สามคนพ่อแม่ลูกใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองกรุงเทพไปยังท่าเรือประมาณสองชั่วโมงเต็ม และเมื่อพวกเขามาถึงที่หมายก็รีบพากันขึ้นเรือยอร์ชขนาดกลาง ภายในเรือประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเทียบได้กับบ้านหนึ่งหลัง
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะ พอดีรู้สึกเหนียวตัว”
“คุณแม่ น้องปิ่นอยากอาบน้ำเหมือนกัน”
“รอคุณพ่ออาบเสร็จก่อนแล้วเราค่อยไปอาบพร้อมกันโอเคมั้ย”
“มาอาบด้วยกันกับพ่อนี่ เดี๋ยวพ่ออาบให้”
“คุณจะบ้ารึไง ลูกเป็นผู้หญิงนะคุณแล้วคุณก็เป็นผู้ชาย”
“พ่ออาบน้ำให้ลูกสาวมันแปลกตรงไหน แล้วลูกเพิ่งจะสี่ขวบเอง อีกอย่างผมคงไม่ยืนโป๊ให้ลูกเห็นหรอกนะ”
“น้องปิ่นไปอาบน้ำกับคุณพ่อนะ แม่จะจัดของรอแล้วก็อย่าเล่นน้ำจนเพลินหล่า อาบเสร็จก็รีบออกมา”
“โอเคค่ะ”
ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังจัดข้าวของให้อยู่เป็นที่เป็นทาง เสียงหัวเราะของสองพ่อลูกก็ดังออกมาจากห้องน้ำเป็นระยะๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปราวๆสิบนาทีีเด็กหญิงก็เดินออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กห่อร่างเอาไว้อย่างมิดชิด ส่วนผู้เป็นพ่อที่ยังอาบไม่เสร็จก็กลับเข้าไปอาบน้ำต่อจนในที่สุดเขาเดินกลับเข้ามาในห้องโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวปกปิดส่วนล่างเอาไว้”
“เสื้อผ้าผมหล่า?”
“อยู่ในตู้”หญิงสาวหันไปตอบคำถามชายหนุ่มในขณะที่พาลูกสาวเข้านอนกลางวัน
“คุณหิวรึยัง?
“ยังไม่หิว”
“งั้นรอลูกตื่นเราค่อยไปหาอะไรทาน ตอนนี้ขอพักสายตาสักสองสามชั่วโมง”พูดจบเขาก็โน้มตัวลงนอนข้างๆลูกสาว
“ตามสบาย เดี๋ยวฉันเข้าไปอาบน้ำละ”
“ถ้าง่วงก็มานอนด้วยกันได้ เตียงอาจจะไม่ได้ใหญ่เท่าที่บ้านแต่นอนสามคนได้อยู่”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ชอบนอนกลางวันอาบน้ำเสร็จว่าจะออกไปทำงานที่ห้องนั่งเล่น”
สองพ่อลูกหลับอย่างเอาเป็นเอาตายส่วนหญิงสาวก็นั่งทำงานอยู่เงียบๆ ภายในเรือจึงเงียบสงบจนกระทั่งเด็กหญิงตื่น จากนั้นบรรกาศวุ่นวายก็กลับมาอีกครั้ง
“คุณพาลูกออกไปข้างนอกก่อนเลยก็ได้ ล้างจานเสร็จเดี๋ยวตามไป”
เมื่อเด็กหญิงตื่นสามคนพ่อแม่ลูกก็พากันไปนั่งทานข้าว เมื่อทานข้าวกันเสร็จหญิงสาวก็อาสาล้างจานแล้วให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายดูแลลูกสาว
“คุณแม่รีบๆตามมานะคะ”
“เดี๋ยวก่อน พกครีมกันแดดไปด้วยเดี๋ยวผิวไหม้”
“ค่ะคุณแม่”
“ดีนะที่พ่อเคยตกปลามาก่อน ไม่งั้นเราอาจจะต้องพึ่งคนอื่น”
“งั้นคุณสอนหนูนะคะ”
“สอนอยู่แล้ว”
“ว่าแต่เราจะตกหมึกกันเลยมั้ยคะ หนูตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว”
“ตกหมึกต้องตกช่วงค่ำๆมันถึงจะมันส์ ถ้าตกเวลานี้อาจจะใช้เวลานานหน่อยกว่าเหยื่อติดเบ็ด”
“งั้นเราให้พวกเขาพาเราไปที่ที่มีปลาหมึกเยอะๆกันมั้ยคะ”
“เห็นคุณปู่บอกว่าคนขับจะพาเราไปตกหมึกที่ไหนสักที่แต่กว่าจะถึงที่หมายน่าจะค่ำเลย ระหว่างนี้เรามาตกปลาเล่นๆกันมั้ย สนุกไม่แพ้ตกหมึก”
“งั้นเรามาตกปลากันเลยมั้ยคะ”
“ใจเย็นๆก่อนสิคะ พ่อเตรียมอุปกรณ์ยังไม่เสร็จเลย”
“คุณแม่มาแล้ว”
“นึกว่าพากันไปเล่นน้ำ”
“คุณพ่อกำลังจะสอนน้องปิ่นตกปลาค่ะคุณแม่”
“คุณตกปลาเป็นหรอ?”
