หลังจากทานข้าวเสร็จพราวฟ้าก็กลับขึ้นมาบนห้อง สู่โลกส่วนตัวของตัวเอง เปิดซีรีส์เรื่องโปรดดูตามสไตล์สาวเพ้อฝันที่อยากจะได้ผู้ชายดีๆ เหมือนโอปป้าในซีรีส์เธอชอบดูมาเป็นคู่ชีวิต แต่ในชีวิตจริงมันยากเหลือเกินที่จะหาผู้ชายแบบนั้น
ถึงพราวฟ้าจะเป็นลูกสาวมหาเศรษฐี แต่เธอก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือยและเป็นเด็กดีมาตลอด ซึ่งบางครั้งก็หัวอ่อนไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน จนคนใกล้ตัวอดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจากหน้าห้อง ทำให้เจ้าของห้องละสายตาจากหน้าจอไปมองที่ประตูพร้อมกับเอ่ยอนุญาตเสียงหวาน
“เข้ามาเลยค่ะ ประตูไม่ได้ล็อก”
หลังจากเอ่ยอนุญาตไปประตูก็เปิดออกแล้วปรากฏร่างบางที่เหมือนเจ้าของห้องอย่างกับคนคนเดียวกัน จะแตกต่างกันก็ตรงการแต่งตัวเท่านั้น
“พี่ทำอะไรอยู่เหรอคะ?”
พิมพ์ดาวถามพี่สาวฝาแฝดขณะที่ก้าวเข้ามาในห้องหรูที่เหมือนกับห้องของเธอ จะแตกต่างกันก็ต่างกันตรงการตกแต่งและโทนสีเท่านั้น
“พี่ดูซีรีส์น่ะ พิมพ์มีอะไรหรือเปล่าจ้ะ?” พราวฟ้าพูดออกไปด้วยท่าทางใจดี
“พี่ชอบดูหนังพวกนี้เหรอ?”
พิมพ์ดาวไม่สนใจในคำถามของพี่สาวฝาแฝด แต่เลือกที่จะสนใจในสิ่งที่พี่สาวชอบ ซึ่งมันแตกต่างกับสิ่งที่เธอชอบมากๆ
“จ้ะ” พราวฟ้าตอบพร้อมรอยยิ้ม
“พิมพ์เข้าเรื่องเลยละกันนะ จะได้ไม่เสียเวลาดูซีรีส์ของพี่”
พิมพ์ดาวนั่งลงที่ปลายเตียงแล้วมองหน้าพี่สาวด้วยแววตาอ้อน เหมือนที่ชอบทำเวลาอยากได้อะไรจากหนุ่มๆ แต่เธอคิดว่ามันน่าจะใช้ได้ผลกับพี่สาวหัวอ่อนของเธอ
“มีอะไรหรือเปล่า?” พราวฟ้าถามออกไป เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของน้องสาว
“คือว่า... เอ่อ... พิมพ์...”
พิมพ์ดาวทำท่าทางกระอึกกระอัก เหมือนไม่กล้าพูด จนพราวฟ้าต้องถามขึ้นมาอีกครั้ง
“พิมพ์มีอะไรให้พี่ช่วยพูดมาเถอะจ้ะ เราสองคนก็เหมือนคนคนเดียวกัน”
“พิมพ์มีเรื่องรบกวนพี่พราว เรื่องสำคัญมากเลยค่ะ พี่พราวคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพิมพ์ได้”
พิมพ์ดาวพูดออกมาด้วยท่าทางลำบากใจ แล้วลุกขึ้นขยับมานั่งข้างๆ พี่สาว
“ถ้าพี่ช่วยได้ พี่ก็เต็มใจจะช่วย”
พราวฟ้ายื่นมือไปกุมมือของน้องสาวเมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของน้อง แล้วยังรู้สึกสงสารเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของน้องสาว ที่ต้องดิ้นรนทำงานทุกอย่างเพื่อเลี้ยงตัวเองกับแม่ ต่างจากเธอที่สุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง เอาเปรียบน้องสาวสุดๆ
“พี่พราวพูดแล้วนะ”
พิมพ์ดาวยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจ จนพี่สาวอดยิ้มตามไม่ได้ แล้วพยักหน้าแทนคำตอบ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพิมพ์ดาวจะให้ช่วยอะไร
“พี่พราวต้องสัญญากับพิมพ์ก่อนว่าพี่พราวจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกแม่”
พิมพ์ดาวพยายามอ้อนสุดกำลัง มารยามีเท่าไหร่ใส่ออกไปจนหมด จนพี่สาวคล้อยตาม
“ถ้าพิมพ์ไม่อยากให้บอก พี่ก็จะไม่บอก”
พราวฟ้ายอมทำตามความต้องการของพิมพ์ดาว เพราะเธอเชื่อว่าพิมพ์ดาวต้องมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น
“คือว่า... ตอนที่พิมพ์กับแม่ยังไม่เจอพี่พราว เราสองคนลำบากมาก งานพิมพ์ก็ไม่ค่อยมี เพราะแม่บังคับให้พิมพ์คบกับผู้ชายคนหนึ่ง...”
พราวฟ้าตั้งใจฟังที่พิมพ์ดาวเล่าอย่างตั้งใจ เพราะเธอก็อยากจะรู้เรื่องของแม่กับน้องให้มากกว่านี้เหมือนกัน
แล้วเธอก็ได้รู้ว่าน้องสาวของเธอรักผู้ชายคนนั้นมาก เพราะเขาคอยช่วยเหลือน้องสาวกับแม่ของเธอมาตลอด ซึ่งเธอก็พลอยดีใจไปด้วย แต่ที่เธอสงสัยก็คือเรื่องที่พิมพ์ดาวจะให้เธอช่วย
“พรุ่งนี้เช้าพิมพ์ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด เพราะมีถ่ายแบบช่วงเย็นค่ะ แต่พิมพ์ดันลืมไปว่าพรุ่งนี้มีนัดกับพี่วิน”
พิมพ์ดาวพูดออกมาด้วยท่าทางคิดหนัก เพื่อให้พราวฟ้าเชื่อในสิ่งที่เธอแสดงออกมา
“แล้วยังไงจ้ะ?”
พราวฟ้าถามออกไปด้วยความสงสัย พิมพ์ดาวมีนัดกับแฟน… แล้วว่ามันเกี่ยวอะไรกับเธอ
“พิมพ์อยากจะให้พี่ช่วยไปทานข้าวแทนพิมพ์หน่อยได้ไหมคะ”
พราวฟ้าเบิกตากว้างไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวจะให้เธอไปกับแฟนของตัวเอง ซึ่งมันดูไม่เหมาะเอาเสียเลย
“พี่ว่าพิมพ์โทรไปยกเลิกนัดกับแฟนดีไหม อธิบายให้เขาเข้าใจ”
พราวฟ้าลองเสนอดูแต่พิมพ์ดาวกลับส่ายหน้าไปมา
“พิมพ์ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะพิมพ์ผิดนัดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าพิมพ์เลื่อนนัดอีกมีหวังพี่วินคงต้องบอกเลิกพิมพ์แน่ๆ”
พิมพ์ดาวพยายามอ้อนสุดฤทธิ์ จนพราวฟ้าเริ่มคล้อยตาม แต่ก็เหมือนจะติดอะไรบางอย่าง
“นะคะพี่พราว ช่วยน้องสักครั้งนะคะ แค่ไปทานข้าวจริงๆ แล้วที่สำคัญพี่วินเป็นสุภาพบุรุษมาก ตั้งแต่คบกันมาพี่วินไม่เคยล่วงเกินพิมพ์เลย พี่พราวสบายใจได้”
พราวฟ้าคิดหนักไม่รู้จะทำยังไงดี ถ้าเธอไม่ช่วยก็กลัวพิมพ์ดาวจะหาว่าแล้งน้ำใจ
“ก็ได้จ้ะ พี่จะช่วยพิมพ์”
“ขอบคุณมากนะคะ รักพี่พราวที่สุดเลย”
พิมพ์ดาวสวมกอดพี่สาวฝาแฝดด้วยท่าทางดีใจ ก่อนที่จะออดอ้อนยืมรถสักคัน โดยอ้างว่าจะขับไปทำงานเองทั้งๆ ที่จริงเธอมีนัดกับผู้ชายอีกคน...
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ส่วนน้องสาวนี่ก็แสบไม่เบาเลยจริงๆ