“มิสเตอร์แอดดิสัน”
ทนายความที่ได้ชื่อว่ามือดีที่สุดคนหนึ่งในนิวยอร์กหันมาทางชายหนุ่มคนเดียวที่เหลืออยู่แล้วมองเขาด้วยความเห็นใจ เขาเองพอจะรู้อะไรมาบ้างจากเส้นสายที่ตัวเองมี และคิดว่าการกระทำนั้นของมิสเตอร์พาวเวลล์นั้นเหมาะสมแล้ว ทว่าคุณหนูทายาทคนเดียวนั้นกลับไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
และไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้อยู่ในความดูแลจากคนตระกูลแอดดิสัน
“ไม่เป็นไรแบล็ก” แอชตันปฏิเสธด้วยท่าทีเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ความโกรธเคืองในตัวเด็กสาวผู้ไม่รู้จักความคนนั้นแม้แต่น้อย “ผมคุ้นกับอารมณ์เด็กสติแตกของเธอมานานหลายปีแล้ว”
และการยั่วให้เธอสติแตกได้ส่วนใหญ่ก็เป็นความสนุกของเขาด้วย ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่แอชตันจะเอ่ยออกไปได้
“ครับ” ทนายความหนุ่มจะเอ่ยอะไรได้นอกจากรับคำ ก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองต่อไป “งั้นคุณช่วยเซ็นรับทราบตรงนี้ด้วย”
เขาพูดพลางยื่นเอกสารไปให้แอชตันที่รับเอกสารมาอ่านอย่างถี่ถ้วน จากนั้นจึงยอมเซ็นชื่อตัวเองลงไป พร้อมกับเอ่ยว่า
“แล้วผมจะให้ทนายของผมคุยกับคุณอีกที”
เนื่องจากนี่เป็นการแจ้งถึงพินัยกรรมเท่านั้น สิทธิอื่นๆ ยังต้องจัดการอีกมากและมีความยุ่งยากพอสมควร แต่นั่นก็เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ทนายความหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักรับ ก่อนจะค้นเอกสารของตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขายังทำหน้าที่ของตนเองไม่เสร็จสิ้น
“อ้อ มิสเตอร์คริสเตียนฝากข้อความถึงคุณไว้ด้วย แล้วก็...อย่างที่คุณรู้ ผมว่าคุณควรจะรีบเข้าไปคุยกับพวกดาร์ลิงตันด้วย”
“…”
“มิสเตอร์พาวเวลล์เป็นคนดี ผมไม่อยากให้ลูกสาวของเขาไม่เหลืออะไรเลย”
แบล็กหลุดความในใจของเขาออกไปจนได้ ขณะที่แอชตันได้แต่หลุดยิ้มมุมปากออกมาเท่านั้น แล้วจึงปลอบใจทนายความประจำตัวของวิลเลียมออกมา
“คุณช่วยเธออย่างสุดความสามารถแล้วแบล็ก” เขารับปาก แม้ไม่ได้ฟังหนักแน่น แต่คำสัญญาจากแอชตันก็ทำให้รู้สึกไว้วางใจได้
“แต่ก็คงจะยังไม่มากพอที่เธอจะเข้าใจอะไรๆ”
ทนายความหนุ่มเอ่ยปากด้วยความรู้สึกหนักใจแทน แอชตัน ซึ่งมีงานหนักรออยู่ตรงหน้า ขณะที่ชายหนุ่มได้แต่ยื่นมือไปรับเอกสารจากทนายความ ก่อนจะส่ายหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่งและไม่มีความหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย
“สักวันเธอจะเข้าใจ”
แอชตันรู้ว่าสริตาไม่ใช่คนโง่...และถ้าเธอเลิกดื้อ เธอก็จะเห็นเองว่าอะไรเป็นอะไร...
----------------
หลังจากที่ทนายความเดินจากไปแล้ว ทั้งห้องก็เหลือเพียงแอชตันคนเดียวเท่านั้น และเนื่องจากเขาเพิ่งทำให้สริตาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจึงไม่คิดจะขึ้นไปตอแยหญิงสาวในยามนี้ แต่ก็พอจะเบาใจได้บ้างว่าให้เธอเกลียดเขาไปแทนที่จะรู้สึกเศร้าเพราะเพิ่งฝังศพคนในครอบครัวไปเสียยังดีกว่า
สุดท้ายเมื่อยังไม่อยากไปจากที่นี่เร็วเท่าไรนัก แอชตันจึงเปิดซองเอกสารที่ทนายความยื่นให้เขาก่อนจะจากไป แล้วพบว่าข้างในนั้นมีเพียงจดหมายที่มีข้อความไม่ยาวมากฉบับเดียว
แอชตันมองชื่อผู้เขียนแล้วขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเริ่มต้นอ่านจดหมายที่ส่งมาจากเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกใจที่ยากจะระงับได้
แอชตัน
ฉันรู้ว่านายคงไม่ดีใจหรอกที่ได้อ่านจดหมายของฉันตอนนี้ ฉันรู้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วนไปหน่อย แต่ฉันไม่ไว้ใจคนอื่นเลยนอกจากนายที่เป็นเพื่อนรักของฉัน เพราะฉันรู้ว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้น นายคือคนเดียวที่พึ่งพาได้เสมอ คนเดียวที่ฉันมองว่าเป็นทางออกในเวลานี้
ถ้าฉันเป็นอะไรไป...ขอฝากครอบครัวของฉันไว้ด้วย
คริสเตียน
ป.ล. ฉันหวังว่านายกับซีจะไม่ทะเลาะกัน ถ้าเธอรู้ว่าฉันทำอะไรลงไปด้วยการให้นายเป็นผู้ปกครองของเธอ ฉันให้อำนาจกับนายแล้ว และหวังว่านายจะจัดการกับมันให้ดี