“อ้าว! ถ้าไม่เป็นจะพาคุณกับลูกมาทำไม”
“ก็แค่ถาม”
“ว่าแต่คุณเถอะ เคยตกปลาบ้างเปล่า”
“เคยอยู่สองสามครั้งตอนอยู่ต่างประเทศ”
“งั้นคุณตกปลา ส่วนผมจะตกหมึกกับลูก แต่ก่อนอื่นช่วยไปบอกคนขับให้หยุดเรือสักชั่วโมงนึงแล้วค่อยออกเดินทางต่อ”
“โอเค”
“ทันทีเมื่อเรือหยุด สามคนพ่อแม่ลูกก็ช่วยกันตกหมึกและตกปลา”
“คุณพ่อคะ คุณแม่ได้ปลาแล้ว”เด็กหญิงชี้ไปที่ปลาตัวเล็กขาดพอกินได้ด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ
“เดี๋ยวเราก็ได้ แต่ต้องอดทนรอหน่อยนะ”
“คุณพ่อคะน้องปิ่นเปลี่ยนใจอยากไปตกปลากับคุณแม่”พูดจบเด็กหญิงก็เดินไปนั่งตักผู้เป็นแม่แทน
หญิงสาวเย้ยชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ ส่วนชายหนุ่มที่ไม่อยากน้อยหน้าจึงตั้งสติและมีสมาธิกับการตกหมึกและไม่นานเขาก็ได้หมึกดั่งที่ใจหวัง
“คุณพ่อได้หมึกแล้ว”เด็กหญิงเดินกลับไปหาผู้เป็นพ่ออีกครั้งเมื่อเห็นปลาหมึกตัวเป็นๆ
“บอกแล้วว่าให้ใจเย็นๆ”
“คุณพ่อเก่งที่สุดเลย คุณแม่ก็เก่ง”เด็กหญิงใช้นิ้วชี้เล็กๆจิ้มไปที่ปลาหมึกอย่างกล้าๆกลัวๆพอปลาหมึกดิ้นก็รีบเอานิ้วออกด้วยความตกใจ ปฏิกิริยาของเด็กหญิงทำเอาชายหนุ่มและหญิงสาวต่างพากันหัวเราะ
“หัวเราะทำไมคะ มันไม่ตลกสักหน่อย”
“โอเคๆ พ่อไม่หัวเราะละ”
“คุณพ่อคะน้องปิ่นปวดเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวแม่พาไป”พูดจบหญิงสาวก็จูงมึงเด็กหญิงเข้าไปข้างในเรือ
“คุณผู้หญิง!”ชายคนขับเรืออุทานด้วยความตกใจเมื่อโดนพบว่าถือปืนอยู่ในมือ
“นี่พวกคุณพกปืนมาด้วยทำไม”หญิงสาวที่เห็นปืนก็มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“พอดีพวกผมมีไว้ป้องกันตัว คือที่ที่เราจะไปอาจจะพวกโจรสลัด”
“สมัยนี้ยังมีโจรสลัดอยู่หรอ”
“ป้องกันตัวไว้ดีที่สุดครับ”
“ฉันเข้าใจแล้ว ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”หญิงสาวรีบเข้าไปในห้องน้ำ พอออกมาก็ไม่พบกับชายคนขับเรือที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ใกล้บันได
“คุณพ่อคะ น้องปิ่นกลัวโจรสลัด”
“โจรสลัดไหน สมัยนี้ไม่มีหรอกพวกโจรสลัด”
“ก็ลุงเขาบอกว่ามีโจรสลัด”
“นี่มันเรื่องอะไรกันคุณช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อย”
“ใจเย็นๆอย่าพูดเสียงดัง และอย่าหันหน้ามาทางฉันพวกเขาน่าจะจับตามองเราอยู่”
“ก็ได้ๆ งั้นเล่ามาว่าตอนที่คุณเข้าไปข้างในมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“ฉันเจอคนขับสองคนกำลังทำความสะอาดปืน พวกเขาอ้างว่ามีไว้ป้องกันตัวจากโจรสลัด แต่ฉันไม่เชื่อ และรู้สึกมีเรื่องไม่ชอบมาพากล”
“ถ้าพกปืนไว้ป้องกันตัวแล้วทำไมต้องเอาออกมาเวลานี้”
“ฉันก็คิดแบบคุณ”
“แล้วเราควรทำยังไงกันดี หรือโทรขอความช่วยเหลือเลยดีมั้ย”
“ถ้าคุณกลับเข้าไปข้างในตอนนี้พวกเขาจะสงสัย ทางที่ดีทำตัวปกติเข้าไว้ อีกครึ่งชั่วโมงเรือจะออก ถึงเวลานั้นเราค่อยกลับเข้าไปปรึกษากัน”
“แล้วไม่คิดว่าเราอาจจะโดนจัดการก่อนที่เรือจะออกหรอ”
“ถ้าพวกเขาต้องการจัดการเราที่นี่คงจัดการไปนานแล้ว ฉันคิดว่าพวกเขามีแผนการบางอย่างที่ไม่ใช่แค่ยิงเราทิ้งลงทะเลแล้วหลบหนีไป คุณสังเกตมั้ยว่าบริเวณนี้ไม่มีเรือลำอื่นเลย”
“จริงด้วย ผมเพิ่งสังเกตเห็น”
“ตอนนี้บรรยากาศเริ่มเงียบ คุณชวนลูกคุยไปก่อนเดี๋ยวพวกเขาสงสัย”
“ได้”ชายหนุ่มหันมาพูดคุยหยอกล้อกับลูกสาวเพื่อให้สถานการณ์ดูปกติที่สุด ส่วนเด็กหญิงที่ไม่รู้ประสีประสาก็หัวเราะคิกคักเมื่อถูกผู้เป็นพ่อแกล้ง