“ตะวัน ซื้ออะไรมาเยอะแยะลูก” เพียงใจเอ่ยถามลูกสาวเมื่อเห็นเธอหิ้วถุงอาหารหลายใบเข้ามาในบ้าน ตอนนี้แม่กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้วแต่ยังต้องไปติดตามอาการตามนัด
“วันนี้ป้าดาจะมากินข้าวด้วย”
“แล้วตะวันเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะลูก”
“แม่คือว่า…ตะวันลืมบอกแม่ว่าตะวันถูกลอตเตอรี่
“จริงเหรอลูก ดวงดีจัง ทำไมซื้อได้ล่ะ ปกติไม่เคยเห็นลูกซื้อ”
“ตะวันช่วยคนตาบอดค่ะ แต่ดวงดี”
“จ้ะ ลูกเป็นเด็กดี ถึงได้มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามา”
‘เรื่องดีๆ’
“ใช่ค่ะแม่ ต่อไปนี้ชีวิตพวกเราจะมีแต่ดีขึ้นนะคะ ตอนนี้ตะวันก็กำลังหางานทำอยู่”
“จ้ะลูก” สองแม่ลูกยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
“แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้วนะคะ น่าจะพอมีสำรองไว้จนตะวันหางานได้”
“จ้ะลูก”
“อ้อ ตะวันแล้วเสาร์นี้ใช่ไหมที่ลูกจะไปต่างจังหวัดกับหนูตา”
“ใช่ค่ะแม่ กลับวันอาทิตย์หน้าเลยนะคะ ป้าดาจะมาอยู่เป็นเพื่อนแม่นะ”
“ไม่เห็นต้องลำบากพี่ดาเลยลูก” เพียงใจเอ่ยขณะค่อยๆ หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ เพราะตอนนี้ยังเจ็บแผลผ่าตัดอยู่
“ไม่ลำบากหรอกย่ะ ชั้นน่ะหยุดอยู่แล้ว” เสียงของป้าดาดังขึ้น ขณะเธอเดินเข้ามาในบ้าน
“พี่ดา เพิ่งเลิกงานเหรอพี่ เหนื่อยไหม มานั่งพักก่อน
“อือเพิ่งถึงบ้าน ตะวันก็โทรให้มากินข้าว เห็นบอกว่ามีอาหารทะเลเผา”
“ใช่เลยค่ะ มาเลยป้าดามานั่งกิน ตะวันดีใจมากนะที่ได้เลี้ยงป้าดาบ้าง ปกติได้กินแต่อาหารดีๆ จากป้าดา ครั้งนี้ตะวันได้เป็นเจ้ามือแล้วนะ”
“เอาสิ ป้าจะกินให้พุงกางเลย” ป้าดาส่งยิ้มให้ตะวัน ทั้งหมดนั่งกินข้าวด้วยกัน ตะวันพยายามเก็บเกี่ยวความสุขใจตอนนี้เอาไว้เพราะเธอไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
.......................................................
เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสแต่ทว่าเพียงตะวันกลับไม่ได้สดใสเลยสักนิด เมื่อคืนเธอได้รับสายจากคนที่ชื่อหลี่เฟยลูกน้องของเจ้านายป้าดา เขาบอกว่าจะมารับเธอตอนสิบโมงเช้า ตะวันรีบบอกให้เขาไปรอที่ปั๊มน้ำมันเพราะกลัวแม่จะสงสัย
หลี่เฟยบอกเธอว่าไม่ต้องเอาอะไรมาเพราะทุกอย่างถูกเตรียมไว้ให้หมดแล้วแต่ตะวันก็เอาไปอยู่ดีไม่อย่างงั้นแม่ก็จะสงสัยเอา
ตะวันเดินลงไปที่ชั้นล่าง ป้าดามาหาแม่ตั้งแต่เช้าตรู่ พวกเธอกำลังนั่งดูข่าวเช้าพร้อมจิบน้ำเต้าหู้ กินปาท่องโก๋ อย่างอารมณ์ดี
“จะไปแล้วเหรอลูก”
“ค่ะแม่”
ป้าดาพยุงแม่ตะวันให้ลุกขึ้นเพื่อจะได้เดินไปส่งเธอที่หน้าบ้าน
“เดินทางปลอดภัยนะตะวัน” ป้าดาเอ่ย
“ค่ะป้าดา ตะวันฝากแม่ด้วยนะคะ แม่รอตะวันกลับมาก่อนนะค่อยไปหาหมอตามนัด”
“จ้ะ” ตะวันกอดลามารดากับป้าดาก่อนที่เธอจะเดินไปยังปั๊มน้ำมันตามนัด
ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงหลังจากมาเฟียหนุ่มทำตามสัญญาทั้งเรื่องการรักษาแม่รวมถึงเงินเรื่องสองแสนที่เขาให้เธอเป็นค่าจ้าง เพราะฉะนั้นถึงตาตะวันแล้วที่ต้องทำตามสัญญา
แต่มันก็...ช่างทำใจลำบากเหลือเกินสำหรับเด็กสาวที่ไม่เคยมีแม้กระทั่งแฟน นับประสาอะไรกับเรื่องอย่างว่า
ตะวันเดินมาเรื่อยๆ จนถึงปั้มน้ำมันก่อนจะเห็นรถเบนซ์คันงามจอดอยู่ เมื่อหลี่เฟยเห็นเธอจึงเดินลงมาเปิดประตูให้ ตะวันสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะก้าวขึ้นรถไป
