“ไอ้พี่เสือบ้า! คนนิสัยไม่ดี”
ฉันเดินบ่นให้พี่เสือมาตลอดทาง คนบ้านี่เจอกันทีไร เป็นต้องทำให้ฉันโมโหทุกครั้ง ต่อไปฉันคงต้องอยู่ให้ห่างเขาเอาไว้ จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดใจอย่างนี้
ฉันเดินกลับมาที่บ้านพัก เจอพี่อัญแฟนสาวคนสวยของพี่เสือ ที่ตอนนี้กำลังเดินวนเวียนทั่วบ้าน เหมือนกำลังมองหาใครอยู่
“น้องพระพาย ไปเดินเล่นมาเหรอคะ?”
พี่อัญเอ่ยถามฉันอย่างเป็นมิตร เธอดูเป็นคนดีมาก ผิดกับพี่เสือคนละขั้วเลย เขาดูไม่เหมาะสมกับพี่อันสักนิด คนท่าทางใจดีอย่างพี่อัญ ควรได้เจอคนที่ดีกว่านี้
“ค่ะพี่อัญ” ฉันตอบพลางยิ้มให้พี่อัญ
“ทะเลสวยดีนะ ว่าไหม” พี่อัญเอ่ยขึ้นเหมือนจะชวนฉันคุย
“ค่ะ สวยค่ะ” ฉันยิ้มฝืน ๆ ให้พี่อัญ ก็ถ้าไม่มีพวกชอบทำลายบรรยากาศอย่างอีพี่เสือนะ ทะเลแถวนี้คงสวยงามกว่านี้มากเลยทีเดียว
“พี่อัญมองหาใครอยู่เหรอคะ” ฉันถามเพราะเห็นเขายังชะเง้อ เหมือนกำลังมองหาใครสักคนไม่หยุด
"พี่ตามหาพี่เสือน่ะ ไม่รู้หายไปไหน เพื่อน ๆ รอจัดปาร์ตี้กันอยู่ข้างใน แต่เจ้าภาพกลับหายตัว"
“อ๋อ เหรอคะ?” ฉันพยักหน้าเข้าใจ แต่ฉันไม่ได้บอกพี่เขาหรอก ว่าพึ่งเจอพี่เสือมา ปล่อยให้เขาตามหากันเองเถอะ ไม่อยากยุ่งด้วย
“เย็นนี้เรามีปาร์ตี้บาร์บีคิวกับซีฟู้ดกัน พระพายไปกินด้วยกันนะ อาหารทะเลที่นี่สด ๆ ทั้งนั้นเลย จัดอยู่ทางด้านหลังของบ้านพักน่ะ” พี่อัญเอ่ยชวนฉัน
“ค่ะพี่อัญ ขอบคุณที่ชวนพระพายนะคะ เดี๋ยวพระพายตามไปค่ะ” ฉันรับคำตามมารยาท อย่างน้อย ๆ พี่อัญก็ดูเป็นคนดีมีน้ำใจ สวยน่ารักอีกต่างหาก เสียดายที่ดันมาคบกับคนนิสัยไม่ดีแบบพี่เสือ
ตกเย็นปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น ฉันรับอาสาทำหน้าที่อยู่หน้าเตาบาร์บีคิว จัดการเรื่องอาหารและทำน้ำจิ้ม ให้พวกพี่ ๆ ที่กำลังสนุกสนานกัน ถึงแม้ในใจฉันจะยังขุ่นมัว แต่การได้นั่งดูพี่สาวมีความสุขกับเพื่อน ๆ ฉันก็รู้สึกมีความสุขด้วยเช่นกัน
“พระพายนี่ทำอาหารอร่อยมากเลยนะ ว่าไหมทุกคน”
พี่อรรถเอ่ยชมฉัน เมื่อได้กินบาร์บีคิวที่ฉันปรุง
“เห็นด้วยนะ” พี่คามินหันมายกนิ้วโป้งให้ฉัน
“แหม! เห็นอย่างนี้นะ น้องฉันก็มีอะไรหลายอย่างที่พวกแกคิดไม่ถึงเลยล่ะ” พี่พระแพงอวยฉันสุด ๆ
“อร่อยจริงพี่ยอมรับ” พี่เบญหันมาพูดกับทุกคน ทั้งที่กำลังกินอยู่
“นี่ถ้ารสนิยมการแต่งตัวดี เหมือนฝีมือปรุงอาหารนะ รับรองไม่มีคำว่าอกหัก”
ไม่ต้องเดาเลยว่าคำพูดห่วย ๆ อย่างนี้ ออกมาจากปากของใคร จะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจากคนนิสัยไม่ดีอย่างพี่เสือเท่านั้นแหละ
“ไอ้เสือ แกเลิกแกล้ง เลิกบลูลี่น้องสาวฉันสักทีเถอะว่ะ” พี่พระแพงอดไม่ได้ที่จะตำหนิเขา
“ฉันไม่ได้บลูลี่ ฉันแค่แนะนำน้องสาวแก เผื่อว่าพระพายจะลุกขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยเหมือนพี่สาวบ้างไง ไม่ดีเหรอ จะได้มีคนมาจีบและไม่ต้องอกหัก เพราะไปแอบรักใครข้างเดียวอีก ฉันหวังดีนะเว้ย”
เขายังมีหน้ามาบอกว่าหวังดี ทั้งที่คำพูดมันสวนทางขนาดนี้
“ก็ถ้าน้องสาวฉัน ลุกขึ้นมาแต่งสวยอย่างที่แกว่า ผู้ชายคนแรกที่จะผิดหวังอาจจะเป็นแกก็ได้นะไอ้เสือ”
พี่พระแพงพยายามพูด เพื่อปกป้องฉัน พี่สาวฉันน่ารักที่สุด
“ระวังเถอะแกไอ้เสือ แกแกล้งน้องเขามาก ๆ ระวังจะเข้าตัว ถ้าน้องเขาสวยขึ้นมาจริง ๆ นะ แกจะได้กลืนน้ำลายตัวเอง”
พี่อรรถส่งยิ้มเย้ยหยันพี่เสือ เหมือนไม่มีใครเข้าข้างเขาสักคน
“ไม่มีทาง! บอกไว้เลยโว้ย” พี่เสือยืนกราน ใบหน้าหล่อบูดบึ้ง คิ้วขมวดเป็นปม เพราะถูกเพื่อนรุมเย้ยหยัน เขาหันมามองหน้าฉัน ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ด้วยใบหน้าหงุดหงิดขัดใจ
“พอเถอะค่ะเสือ อย่าแกล้งน้องพระพายเลย สงสารน้องเขา” พี่อัญพูดเป็นเชิงขอร้อง
“พระพายขอตัวก่อนนะคะ พระพายอิ่มแล้ว”
ฉันไม่อยากเป็นบุคคลที่ใครหยิบยกมาพูดในวงสนทนา จึงเลือกที่จะเดินออกมาจากโต๊ะอาหาร พี่อัญเดินตามฉันมาติด ๆ เธอคงคิดว่าฉันโกรธ ที่แฟนเธอพูดให้ฉันเมื่อสักครู่
“น้องพระพาย อย่าโกรธพี่เสือเลยนะคะ ที่จริงแล้วพี่เสือน่ะ เขาไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เพียงแต่เขาเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ เลยไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดหรือทำ มันจะมีคนเจ็บปวดเพราะเขา” พี่อัญพูดถึงเขาด้วยใบหน้าดูหงอย ๆ
“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่อัญ พระพายไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยวก็ชิน เขาอยากพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป พระพายไม่ถือสาหรอกค่ะ” ฉันส่งยิ้มกว้าง เพื่อให้พี่อัญสบายใจ
“พระพายน่ารักขนาดนี้ ทำไมเสือเขามองไม่เห็นนะ นี่ถ้าพระพายลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ จะต้องสวยมากแน่เลย”พี่อัญเอ่ยชมฉัน
มีแต่คนต้องการให้ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเอง นี่ฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ แต่ถ้าฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริง ๆ ฉันก็อยากเปลี่ยนแปลงเพื่อคนที่ฉันรักมากกว่า หรือถ้าใครคนหนึ่งจะรักฉันจริง ๆ เขาก็ควรที่จะรักในสิ่งที่เป็นฉัน ไม่ใช่เพราะการเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาใจใคร หรือว่าฉันควรจะทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง เพราะถ้าทำเพื่อตัวเองฉันก็ไม่ขัดข้อง