรขอความช่วยเหลือโดยด่วน”ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ แต่แล้วเขาก็พบว่าสัญญาณทั้งหมดโดนตัด “ฉันลืมบอกไปว่าสัญญาณโดนตัดตั้งแต่เราขึ้นเรือแล้ว” “งั้นเราต้องรีบหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด” “เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง” “ผมมีแผน คือเราต้องล่อคนใดคนหนึ่งเข้ามาในห้องน้ำนี้ให้ได้จากนั้นเราก็จะใช้ไอ่นี่จู่โจมตอนที่มันไม่ทันระวังตัว ไม่ก็แย่งปืนมาก่อนแล้วค่อยจัดการมันทีหลัง” “ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป” “คุณเชื่อใจผมสิ” “ฉันไม่เชื่อใจคุณหรอก นี่มันชีวิตจริงนะไม่ใช่ละคร” “ก็ไม่ได้จะแย่งมันมาสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ ผมจะดูจังหวะ ถ้าพอแย่งมันมาได้ก้อจะทำ แต่ถ้ามันเก็บปืนไว้ข้างหน้าผมก็จะใช้ท่อนนี่ทุบหัวมันจากข้างหลัง รับรองรอบเดียวสลบแน่” “แล้วอีกคนที่อยู่ด้านนอกหล่า เราจะจัดการยังไง “ถ้าจัดการกับคนที่หนึ่งสำเร็จ เราก็จะจัดการกับคนที่อยู่ด้านนอกได้สบายมาก แต่ถ้าคนแรกไม่พกปืนมาด้วย เราคงต้องล้มเลิกแผนนี้ไปแล้วค่อยหาแผนอื่น” “ฉันกลัว” “ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของเราสามคน” “ก็ได้ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง” “เราต้องทำอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งในห้องน้ำพัง แล้วคุณก็ไปบอกให้พวกเขาเข้ามาดู” “โอเค งั้นคุณลงมือเลย” “คุณแม่คะ เกิดอะไรขึ้น” “น้องปิ่นฟังแม่นะ ถ้ามีคนเข้ามาน้องปิ่นต้องทำตัวนิ่งๆไว้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามส่งเสียงดังโอเคมั้ย” “โอเคค่ะ” พวกเขาเริ่มแผนการอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ทุกอย่างก็ดำเนินเป็นไปตามแผน ทันทีที่ทั้งสองเห็นปืนซึ่งชายร่างท้วมสอดมันไว้ที่เอวด้านหน้าเขาจึงลงมือทุบศีรษะชายตรงหน้าสุดแรง จนกระทั่งร่างท้วมนอนสลบอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาแย่งปืนมาได้จึงค่อยๆย่องออกไปจัดการกับชายอีกคนซึ่งกำลังขับเรือ “ปืนอีกกระบอกอยู่ไหน ถ้าไม่บอกฉันยิงแกแน่”ชายหนุ่มเล็งปืนในระยะใกล้ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาชายคนขับเรือในระยะประชิด “คิดว่ายิงผมตายแล้วพวกคุณจะรอดงั้นหรอ? “แกหมายความว่ายังไง ดับเครื่องซะแล้วยกมือทั้งสองข้างประสานกันไว้ตรงบริเวณท้ายทอย?”ชายที่กำลังโดนจี้ค่อยๆยกมือแล้วทำตามคำสั่งของชายหนุ่มอย่างใจเย็น “ก็หมายความว่าอีกไม่นานเราทุกคนที่อยู่บนเรือนี้จะโดนระเบิดจนร่างกายกระเด็นออกเป็นชิ้นๆ” “ไม่จริง ฉันไม่เชื่อแกหรอก” “ถ้าไม่เชื่อก็ลองหันออกไปทางซ้ายมือสิ” “คุณช่วยหันไปดูให้ผมหน่อยว่ามีระเบิดจริงมั้ย หรือนี่อาจจะเป็นแค่แผนของมัน” “พวกเขาพูดเรื่องจริง บนเรือนี้มีระเบิด” “ตอบมาว่าแกต้องการอะไร!”ชายหนุ่มใช้ปืนฟาดไปที่หัวของชายตรงหน้าด้วยความโมโห จากนั้นเขาเดินเข้าไปชกซ้ำเข้าที่หน้า “แน่จริงก็ยิงผมสิ” “ตอบมาว่าแกต้องการอะไรกันแน่!” “ต้องการล้างแค้นพ่อแกไง” “พ่อฉันไปทำอะไรให้แกนักหนักหนา ถึงขั้นต้องมีการฆ่ากันด้วย” “รู้แล้วจะทำไม ในเมื่อแกจะตายในอีกไม่ช้า อันที่จริงคนที่สมควรตายในวันนี้คือพ่อแก แต่แกกับลูกกับเมียดันเสือกขึ้นเรือนี่แทน แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะไอ่แก่นั่นจะได้อกแตกตายโดยที่ฉันไม่ต้องเป็นคนลงมือฆ่า” “คุณรีบพาลูกไปหาเสื้อชูชีพใส่เร็วเข้า แล้วก็รีบออกไปจากเรือลำนี้โดยที่ไม่ต้องรอผม” “อันที่จริงอีกห้านาทีเรือนี่จะระเบิด แต่ถ้าฉันกดไอ้นี่ตอนนี้ เรือนี่จะระเบิดทันที ฉันอยากรู้จังเลยว่าระหว่างเราสองคนมือใครจะเร็วกว่ากัน”ชายที่โดนทำร้ายจนเซกับพื้นอาศัยจังหวะชายหนุ่มเผลอรีบหยิบปุ่มกดระเบิดที่ซ่อนเอาไว้ออกมา “อย่านะ! “ถ้าไม่อยากเห็นลูกเมียตายต่อหน้าก็วางปืนลง แล้วคุกเข่าจากนั้นก็เอามือไขว้หลัง” “โอเค ฉันยอมแกทุกอย่างแล้ว”เขาทำตามอย่างว่าง่ายจากนั้นก็หันไปดูระเบิดตั้งเวลา “แกเหลือเวลาอีกสามนาทีครึ่งบนเรือลำนี้ แต่ฉันอยากเป็นคนส่งแกลงนรกด้วยตัวเอง”พูดจบชายซึ่งเป็นคนร้ายค่อยๆย่อตัวลงเพื่อจะหยิบปืนที่อยู่ตรงหน้า แต่ชายหนุ่มดันคว้าปืนเอาไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็ยิงเข้ากลางอกฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ลังเล เมื่อชายหนุ่มเห็นปุ่มกดระเบิดยังอยู่ในมือของชายเพิ่งโดนยิงแต่ยังไม่เสียชีวิต เขาจึงรีบคว้ามันมาแล้วโยนทิ้งกลางทะเล “ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่หรอว่าให้รีบพาลูกออกจากเรือนี่” “ก็น้องปิ่นไม่ยอมไปไหนถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วย” “งั้นก็รีบขึ้นเรือ ผมพร้อมแล้ว”ชายหนุ่มรีบเอาเรือลำเล็กที่อยู่ท้ายเรือออกมา จากนั้นทั้งสามคนก็พากันขึ้นเรืออย่างเร่งรีบ “เรากำลังจะไปไหน” “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆเราต้องรีบออกห่างเรือนั่นให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะระเบิด”ชายหนุ่มรีบขับเรือลำเล็กออกไปโดยไม่รู้ทิศทาง และไม่กี่วินาทีต่อมาเรือที่พวกเขาอาศัยก่อนหน้านี้ระเบิดดังตุ้มพร้อมกับมีไฟลุกโชน “คุณแม่คะน้องปิ่นกลัว”เด็กหญิงที่เห็นเหตุการณ์มีท่าทีหวาดกลัวแล้วโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ “เรารอดตายแล้ว”ชายหนุ่มหันไปส่งยิ้มให้กับภรรยาและลูกสาว “ฉันคิดว่าเราจะไม่รอดกันแล้วซะอีก” “ดูเหมือนน้ำมันใกล้จะหมด”ชายหนุ่มบอกข่าวร้ายกับหญิงสาวด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล “ว่าไงนะ!”ส่วนทางด้านหญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจ “ความผิดผมเอง คือตอนที่อยู่ในเรือเหมือนผมเห็นแกลลอนน้ำมันวางอยู่ในห้องกัปตันแต่ไม่คิดว่ามันมีไว้สำหรับเรือนี่” “แสดงว่าพวกมันวางแผนระเบิดเรือแล้วเตรียมเรือเล็กนี่ไว้หนี แต่ก็กันเราหนีทันเลยจงใจเหลือน้ำมันไว้เล็กน้อย” “ผมก็ว่างั้น” “แล้วเราจะทำยังไงกันดี นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว” “ตรงโน้นมีเกาะเล็กๆอยู่ เราจะไปที่นั่นเผื่อมีคนอาศัยอยู่ เพราะถ้าเกิดเราอยู่กลางทะเลแบบนี้กลางคืนเราจะโดนคลื่นทะเลซัด” “แล้วน้ำมันจะพอหรอ?” “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าขับไปแล้วมันไม่ถึงเกาะเราจะว่ายน้ำข้ามฝั่งไป”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD