บริษัทพีเอฟคอนดักชั่น
เช้าวันต่อมา
ภายในบริษัทที่เคยเงียบสงบตอนนี้กลับมีเสียงซุบซิบนินทาตามจุดต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่หน้าห้องทำงานของผู้บริหาร เพราะวันนี้ดารารายตามติดลูกสาวเข้ามาถึงบริษัท แล้วยังวางท่าราวกลับเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง
“นี่ห้องทำงานลูกเหรอ?”
ดารารายถามลูกสาวด้วยท่าทางตื่นเต้น ขณะที่เดินสำรวจไปรอบๆ ห้องทำงานหรูราวกับในละคร ที่จริงเธอก็รู้ว่าพ่อของลูกรวย แต่ตอนนั้นเธอดันมีคนที่ถูกใจกว่าจึงไม่ได้สนใจนัก กว่าจะรู้ว่ารวยก็ตอนที่สายไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะรวยขนาดนี้
“หนูบริหารเองทุกอย่างเลยเหรอลูก?”
ตอนนี้ในหัวของผู้หญิงเห็นแก่เงินคิดคำนวณรายได้เป็นที่เรียบร้อย ดูจากความหรูหราของบริษัทและพนักงานหลายร้อยคน บริษัทนี้คงทำเงินได้จำนวนมหาศาลแน่ๆ
“ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูมีคุณชานนท์เป็นคนช่วยดูแลและจัดการเรื่องต่างๆ ให้ค่ะ”
พราวฟ้าบอกไปตามตรงแล้วหันไปมองชานนท์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้เธอรู้สึกเกรงใจชานนท์อยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้เธอควรจะเตรียมตัวเข้าประชุม มากกว่ามาเสียเวลาเดินวนไปวนมารอบห้อง เพราะชานนท์ค่อนข้างเป็นคนจริงจังกับเรื่องงาน
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะเลื่อนประชุมออกไปก่อน”
ชานนท์บอกเสียงเรียบตามสไตล์หนุ่มมาดนิ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
พราวฟ้าเสียเวลาอยู่หลายชั่วโมงกว่าจะพาแม่เดินชมบริษัท โดยไม่รู้จุดประสงค์จริงๆ ของผู้เป็นแม่ หลังจากผู้เป็นแม่กลับไปพราวฟ้าก็เข้าประชุมต่อทันที เธอใช้เวลาประชุมเกือบทั้งวันเนื่องจากเสียเวลาไปในช่วงเช้า กว่าจะนึกขึ้นได้ว่ามีนัดก็เกือบจะมืดแล้ว
พราวฟ้ารีบกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัว แล้วออกมายังร้านที่นัดกันกับแฟนของพิมพ์ดาวทันที โดยที่เธอต้องปลอมตัวเป็นพิมพ์ดาว ตอนแรกเธอก็ไม่อยากจะทำแบบนี้ แต่พิมพ์ดาวยืนยันว่าแฟนของเธอเป็นสุภาพบุรุษไม่เคยล่วงเกินเธอเลยสักครั้งได้ยินเช่นนั้นพราวฟ้าก็โล่งใจ
..
ผับหรูแห่งหนึ่ง
พราวฟ้าก้าวเข้ามาในผับหรูด้วยท่าทางนิ่งเรียบ แต่ข้างในกลับตื่นกลัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในสถานที่แบบนี้คนเดียว เธอจำได้ว่าเคยมาเที่ยวผับครั้งแรกตอนที่เธอมาฉลองเรียนจบกับเพื่อน และครั้งล่าสุดที่เป็นครั้งที่สองคือตอนงานวันเกิดของแอนนาเพื่อนรักของเธอ
ตึก!! ตึก!! ตึก!!
พราวฟ้าหยุดอยู่ที่หน้าห้องวีไอพีที่สุดของผับตามที่พิมพ์ดาวบอก เธอรวบรวมความกล้าด้วยการสูบลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อลบความประหม่าในตัว แล้วผลักประตูเข้าไป
ทันทีที่ก้าวเข้าไปตากลมๆ ก็ไปสะดุดกับสายตาคมของคนที่นั่งรออยู่ พราวฟ้าเผลอมองสำรวจความหล่อเหลาของแฟนน้องสาวอย่างลืมตัว เธอคิดว่าคนที่แม่เลือกให้น่าจะเป็นคนมีอายุพอสมควร ไม่คิดว่าจะยังหนุ่มและหล่อขนาดนี้ พราวฟ้าก้าวเดินเข้าไปในห้องด้วยท่าทางประหม่า
“พี่ขอโทษนะที่อาหารมาช้า พอดีว่าวันนี้พี่มีประชุมก็เลยมาช้าเกือบไม่ทันเวลานัด”
อนาวินบอกออกไปเมื่อเห็นว่าแฟนสาวมีท่าทางไม่พอใจ ดูจากสายตาและท่าทางห่างเหินของเธอ เธอน่าจะโกรธเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปนั่งฝั่งตรงข้ามแบบนี้หรอก ปกติเธอต้องเข้ามากอดเข้ามาจูบทักทายเขาอย่างถึงเนื้อถึงตัวตลอด
“ไม่เป็นไรค่ะ” พราวฟ้าตอบไปสั้นๆ เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตจนเกินไป แล้วก็ไม่รู้ว่าเวลาพิมพ์ดาวอยู่กับแฟนทั้งสองคนพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง
“พิมพ์โกรธอะไรพี่หรือเปล่าครับ”
อนาวินตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เมื่อแฟนสาวเอาแต่นั่งเงียบ ต่างจากทุกครั้งที่ชอบมากอดมาอ้อนเขา วันนี้มันน่าแปลกจริงๆ จะว่าไปมันแปลกตั้งแต่ชุดที่เธอใส่มาแล้ว เพราะมันดูเรียบร้อยเกินไปหรือเธออยากจะเปลี่ยนสไตล์ อนาวินได้แต่สงสัยอยู่ในใจ
“เปล่าหนิคะ”
พราวฟ้าตอบไปพร้อมรอยยิ้ม เพื่อยืนยันว่าเธอรู้สึกตามที่พูด แล้วอยู่ๆ เสียงไลน์ก็ดังขึ้นมา เธอจึงมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า ประมาณว่าขออนุญาตดูได้ไหม เพราะตอนนี้เธออยู่ในสถานะแฟน (ปลอมๆ) ของเขา จะทำอะไรก็ควรจะถามเขาก่อน
“ตามสบายเลยครับ” อนาวินบอกไปด้วยน้ำเสียงสุภาพ ปกติเขาก็ให้ความเป็นส่วนตัวกับเธออยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
พราวฟ้ายิ้มหวานแล้วหยิบมือถือมากดอ่านไลน์ที่เพื่อนส่งมา โดยไม่รู้ตัวว่าทุกการกระทำของเธอถูกจับจ้องตลอดเวลา จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากันพอดี จึงรู้ว่าเขามองเธออยู่ พราวฟ้ารู้ได้ทันทีว่าเขากำลังสงสัยอยู่ว่าเธอกำลังคุยกับใคร เพราะตอนนี้เธอกำลังแสดงเป็นแฟนเขาอยู่
“เพื่อนไลน์มาค่ะ”
พราวฟ้าตอบไปด้วยความบริสุทธิ์ใจจนชายหนุ่มยิ้มตาม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พนักงานนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟพอดี ทั้งสองคนจึงหันไปสนใจอาหารตรงหน้าแทน
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
พี่สาวผู้แสนดีตามใจน้องทุกอย่างจริงๆ