“คุณจางได้รับผลตรวจร่างกายคุณตะวันแล้วนะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยครับ”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวผมจะพาคุณตะวันไปที่สปาก่อนนะครับ แล้วค่อยไปคฤหาสน์ของคุณจาง”
“ท..ทำไมต้องไปด้วยคะ”
“เพื่อจะได้เตรียมตัวสำหรับคืนนี้ครับ”
หญิงสาวตอบรับอย่างเข้าใจก่อนจะมองออกไปยังหน้าต่างรถ
ตะวันนั่งนึกถึงใบหน้าของคุณจาง เธอยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นใครที่มีใบหน้าหล่อเหลา และดูดีได้ถึงขนาดนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้าบ่งบอกถึงความมีรสนิยมและการถูกดูแลเป็นอย่างดี เสื้อผ้าที่สวมใส่ น้ำหอมที่เขาใช้ช่างชวนให้หลงใหล แต่ทว่าเขากลับเย็นชาจนเธอรู้สึกเย็นยะเยือกเวลาที่อยู่ใกล้ๆ
แต่...เขาดูไร้หัวใจ…คนไร้หัวใจแบบนั้นน่ะเหรอจะเป็นพ่อคน…ช่างมันเถอะ...ตะวันรีบไล่ความคิดพวกนี้ออกไปเพราะมันอาจจะทำให้งานของเธอยากขึ้น
“ถึงแล้วครับ”
“ค่ะ”
พนักงานร้านสปาหรูรีบมาเปิดประตูให้หญิงสาวก่อนจะเอ่ยทักทายหลี่เฟยจากนั้นจึงพาตะวันเข้าไปในร้าน
“ทางร้านของเรารู้สึกเป็นเกียรติมากนะคะที่ได้ดูแลคุณตะวัน แขกคนพิเศษของคุณจาง” พนักงานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ”
“เชิญทางนี้เลยค่ะ”
เหล่าพนักงานพาตะวันไปยังห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ก่อนจะเริ่มให้บริการอย่างมืออาชีพทั้งขัดผิว นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ทำทรีตเม้นท์ผม เรียกได้ว่าดูแลตั้งแต่หัวจรดเท้า
“รูปร่างของคุณตะวันดีมากเลยนะคะ ไม่มีไขมันส่วนเกินเลย”
“ใช่ค่ะ ผิวก็เนียนสวยมาก สงสัยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี”
พนักงานเหล่านี้คงคิดว่าตะวันเป็นลูกผู้ลากมากดีแต่ที่ไหนได้ก็แค่เด็กจนๆ คนนึงเท่านั้น
ตะวันรู้สึกสบายผ่อนคลายเป็นอย่างมาก มากจนทำให้นึกถึงแม่ ป้าดา และสองสาวที่ร้านคาเฟ่ คงดีไม่น้อยถ้าพวกเธอจะได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้บ้าง ผู้หญิงแบบพวกตะวันนั้นทำงานสายตัวแทบขาด คงไม่มีทางเอาเงินมาทำอะไรแบบนี้เพราะมันสิ้นเปลือง
“เดี๋ยวสุดท้ายจะเป็นการทำเล็บมือเล็บเท้านะคะ”
“ค่ะ”
ตะวันนอนหลับอย่างง่ายดายเพราะความเหนื่อยล้าสะสมจากที่ต้องดูแลแม่มาหลายอาทิตย์
พนักงานปลุกเรียกตะวันหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ เธอลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เนื้อตัวของเธอนั้นหอมมาก ผิวพรรณอ่อนนุ่ม สบายตัวแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ตะวันลุกเดินออกไปหาหลี่เฟยที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอ เมื่อเขาเห็นเธอจึงเดินไปชำระเงิน พนักงานต่างดีใจเมื่อได้ทิปปึกใหญ่จากคุณหลี่เฟย
“แล้วมาใช้บริการอีกนะคะคุณตะวัน”
ตะวันส่งยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถโดยหลี่เฟยเป็นคนปิดประตูให้แล้วเขาก็เดินไปยังที่นั่งคนขับ
“คุณหลี่เฟยคะ เอ่อ เมื่อกี้เสียเงินไปเท่าไหร่คะ” ตะวันอยากรู้เพราะจะได้พาเหล่าสาวๆ มาใช้บริการบ้าง
“คุณตะวันไม่จำเป็นต้องทราบครับ เพราะมันเป็นเรื่องเล็กน้อย”
“คือตะวันอยากรู้ เผื่อจะได้พาแม่ ป้าดาแล้วก็เพื่อนๆ มาค่ะ”
ลูกน้องหนุ่มชั่งใจสักพักก่อนจะบอกสิ่งที่เธออยากรู้
“ทั้งหมดราคาสองหมื่นห้าพันบาทครับ”
“สองหมื่นห้า” เมื่อได้ยินราคาตะวันก็พับเก็บโครงการไว้ ร้านนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่แต่เดี๋ยวเธอหาร้านอื่นก็ได้
หลี่เฟยขับรถพาตะวันมาจนถึงคฤหาสน์ แม้จะเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ชินสักที เมื่อรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้าน เหล่าแม่บ้านที่ตะวันคุ้นเคยดีก็ออกมาต้อนรับ แต่ทว่าท่าทีของพวกเธอกลับแปลกไป พวกเธอยิ้มให้และโค้งคำนับอย่างสุภาพการพูดการจาก็ต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด
“เชิญคุณตะวันเข้าไปข้างในก่อนนะคะ เดี๋ยวเราเอาของไปเก็บให้ค่ะ” นิ่ม สาวใช้ยื่นมือมารับกระเป๋าของตะวัน ตะวันยื่นให้ก่อนจะตามพวกเธอเข้าไป
“เชิญคุณตะวันไปทานข้าวก่อนนะคะ”
ตะวันมองไปยังอาหารมากมายที่ถูกจัดวางอย่างดีบนโต๊ะอาหาร
“มีใครทานกับตะวันบ้างคะ”
“ไม่มีค่ะ ทั้งหมดนี้เพื่อคุณตะวันคนเดียวค่ะ”
ตะวันนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะรีบกินอย่างประหม่าเพราะทั้งเหล่าแม่บ้าน หลี่เฟยและบอดี้การ์ดกำลังยืนดูเธออยู่
หลังจากทานเสร็จแล้วพี่ดวงก็พาตะวันขึ้นไปยังห้องพักซึ่งอยู่ถัดจากห้องนอนของคุณจาง เมื่อตะวันเข้าไปในห้องนั้นก็ต้องตกตะลึงในความสวยงาม เตียงนอนขนาดกำลังดีมีเสาพร้อมมุงสีขาวถูกมัดไว้ทั้งสี่ด้าน เฟอร์นิเจอร์ทุกตัวสวยงามมีเอกลักษณ์จนตะวันไม่กล้าแม้จะหย่อนก้นลงไปนั่ง
“เสื้อผ้าทั้งหมดอยู่ในตู้นะคะ ส่วนของใช้ต่างๆ อยู่ในห้องน้ำเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“คุณตะวันพักผ่อนตามสบายเลยนะคะ แต่ต้องอาบน้ำแต่งตัวก่อนสามทุ่ม เมื่อถึงเวลาสามทุ่ม ให้คุณตะวันออกไปรอคุณจางที่ห้องฝั่งตรงข้ามนะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ดวง” ตะวันตอบรับ ดวงเดือนยิ้มให้เธอน้อยๆ อย่างเจียมตัว ก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป
หญิงสาวเดินสำรวจดูรอบห้อง ของใช้ต่างๆ ที่ถูกเตรียมไว้อย่างดีมีแต่ของแบรนด์เนมที่ตะวันเคยเห็นในทีวี
ตะวันนั่งลงบนโซฟาก่อนเปิดโทรทัศน์ดูฆ่าเวลา ในใจร้อนรุ่ม ยิ่งใกล้ถึงเวลาเธอยิ่งรู้สึกกลัวและกังวล
และเมื่อถึงเวลาสองทุ่มตะวันก็เข้าไปอาบน้ำสระผม ก่อนจะออกมาทาครีมบำรุงผิวแล้วหาเสื้อผ้าใส่ แต่เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าตู้แรกออกเธอก็ต้องตกใจเพราะมันเต็มไปด้วยชุดนอนสุดวาบหวิว
“ให้ตายเหอะ นี่มันอะไรกัน” ตะวันมองไปยังกระดาษที่แหวนบอกว่าให้เธอใส่ชุดเหล่านี้ทุกคืน
ตะวันนั่งคิดอยู่นานสองนานเกิดมาไม่เคยใส่อะไรแบบนี้มาก่อน เธอคิดไม่ตกจนเกือบถึงเวลานัด ก่อนตัดสินใจหยิบเสื้อผ้าของตัวเองจากเป้สะพายหลังมาใส่แทนชุดสุดวาบวิบ แล้วเดินออกไปยังห้องฝั่งตรงข้ามทันที
เมื่อตะวันผลักประตูเข้าไป ก็พบกับแสงไปสีส้มสลัวจากโคมไฟบนหัวเตียง เธอไม่ต้องใช้ความพยายามในการมองหาเจ้าของบ้านเพราะเขากำลังนั่งดื่มไวน์อยู่บนโซฟาพลางจ้องเขม็งมองเธอในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวเอวยางยืด
“ไหนว่ามีความเป็นมืออาชีพ” เขาเอ่ยเสียงเย็นก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้น ช่างเป็นยิ้มที่ชวนสยองมากกว่าชวนมอง…