เป็นห่วง

1397 Words
ภาคินพาพิมรดากลับมาถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว "หนูพรีมเป็นยังไงบ่างจ้ะ เป็นเพราะป้าแท้ๆไม่หน้าปล่อยหนูไว้คนเดียวเลย" คุณภาวิณีรีบเดินเข้ามาสำรวจดูเธอ "ไม่ใช่ความผิดคุณป้าหรอกค่ะ เป็นความผิดของพรีมเองที่ไม่ระมัดระวังตัวให้ดี พรีมต้องขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยนะคะที่ทำให้เป็นห่วง" "เอาละๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วลูก อ่าวแล้วนั้นหอบอะไรมาพะรุงพะรัง" คุณเทวัญพูดขึ้นก่อนจะหันไปถามศักดิ์กับแม่บ้านหอบข้องเข้ามา ศักดิ์ว่างของแล้วรีถอยออกไป "นวลเดี๋ยวเอาขึ้นไปไว้บนห้องคุณพรีม" ภาคินที่นั้งพิงโซฟาอยู่พูดขึ้น "ของน้องพรีมหรอครับ" ราเชนถามด้วยความเเปลกใจ "คุณภาคินเขาซื้อให้พรีมค่ะเขาบอกว่าเวลาไปไหนกับเขา เขาจะได้ไม่อายใคร" พิมรดาพูดขึ้นอย่างงอนๆ ทุกคนในบ้านหันมองหน้ากัน มันใช่เหตุผลนี้หรอ ทุกคนรู้นิสัยภาคินดีนี้ไม่น่าจะใช่เหตุผล "ไปอาบน้ำสิคุณเดี๋ยวจะได้เวลาพระสวดแล้ว" ภาคินบอกพิมรดา เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของคนในครองครัว "งั้นพรีมขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ" "จ้ะ ไปเถอะลูก" คุณภาวิณีพูด "มีอะไรจะบอกหรือเปล่าครับไอ้น้องชาย" ราเชนเริ่มทันทีหลังจากที่พิมรดาขึ้นไปบนห้องแล้ว "เรื่องวันนี้หรอครับก็อย่างที่บอกไป ผมแจ้งตำรวจแล้วและก็คิดว่าน่าจะเป็นพวกไอ้บวรนั้นแหละ" "เรื่องนี้พอรู้แล้วแต่เรื่องที่เปย์ของให้น้องขนาดนี้กลัวอายคนอื่นเขาจริงๆหรอ" ราเชนพูดอย่างรู้ทัน ปกติน้องชายเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนไปซื้อของและไม่คิดว่าภาคินจะทำด้วย "เฮ้ออ..ก็ผมเห็นว่าตอนเขากลับมาเขามีแค่กระเป๋าใบเดียว" "เป็นห่วงว่าน้องจะไม่มีเสื้อผ้าใส่ว่างั้น" "ผมไม่ได้เป็นห่วง ผมขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะครับ เดี๋ยวจะต้องพาหลานสาวคุณพ่อคุณแม่ไปวัดอีก" ภาคินรีบตัดบทก่อนจะลุกขึ้นเดินขึ้นชั้นสองไป "หึๆ ผมว่าผมได้กลิ่นแปลกๆนะครับงานนี้" ราเชนพูดไปยิ้มไปคนเดียว หลังจากอาบน้ำเสร็จพิมรดาก็เดินลงมาพบว่าภาคินกับคุณเทวัญนั้งคุยกันอยู่หน้าเครียด "ขอโทษค่ะ ที่พรีมเข้ามารบกวนเดี๋ยว พรีมออกไปรอด้านนอกนะคะ" "มาพอดีเลย ลุงมีเรื่องจะคุยด้วยมา นั้งก่อนสิ" "ค่ะ" พิมรดาเดินไปนั้งโซฟาใกล้ๆภาคินแต่อยู่ตรงข้ามกับคุณเทวัญ "เรื่องพ่อกับแม่หนูพรีม ลุงกับพี่ภาคินมีความเห็นตรงกันว่าอยากจะเก็บศพไว้ก่อนจนกว่าจะพิสูจน์การเสียชีวิตได้" พิมรดากันไปมองหน้าภาคิน "คำตอบเรื่องนี้จะอยู่ในคำถามที่ผมถามคุณไว้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ" พิมรดานิ่งเงียบไป "พ่อหนูพรีมเคยช่วยเหลือลุงไว้ตอนลุงลำบาก ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ครอบครัวลุงจะตอบแทนบุญคุณปรานุท ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นหนูไม่ต้องกังวนว่าหนูจะเป็นภาระให้พวกเรา พี่ภาคินรับมือกับพวกนั้นได้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหนูคนเดียว" เทวัญกล่าว พิมรดาหันไปมองภาคิน พบว่าเขามองเธออยู่แล้ว "ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว" ภาคินพูดขึ้นเพื่อให้เธอมั่นใจ "ค่ะ พรีมจะทวงความยุติธรรมให้พ่อกับแม่ แล้วจะรักษาสมบัติที่พ่อรักไว้ให้ได้ค่ะ" "งั้นก็ตามนี้ ส่วนเรื่องพินัยกรรมหนูสามารถกำหนดวันเปิดได้เลย" "ค่ะคุณลุง พรีมขอบคุณคุณลุงมากๆนะคะ ถ้าไม่มีคุณลุงไม่รู้ว่าชีวิตพรีมจะเดินไปได้อย่างไร" พิมรดายกมือไหว้คุณเทวัญ "อย่าคิดอะไรมากหนูก็เหมือนลูกสาวลุงคนหนึ่งลุงก็ขอให้หนูคิดว่าลุงกับป้าเป็นพ่อแม่หนูก็แล้วกัน" "ค่ะ" "วันนี้ลุงกับป้าไม่ไปได้ไปฟังงพระสวดด้วยคุณป้าเวียนหัวตั้งแต่หัวค่ำแล้ว หนูพรีมไปกับพี่เขาสองคนก็แล้วกัน ไปตาคินเดี๋ยวจะไม่ทันพระ "ครับพ่อ เราไปกันเถอะ" ภาคินกับพิมรดาเดินตามกันออกไป เทวัญมองตามหลังทั้งสองด้วยความ กังวลใจ แต่ก็เชื่อมั่นว่าภาคินสามารถจัดการได้ "คุณภาคินคะ พรีมขอบคุณคุณมากนะคะที่คุณช่วยพรีมไว้วันนี้" เธอนึกได้ว่าเธอยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย ภาคินหันมามองหน้าเธอ แล้วก็หันกลับไปสนใจไอแพดบนมือต่อ "ผมทำตามหน้าที่" เขาพูดสั้นๆ "ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ พรีมก็อยากขอบคุณคุณอยู่ดี" "ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ผมตามไปช่วยทัน แต่ไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะโชคดีแบบนี้ ผมตามไปช่วยคุณทุกครั้งไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องระวังตัวเองด้วย" เขาว่างไอแพดลงแล้วหันมาพูดกับเธออย่างจริงจัง "พรีมขอโทษค่ะ คราวหน้าพรีมจะระวังตัวให้มากว่านี้" พิมรดายอมรับความผิดแต่โดยดี เป็นเพราะเธอเองที่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ถ้าเขาไปช่วยเธอไว้ไม่ทันป่านนี้ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไง แค่คิดพิมรดาก็กลัวขึ้นมาจังใจ เธอนั้งบีบมือตัวเองไว้แน่น "เอาเถอะ คุณปลอดภัยมาก็ดีแล้ว" แล้วทั้งสองก็นั้งเงียบจนถึงวัด ผู้คนเริ่มทยอยมาในงาน พิมรดาเดินเข้าไปที่รูปภาพของบุพการีที่ตั้งอยู่คู่กัน "เป็นกำลังใจให้พรีมด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่" เธอยกมือขึ้นลูบรอยยิ้มที่อยู่ในกรอบนั้นอย่างคิดถึง น้ำตา น้ำตาลื่นขึ้นมาที่หน่วยตาน้ำใส่ๆไหลลงมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เธอยืนสะอื่นไห้เงียบๆ กับรูปภาพของพ่อกับแม่ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ภาคินเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างเธอ เขาแตะเเขนเธอเบาๆ "ไปนั้งเถอะแขกเริ่มมาแล้ว" ภาคินพูดพร้อมกลับพาเธอกลับมานั้งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าสุด "พรีมพรุ่งนี้เราจะเผาตามเวลาที่พระอาจารย์กำหนดไว้เลยนะ" บวรเดินเข้ามาคุยกับหลานสาว พิมรดาเงยหน้ามองอาแท้ของตัวเอง "พรีมยังไม่เผาค่ะ พรีมจะรอให้ตำรวจหาสาเหตุการตายให้เเน่ชัดก่อน" "พรีมสงสัยอะไรใน อุบัติเหตุครั้งนี้งั้นหรอ" บวรแกล้งถาม "มันก็หน้าสงสัยไม่ใช้หรอค่ะ และอีกอย่างตำรวจก็ยังไม่ได้สรุปว่าเป็น อุบัติเหตุจริงๆ" "ตำรวจเขาก็ไม่ได้มีหลักฐาน ว่าเป็นการฆาตกรรมนี้ หรือมีใครเป่าหูแก" บวรพูดพร้อมกับมองไปภาคิน "ไม่มีใครเป่าหูพรีมหรอกค่ะ พรีมแค่รู้สึกว่าการเสียชีวิตของพ่อกับแม่พรีมผิดปกติ แม้กระทั่งพรีมเองที่พึ่งกลับมา เหยียบเมืองไทยได้ยังไม่ถึงสามวันพรีมยังถูกปองร้ายเลย มันจะปกติได้ไงค่ะ" พิมรดาพูดขึ้น "อาจจะเป็นคนใกล้ตัวเธอเองก็ได้นะคนอื่นเขาจะไปรู้ความ เคลื่อนไหวของเธอได้ไง" โสภาพูดขึ้นหวังเสี้ยมให้ภาคินกับพิมรดา ไม่ไว้ใจกัน "นั้นสินะคะ คนอื่นจะรู้ได้ไงพรีมก็คิดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ตัวพรีมนี้แหละค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะตอนนี้คุณภาคินพาพรีมไปแจ้งความไว้แล้วตำรวจน่าจะตามคนร้ายได้ไม่อย่างหรอดกค่ะ" บวรมองหน้าโสภา "งั้นจะทำอะไรก็ตามใจเลยก็แล้วกัน ไม่ต้องเห็นหัวฉัน" พูดเสร็จบวรก็เดินออกไป "เห็นคนอื่นดีกว่าอาแท้ๆตัวเองระวังเถอะ" โสภาพูดต่อท้ายก่อนจะเดินตามสามีไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD