เช้าของวันใหม่...
“ขับรถดี ๆ นะครับหนูกั้ง”
ลุงบุญส่งกุญแจรถคู่ตัวของกีรกานให้ โดยช่วงก่อนตั้งครรภ์หญิงสาวขับรถไม่เป็น และหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นเจ้าหล่อนก็เกิดความกลัวไม่น้อยเพราะต้องสูญเสียลูกสาวไป
แต่กีรกานก็เรียกขวัญที่แตกกระเจิงให้กลับมาพร้อมกับทำใจกล้าขอให้ลุงบุญสอนขับรถ เหตุผลเพราะหากในยามวิกาลเกิดลูกสาวป่วยขึ้นมา เธอจะได้พาลูกสาวไปโรงพยาบาลได้ทันท่วงที และไม่อยากจะเป็นภาระของบุญไปตลอด
รถที่หล่อนซื้อมาก็เป็นรถกระบะมือสอง กีรกานไม่เคยเอ่ยปากขอเงินจากภามสักครั้ง ซึ่งไร่กุหลาบที่ทำให้มีเงินเก็บไว้ให้ลูกน้อยมันก็เป็นของเขา หล่อนไม่อยากได้อะไรจากเขาเพราะละอายแก่ใจในเรื่องที่มารดาได้ทำไว้
“ค่ะลุงบุญ ไว้ถึงแล้วกั้งจะโทร.หานะคะ”
เพราะรู้ดีว่าชายวัยกลางคนเป็นห่วง เธอก็เคารพบุญเหมือนพ่อคนหนึ่ง
เครื่องยนต์ถูกสตาร์ตขึ้นก่อนจะเคลื่อนรถออกแล้วมุ่งตรงไปยังกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่อันวุ่นวายและรถคลาคล่ำเต็มท้องถนน จุดหมายปลายทางของกีรกานคือบ้านธีรวานนท์
ในตอนนี้เวลาประมาณบ่ายโมงตรงและเวลาคร่าว ๆ ที่จะเดินทางไปถึงก็น่าจะประมาณไม่เกินบ่ายสี่โมงเย็น และในเวลานี้คนตัวเล็กก็เดินทางมาถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว กำลังเลี้ยวรถเข้ามาในบ้าน ซึ่งก็พบว่ารถของภามจอดอยู่ ใบหน้านวลมีรอยยิ้มขึ้นมา
ก่อนเท้าคู่เล็กจะก้าวออกจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน หัวใจดวงน้อยก็เต้นตึกตัก
และเมื่อเข้ามาใกล้ขึ้นก็ได้ยินเสียงของเขา แต่ชั่วประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นหูทั้งสองข้างก็ได้ยินเสียงหนึ่งซึ่งทำให้หัวใจเต้นระส่ำ ริมฝีปากเม้มแน่น แถมเมื่อฟังประโยคสนทนาแล้ว มันยิ่งทำให้หัวใจเจ็บแปลบแทบทนไม่ได้
“แกน่ารักนะคะ หน้าจิ้มลิ้มแล้วเหมือนคุณภามมากเลยค่ะ” เสียงใสบอกพร้อมกับยื่นมือไปจับใบหน้าของลักษณ์นารา แถมยังเดินเข้าไปใกล้แล้วหอมแก้มยุ้ยอีกต่างหาก
“ขอบคุณครับ” ภามกล่าวและยิ้มให้
“ถ้าสองได้เป็นแม่ของแกก็คงจะดี คุณยายท่านจะได้ดีใจ และสองก็ดีใจ” หล่อนบอกน้ำเสียงระคนเศร้าพลางเหลือบมองใบหน้าของเจ้าของบ้านนี้
“สองครับ” ชายหนุ่มเรียกชื่อของผู้หญิงตรงหน้าเสียงอ่อน เพราะตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา เขาก็ชัดเจนมาเสมอในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขาและสรัลชนา
“สองขอโทษค่ะ สองไม่น่าทำให้คุณลำบากใจ ผู้หญิงอย่างสองคงเป็นแม่คนไม่ได้ ไม่งั้นคุณคงจะเลือกสองแล้ว” ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองมาโดยตลอดว่าทำไมภามถึงไม่เลือกเธอ ทั้งที่เขาเคยมีโอกาสเลือกแล้ว และภามก็รู้มาโดยตลอดว่าเธอหลงรักเขาตั้งแต่เด็ก
“สองทำไมคิดแบบนั้นครับ ผมรู้ว่าหากสองได้เป็นแม่คน คุณต้องเป็นแม่ที่ดีแน่”
“หากวันหนึ่งในอนาคตมีหนทางให้เลือกและคุณเลือกได้ คุณจะเลือกสองได้ไหม” เมื่อพูดประโยคนี้จบ สรัลชนาก็เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบและหวังให้ตัวเองยังมีความหวัง เพราะหากเป็นเช่นนั้น เธอก็พร้อมจะทำทุกอย่างให้มันเป็นจริง
คำถามนี้ทำให้สีหน้าของภามเปลี่ยนไป มันหนักไปทางใจ ก่อนริมฝีปากหยักจะอ้าออกเพื่อตอบคำถาม แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ตอบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทั้งภามและสรัลชนาหันไปมอง
“กั้งมารับลูกค่ะ”
กีรกานไม่อาจทนฟังคำตอบได้ เพราะหัวใจอาจจะแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี แค่เพียงต้องมาเจอคนทั้งคู่อยู่ด้วยกันมันก็เล่นงานหัวใจเธออย่างหนักหน่วงแล้ว
ถ้อยคำที่ได้รับตอบคืนมาจากปากของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำให้เธอแทบล้มทั้งยืน
“กลับไปซะ ฉันไม่ได้บอกให้เธอมา” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเช่นที่สนทนากับสรัลชนาสักนิด
“แต่กั้งจะมารับยัยกี้กลับ ส่งลูกมาให้กั้งเถอะค่ะ” กีรกานสาวเท้าเข้าไปใกล้ แต่ภามกลับไม่ยินยอมและขยับหนี
“ลูกต้องกลับกับฉัน ส่วนเธอกลับไปซะ ฉันจะไปส่งลูกเอง” เขาว่าและทำสีหน้าดุกระด้าง เพราะไม่พอใจกับการมาของกีรกาน
“ไม่ต้องห่วงนะคะคุณกั้ง สองจะช่วยดูแกเองค่ะ สองรักแกเหมือนลูกของสองเอง” สรัลชนาจงใจพูดและยิ้มหวาน แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มและคำพูดที่เชือดหัวใจคนฟังได้เป็นอย่างดี เพราะรู้ดีว่าสรัลชนาหมายปองสิ่งใด
“ป้อ…แม่กัง…” หนูน้อยที่เห็นหน้ามารดาก็ยิ้มจนตาหยี ก่อนจะทำมือคล้ายอยากจะไปหาแม่
“กลับไปซะ” เมื่อพูดจบภามก็เดินหนีขึ้นไปบนห้องทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้กีรกานได้กอดลูกสาวสักครั้งหนึ่ง ด้านสรัลชนาก็ยิ้มมุมปากอย่างชอบใจแล้วเดินตามเจ้าของบ้านไป
“ไอ้คนใจร้าย”