"ซู้วววว...พรีมนี่ผมเอง"
ภาคินกระซิบบอกข้างหู พิมรดาที่กำลังดิ้นอยู่ในอ้อมแขนเขาหยุดทันที เธอมองหน้าเขาชัดๆ ตากลมโตด้วยความตกใจ เธอใจเต้นตุบๆ ใจหายแวบอย่างกับจะเป็นลม เธอยกมือจับแขนเขาไว้ กลัวว่าตัวเองจะล้มพับลงไป
"ผมเอง...ใจเย็นๆ"
พิมรดาพยักหน้างึกๆ ภารินค่อยๆเอามือที่ปิดปากเธอออก
"ไหนคุณบอกว่าไม่กลับมาไงคะ"
พิมรดาถามขึ้น
"ก็ว่าจะไม่กลับแต่...."
"เเต่อะไรคะ"
"กลัวเด็กแถวนี้คิดถึง"
"พรีมไม่เด็กแล้วจะให้บอกกี่รอบ"
เธอเงยหน้าขึ้นโวยวายกับเขา ลืมไปเลยว่าเขายังกอดเอวเธอไว้อยู่ ตัวเธอเบียดอยู่กลับตัวเขา
"เชื่อแล้วครับว่าไม่เด็ก"
ภาคินพูดยิ้มๆ อย่างมีเลศนัย พิมรดามองเขางงๆในความมืด สายตาเขาเป็นประกายขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าเธออยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวและที่สำคัญข้างในเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย
"ฮื้อออ...ปะ..ปล่อยพรีมก่อน"
เธอใจเต้นตุบตับหนักกว่าเดิม ปกติตอนนอนเธอไม่ชอบใส่ชุดชั้นในและวันนี้เธอก็คิดว่าเธออยู่คนเดียวที่ระเบียงนี้อยู่แล้ว
"นอกจากไม่เด็กแล้วยังเป็นสาวแล้วด้วย"
"คุณภาคิน คนบ้าปล่อยพรีมนะ"
พิมรดาพยายามผลักอกเขา ให้เขาปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เธอยิ่งดิ้นมันยิ่งแย่เข้าไปอีก เหมือนเข้ากอดรัดเธอแน่นขึ้นด้วย
"ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก"
"พรีมนอนไม่หลับนี้คะ แต่ตอนนี้พรีมง่วงแล้ว"
ภาคินจ้องมองหน้าเธอนิ่ง พิมรดารู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"คุณภาคินคะ ปล่อยพรีมได้เเล้ว"
ภาคินค่อยคลายอ้อมแขนออกอย่างนึกเสียดาย พิมรดาถอยออกมายืนอยู่ห่างๆเขาเธอยกมือกอดอกไว้
"พรีมขอตัวไปนอนก่อนนะคะ"
พูดเสร็จเธอก็รีบเข้าห้องไป ภาคินได้เเต่มองตามด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูกมันรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
[กรี๊ดดด..]
เป็นเสียงกรี้ดที่ดังในใจของพิมรดา
"ฮื้ออ..น่าอายชะมัด"
เธอมุดหน้าลงบนที่นอนนุ่มเอาหมอนทับหัวตัวเองไว้ แค่นึกถึงภาพเมื่อกี้เธอก็แทบอยากจะมุดดินหนีหายไปเลย
ถึงเธอจะใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธออยู่ ใกล้ชิดกับผู้ชายสองต่อสองในสภาพล่อแหลมขนาดนี้
"ไม่รู้ป่านนี้เขาเห็นไปถึงไหนตอนไหนแล้ว...บ้าๆๆๆ"
เธอบ่นคนเดียว
เช้าวันต่อมา...
[ก๊อกๆๆ]
เสียงเคาะประตูดังขึ้น พิมรดารีบเดินมาเปิด พบว่าเป็นภาคิน เขาอยู่ในชุดสูทผูกไทดูหล่อดีไปอีกแบบ พิมรดามัวแต่ยืนมองเขา
"เสร็จหรือยัง"
ภาคินถามขึ้น
"เสร็จแล้วค่ะ"
เธอเดินออกมา วันนีเธออยู่ในชุด ชุดมินิเดรสสีขาวแขนสั้น สไตล์เรียบหรูกับ กระเป๋าสะพายข้างใบหรู ในมือหิ้วรองเท้าส้นสูงไว้เพื่อที่จะลงไปใส่ด้างล้าง
"เสร็จแล้วก็ไปกัน"
พิมรดาพยักหน้ากำลังจะเดินลงข้างล้าง
"สวัสดีครับพี่กลาง น้องพรีมกำลังจะไปไหนครับเนีย"
คนิตที่เปิดประตูห้องออกมาเจอทั้งสองพอดี
"คุณภาคินจะพรีมเข้าไปบริษัทคุณพ่อค่ะ"
"ไม่น่าละวันนี้พี่กลางก็หล่อน้องพรีมก็สวยพี่เอาใจช่วยนะคะ"
คนิตหันมาพูดกับพิมรดา
"ขอบคุณค่ะ"
พิมรดายิ้มให้คนิตจนตาหยี
"ไปกันได้เเล้วเดี๋ยวสาย"
ภาคินพูดก่อนจะเดินลงไปก่อน
แล้วที่เหลือก็เดินตามลงมา
"พรีมไปก่อนนะคะพี่คนิต"
พิมรดาโบกมือบ๊ายบายก่อนจะขึ้นรถ
"ครับแล้วเจอกัน ขอให้วันนี้เป็นดีๆของน้องพรีมนะครับ"
คนิตโบกมือตอบก่อนที่ประตูรถจะปิดลง
และเคลื่อนตัวออกจากบ้านไป คนิตมองตามยิ้มๆ รู้สึกถึงอะไรแปลกๆจากพี่ชายเขา
"เหมือนจะหวงๆหรือเปล่าน้าา".
คนิตพูดคนเดียวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปขึ้นรถตัวเองและขับตามออกไป
"ดูสนิทกับเจ้าเล็กจังเลยนะ"
ภาคินพูดขึ้น ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนถนน
"ก็ปกตินี้ค่ะ และอีกอย่างพี่คนิตน่ารักอบอุ่นสมกับเป็นคุณหมอเลย"
"หึ...ชอบแบบนี้สินะ"
พิมรดาขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกๆในคำพูดของเขา
"พรีมก็นับถือพี่คนิตเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่ง
ทำไมต้องทำเสียงไม่พอใจด้วย"
"ผมจะมีสิทธิ์อะไรไม่พอใจคุณ"
"เฮ้อออ..คนแก่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ"
พิมรดาพูดขึ้น
"คุณว่าผมแก่"
"เปล่าเลยค่าา พรีมไม่ได้ว่าคุณสักหน่อย"
พิมรดาลอยหน้าลอยตาตอบ
"ฝากไว้ก่อนเถอะพิมรดา"
"ได้เลยค่ะ คุณภาคิน"
แล้วเธอก็ยิ้มหวานให้เขาไปหนึ่งกรุ๊ป
ภาคินเผลอมองปากอวบอิ่มที่ถูกแต่ง
เเต้มด้วย ลิปสติกสีสวยด้วยตาเป็นประกายแล้วภาพเมื่อคืนก็หวนกลับมา ภาคินอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
"อีก10นาทีจะถึงโรงเเรมของคุณพรีมแล้วครับ"
โจรายงานมาจากหน้ารถ
พิมรดาหันไปมองภาคินด้วยใบหน้าที่ เคร่งเครียดยังเห็นได้ชัด
"คุณไม่ต้องกังวลผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง"
ภาคินพูดเพื่อให้เธอสบายใจ และมันก็ได้ผล พิมรดารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา
"ตอนนี้ผู้ถือหุ้นทุกคนอยู่ในห้องประชุมแล้วครับ"
โจรายงานอีกครั้ง ภาคินพยักหน้ารับรู้
พอดีกับรถจอดตรงหน้าทางเข้าโรงแรมพอดี วันนี้ภาคินให้รถติดตามมาอีกสองคน นำหน้าหนึ่งคน ตามหลังหนึ่งคน พร้อมลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง
ทุกสายตาที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียวกัน ประตูรถถูกเปิดออก มีชายหนุ่มรูปหล่อกับหญิงสาวแสนสวยลงมาจากรถ แถมยังมีลูกน้องยืนประกบหน้าหลัง
"คุณพอจะรู้ไมว่าห้องปาะชุมไปทางไหน"
"พรีมไม่แน่ใจเลยค่ะ"
"งั้นไม่เป็นไร แต่พรีมต้องจำให้ขึ้นใจว่าที่นี้เป็นของพรีม พรีมเเสดงตัวได้เต็มที่เข้าใจไหม"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปด้านในพร้อมลูกน้องของภาคิน โจ้ป็นผู้สั่งการให้ลูกน้องยืนคุมเป็นจุด
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ"
พนักงานตอนรับรีบทำหน้าที่
"ฉันมาประชุมผู้ถือหุ้น"
"เอ้อ..ไม่ทราบว่ามาในนามของใครคะ"
พนักต้อนรัวเริ่มรับมือไม่ถูกเธอไม่เคยเห็นผู้ถือหุ้นคนนี้จะให้ขึ้นไปเลยก็กลัวจะรับผิดชอบไม่ไหว
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันขึ้นไปเอง"
"เดี๋ยวค่ะ คุณจะขึ้นไปไม่ได้นะคะ"
พิมรดามองหน้าพนักงานคนนั้น
"ไปตามผู้จัดการเธอมา"
"ค่ะๆ รอสักครู่นะคะ"
พนักงานรีบกดโทรศัพท์ตามผู้จัดการลงมา
"มีเรื่องอะไรกัน"
ผู้จัดการถามขึ้นเมื่อเดินมาถึง
"เอ้อ...คุณผู้หญิงท่านนี้บอกว่าจะมาประชุมผู้ถือหุ้นค่ะ"
พนักงานรีบรายงาน
"ห๊ะ....เอ๊ะ..คุณ...คุณพรีมใช่ไหมคะ"
ผู้จัดการกำลังจะตั้งคำถามแต่ตอนนี้เธอได้คำตอบแล้วถึงแม้จะยังไม่ได้ถามก็ตาม
"ใช่ค่ะพรีมเองแบบนี้แล้วพรีมจะเข้าประชุมได้หรือยังคะ"
"คุณบวรทราบหรือยังคะว่าคุณพรีมจะมาเข้าประชุมด้วย"
"ดิฉันจะมาบริษัทตัวเองต้องแจ้งคนอื่นด้วยหรอค่ะ"
"เออ..ไม่ใช้อย่างนั้นค่ะ งั้นเชิญคุณ
พิมรดาด้านบนได้เลยค่ะ"
ผู้จัดการไม่มีทางเลือกจำใจต้องนำเธอขึ้นไปห้องประชุม
โจเดินไปกดเรียกลิฟท์รอไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก
ทั้งเดินเข้าลิฟท์ไป มีโจกับลูกน้องอีก3คนเดินตามเข้ามา
[ห้องประชุม]
[ก๊อกๆๆ]
ทุกสายตาในห้องประชุมหันไปมองประตูที่กำลังเปิดออก ภาคินกับพิมรดาเดินเข้าห้องประชุมมาอย่างสง่าผ่าเผย