ตอนที่10

972 Words
สริตาจ้องมองทนายความคนนั้นเขม็ง อีกฝ่ายที่กำลังพูดถึงการที่เธอจำเป็นต้องมีผู้ปกครองก็หยุดชะงักเช่นเดียวกัน “ครับ” เขาทำเสียงสูงคล้ายกับจะถามว่าเธอมีปัญหาอะไร และนั่นทำให้สริตารีบถามออกไปอย่างรวดเร็วทันที “เมื่อกี้นี้น่ะค่ะ คุณกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหมคะมิสเตอร์แบล็ก” ทว่าสีหน้าคนฟังกลับขึงขัง ไม่ได้มีท่าทีล้อเล่นสักนิดในตอนที่ปฏิเสธเสียงหนักแน่น “ผมไม่ได้ล้อเล่น นี่เป็นความจริงครับ” และการที่เขาย้ำเช่นนั้นก็ทำให้สริตาแทบจะสำลักลมหายใจของตนเอง “ฉันโตแล้วนะคะ ฉันไม่ต้องการผู้ปกครอง” อันที่จริงจะให้ใครมาเป็นผู้ปกครองของเธอก็ได้ แต่ทำไม...ทำไมถึงต้องเป็นเขา! “แต่คุณยังไม่โตพอจะดูแลทรัพย์สินของตัวเอง” มิสเตอร์แบล็กเอ่ยอย่างหนักแน่น ก่อนจะเบือนหน้าไปมองแอชตันซึ่งนั่งถัดไปจากเธอ “และมิสเตอร์แอชตัน แอดดิสันก็ได้รับความไว้วางใจจากทั้งพี่ชายและพ่อของคุณให้เขาเป็นผู้ดูแลของคุณจนกว่าคุณจะมีความสามารถในการดูแลบริษัทด้วยตัวเอง” ซึ่งนั่นหมายถึงอาจจะสิบปีขั้นต่ำ ถ้าแอชตันจะคิดว่าเธอไร้ความสามารถ! บ้าเหรอ! ทำไมเธอจะต้องมาเจอเรื่องช็อกหัวใจอย่างการที่เธอได้แอชตัน แอดดิสันมาเป็นผู้ปกครองด้วย! ผู้ปกครองนี่นะ! พ่อกับพี่ชายคิดอะไรถึงได้เขียนพินัยกรรมบ้าๆ นี้ขึ้นมากัน! “ฉันรู้ว่าฉันสามารถจ้างผู้บริหารภายนอกเข้ามาทำงานต่อได้” หญิงสาวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว บริษัทจะไม่เป็นอะไรถ้าเธอจะจ้างผู้บริหารระดับสูงที่ไว้ใจได้มาทำงานในตำแหน่งรักษาการแทนเธอซึ่งยังไม่พร้อมที่จะดูแลอาณาจักรพาวเวลล์ในตอนนี้ หญิงสาวปรายตามองคนที่นั่งข้างๆ อีกครั้ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่จำเป็นที่จะต้องให้เขา...” ทว่ามิสเตอร์แบล็กกลับส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย และไม่ยอมให้เธอโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น “เรื่องนี้เป็นรายละเอียดที่จะคุยกันต่อไป” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าเต็มไปด้วยความไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย “แต่ใจความในวันนี้คือผมต้องแจ้งให้คุณทราบว่านับจากวันนี้ไปมิสเตอร์แอดดิสันจะเป็นคนดูแลคุณหนู รวมถึงทรัพย์สินและทุกๆ เรื่องด้วย” การยืนยันอย่างหนักแน่นเช่นนั้นทำให้สริตาโมโหปึงปัง จนพาลโทษว่าเป็นความผิดของแอชตันอย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมแด๊ดกับพี่ชายต้องทำแบบนนี้ด้วย!” และถึงจะไม่พูดทว่ามหาเศรษฐีหนุ่มกลับรู้ทัน และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มิสเตอร์แบล็กเปิดพินัยกรรมที่เขาพูดขึ้นมาว่า “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง” และการปฏิเสธของเขาก็ทำให้เธอระเบิดปังอย่างระงับไม่อยู่อีกต่อไป “คุณลุงจ้างเขามาใช่ไหม!” เธอชี้นิ้วใส่หน้าเขาพลางกล่าวหา “คุณลุงปลอมพินัยกรรมหรือเปล่า!” แอชตันนิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจ ทว่าเขายังไม่ทันได้ปฏิเสธ ก็เป็นมิสเตอร์แบล็กที่เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพราะเขากำลังโกรธที่ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกัน “ผมขอตอบเองว่ามิสเตอร์แอดดิสันไม่ได้ทำ!” ทนายความมือดีที่สุดในนิวยอร์กปฏิเสธเสียงเย็นชา “และมิสเตอร์พาวเวลล์ทั้งสองท่านก็มีสติสมบูรณ์ดีในตอนที่เขาเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมฉบับล่าสุดเมื่อสามเดือนก่อน! และผมขอเตือนคุณหนูว่าไม่ควรใส่ร้ายผมแบบนั้น เพราะผมมีจรรยาบรรณในการทำงานมากพอจะไม่รับเงินของใคร!” “แล้วมันเกิดเรื่องบ้าๆ พวกนี้ได้ยังไง” สริตาโวยวายอย่างคนรับความจริงไม่ได้ มันยากที่จะทำใจว่าเธอจะต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของคนที่เธอเกลียดอย่างอีตาลุงนั่น! “คนที่ควรจะเข้ามาดูแลหนูหรือทรัพย์สินอื่นๆ ควรจะเป็นคุณลุงเควินสิ!” หญิงสาวพยายามโต้แย้ง ถ้าใครสักคนจะเหมาะสมก็ควรจะเป็นคุณลุงเควิน ดาร์ลิงตัน ถึงเขาจะเป็นญาติห่างๆ ก็ตามที แต่ก็คือญาติไม่ใช่คนนอกอย่างแอชตัน แอดดิสัน! “ผมไม่ทราบ” คำตอบเย็นชาของทนายทำให้สริตาเลือดขึ้นหน้า ทว่าก่อนที่เธอจะได้โวยวายต่อ แอชตันก็ดึงแขนเธอแล้วกำข้อมือเธอแน่นพลางฉุดให้เธอนั่งลงแรงๆ แล้วตักเตือนเธอเสียงเข้มจัดว่า “สงบสติอารมณ์ของเธอซะ” คราวนี้สริตาหันไปแหวใส่เขา พร้อมกับสะบัดข้อมือแรงๆ เพื่อให้หลุดจากมือใหญ่ของอีกฝ่ายซึ่งบีบข้อมือเล็กของเธอเอาไว้แน่น “คุณลุงมายุ่งอะไรด้วย!” แอชตันยอมปล่อยหญิงสาว ขณะที่จ้องมองเธออย่างเย็นชาแล้วสั่งเธอด้วยท่าทางของคนที่อยู่เหนือกว่า “เพราะฉันเป็นผู้ปกครองของเธอแล้วตอนนี้สริตา ถ้ายังไม่หายบ้าก็ขึ้นไปบนห้องนอนตัวเองแล้วอยู่ในนั้นซะ” “…” “เพราะเธอเปลี่ยนแปลงความจริงอะไรไม่ได้หรอก” สริตาน้ำตาคลอ และไม่อยากร้องไห้ออกมาต่อหน้ามหาเศรษฐีหนุ่มเป็นครั้งที่สองแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นเพราะความโกรธก็ตาม เธอผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ตะคอกใส่หน้าเขาเสียงดังแล้วรีบวิ่งกลับไปยังห้องนอนของตนเองตามคำสั่งของผู้ปกครองคนใหม่ด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธและคับแค้นใจ และประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในห้องระหว่างที่เจ้าของวิ่งลับหายไปจากห้องรับแขกหรูหราของตระกูลพาวเวลล์แล้ว “ฉันเกลียดคุณ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD