ไม่เด็กแล้ว

1457 Words
"ซู้วววว...พรีมนี่ผมเอง" ภาคินกระซิบบอกข้างหู พิมรดาที่กำลังดิ้นอยู่ในอ้อมแขนเขาหยุดทันที เธอมองหน้าเขาชัดๆ ตากลมโตด้วยความตกใจ เธอใจเต้นตุบๆ ใจหายแวบอย่างกับจะเป็นลม เธอยกมือจับแขนเขาไว้ กลัวว่าตัวเองจะล้มพับลงไป "ผมเอง...ใจเย็นๆ" พิมรดาพยักหน้างึกๆ ภารินค่อยๆเอามือที่ปิดปากเธอออก "ไหนคุณบอกว่าไม่กลับมาไงคะ" พิมรดาถามขึ้น "ก็ว่าจะไม่กลับแต่...." "เเต่อะไรคะ" "กลัวเด็กแถวนี้คิดถึง" "พรีมไม่เด็กแล้วจะให้บอกกี่รอบ" เธอเงยหน้าขึ้นโวยวายกับเขา ลืมไปเลยว่าเขายังกอดเอวเธอไว้อยู่ ตัวเธอเบียดอยู่กลับตัวเขา "เชื่อแล้วครับว่าไม่เด็ก" ภาคินพูดยิ้มๆ อย่างมีเลศนัย พิมรดามองเขางงๆในความมืด สายตาเขาเป็นประกายขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าเธออยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวและที่สำคัญข้างในเธอไม่ได้ใส่อะไรเลย "ฮื้อออ...ปะ..ปล่อยพรีมก่อน" เธอใจเต้นตุบตับหนักกว่าเดิม ปกติตอนนอนเธอไม่ชอบใส่ชุดชั้นในและวันนี้เธอก็คิดว่าเธออยู่คนเดียวที่ระเบียงนี้อยู่แล้ว "นอกจากไม่เด็กแล้วยังเป็นสาวแล้วด้วย" "คุณภาคิน คนบ้าปล่อยพรีมนะ" พิมรดาพยายามผลักอกเขา ให้เขาปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เธอยิ่งดิ้นมันยิ่งแย่เข้าไปอีก เหมือนเข้ากอดรัดเธอแน่นขึ้นด้วย "ดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก" "พรีมนอนไม่หลับนี้คะ แต่ตอนนี้พรีมง่วงแล้ว" ภาคินจ้องมองหน้าเธอนิ่ง พิมรดารู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ "คุณภาคินคะ ปล่อยพรีมได้เเล้ว" ภาคินค่อยคลายอ้อมแขนออกอย่างนึกเสียดาย พิมรดาถอยออกมายืนอยู่ห่างๆเขาเธอยกมือกอดอกไว้ "พรีมขอตัวไปนอนก่อนนะคะ" พูดเสร็จเธอก็รีบเข้าห้องไป ภาคินได้เเต่มองตามด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็อธิบายไม่ถูกมันรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน [กรี๊ดดด..] เป็นเสียงกรี้ดที่ดังในใจของพิมรดา "ฮื้ออ..น่าอายชะมัด" เธอมุดหน้าลงบนที่นอนนุ่มเอาหมอนทับหัวตัวเองไว้ แค่นึกถึงภาพเมื่อกี้เธอก็แทบอยากจะมุดดินหนีหายไปเลย ถึงเธอจะใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธออยู่ ใกล้ชิดกับผู้ชายสองต่อสองในสภาพล่อแหลมขนาดนี้ "ไม่รู้ป่านนี้เขาเห็นไปถึงไหนตอนไหนแล้ว...บ้าๆๆๆ" เธอบ่นคนเดียว เช้าวันต่อมา... [ก๊อกๆๆ] เสียงเคาะประตูดังขึ้น พิมรดารีบเดินมาเปิด พบว่าเป็นภาคิน เขาอยู่ในชุดสูทผูกไทดูหล่อดีไปอีกแบบ พิมรดามัวแต่ยืนมองเขา "เสร็จหรือยัง" ภาคินถามขึ้น "เสร็จแล้วค่ะ" เธอเดินออกมา วันนีเธออยู่ในชุด ชุดมินิเดรสสีขาวแขนสั้น สไตล์เรียบหรูกับ กระเป๋าสะพายข้างใบหรู ในมือหิ้วรองเท้าส้นสูงไว้เพื่อที่จะลงไปใส่ด้างล้าง "เสร็จแล้วก็ไปกัน" พิมรดาพยักหน้ากำลังจะเดินลงข้างล้าง "สวัสดีครับพี่กลาง น้องพรีมกำลังจะไปไหนครับเนีย" คนิตที่เปิดประตูห้องออกมาเจอทั้งสองพอดี "คุณภาคินจะพรีมเข้าไปบริษัทคุณพ่อค่ะ" "ไม่น่าละวันนี้พี่กลางก็หล่อน้องพรีมก็สวยพี่เอาใจช่วยนะคะ" คนิตหันมาพูดกับพิมรดา "ขอบคุณค่ะ" พิมรดายิ้มให้คนิตจนตาหยี "ไปกันได้เเล้วเดี๋ยวสาย" ภาคินพูดก่อนจะเดินลงไปก่อน แล้วที่เหลือก็เดินตามลงมา "พรีมไปก่อนนะคะพี่คนิต" พิมรดาโบกมือบ๊ายบายก่อนจะขึ้นรถ "ครับแล้วเจอกัน ขอให้วันนี้เป็นดีๆของน้องพรีมนะครับ" คนิตโบกมือตอบก่อนที่ประตูรถจะปิดลง และเคลื่อนตัวออกจากบ้านไป คนิตมองตามยิ้มๆ รู้สึกถึงอะไรแปลกๆจากพี่ชายเขา "เหมือนจะหวงๆหรือเปล่าน้าา". คนิตพูดคนเดียวอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปขึ้นรถตัวเองและขับตามออกไป "ดูสนิทกับเจ้าเล็กจังเลยนะ" ภาคินพูดขึ้น ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่บนถนน "ก็ปกตินี้ค่ะ และอีกอย่างพี่คนิตน่ารักอบอุ่นสมกับเป็นคุณหมอเลย" "หึ...ชอบแบบนี้สินะ" พิมรดาขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกๆในคำพูดของเขา "พรีมก็นับถือพี่คนิตเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่ง ทำไมต้องทำเสียงไม่พอใจด้วย" "ผมจะมีสิทธิ์อะไรไม่พอใจคุณ" "เฮ้อออ..คนแก่อารมณ์ขึ้นๆลงๆ" พิมรดาพูดขึ้น "คุณว่าผมแก่" "เปล่าเลยค่าา พรีมไม่ได้ว่าคุณสักหน่อย" พิมรดาลอยหน้าลอยตาตอบ "ฝากไว้ก่อนเถอะพิมรดา" "ได้เลยค่ะ คุณภาคิน" แล้วเธอก็ยิ้มหวานให้เขาไปหนึ่งกรุ๊ป ภาคินเผลอมองปากอวบอิ่มที่ถูกแต่ง เเต้มด้วย ลิปสติกสีสวยด้วยตาเป็นประกายแล้วภาพเมื่อคืนก็หวนกลับมา ภาคินอมยิ้มอย่างมีเลศนัย "อีก10นาทีจะถึงโรงเเรมของคุณพรีมแล้วครับ" โจรายงานมาจากหน้ารถ พิมรดาหันไปมองภาคินด้วยใบหน้าที่ เคร่งเครียดยังเห็นได้ชัด "คุณไม่ต้องกังวลผมจะอยู่ข้างๆคุณเอง" ภาคินพูดเพื่อให้เธอสบายใจ และมันก็ได้ผล พิมรดารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้เขา "ตอนนี้ผู้ถือหุ้นทุกคนอยู่ในห้องประชุมแล้วครับ" โจรายงานอีกครั้ง ภาคินพยักหน้ารับรู้ พอดีกับรถจอดตรงหน้าทางเข้าโรงแรมพอดี วันนี้ภาคินให้รถติดตามมาอีกสองคน นำหน้าหนึ่งคน ตามหลังหนึ่งคน พร้อมลูกน้องอีกจำนวนหนึ่ง ทุกสายตาที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียวกัน ประตูรถถูกเปิดออก มีชายหนุ่มรูปหล่อกับหญิงสาวแสนสวยลงมาจากรถ แถมยังมีลูกน้องยืนประกบหน้าหลัง "คุณพอจะรู้ไมว่าห้องปาะชุมไปทางไหน" "พรีมไม่แน่ใจเลยค่ะ" "งั้นไม่เป็นไร แต่พรีมต้องจำให้ขึ้นใจว่าที่นี้เป็นของพรีม พรีมเเสดงตัวได้เต็มที่เข้าใจไหม" "เข้าใจแล้วค่ะ" แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปด้านในพร้อมลูกน้องของภาคิน โจ้ป็นผู้สั่งการให้ลูกน้องยืนคุมเป็นจุด "สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ" พนักงานตอนรับรีบทำหน้าที่ "ฉันมาประชุมผู้ถือหุ้น" "เอ้อ..ไม่ทราบว่ามาในนามของใครคะ" พนักต้อนรัวเริ่มรับมือไม่ถูกเธอไม่เคยเห็นผู้ถือหุ้นคนนี้จะให้ขึ้นไปเลยก็กลัวจะรับผิดชอบไม่ไหว "ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันขึ้นไปเอง" "เดี๋ยวค่ะ คุณจะขึ้นไปไม่ได้นะคะ" พิมรดามองหน้าพนักงานคนนั้น "ไปตามผู้จัดการเธอมา" "ค่ะๆ รอสักครู่นะคะ" พนักงานรีบกดโทรศัพท์ตามผู้จัดการลงมา "มีเรื่องอะไรกัน" ผู้จัดการถามขึ้นเมื่อเดินมาถึง "เอ้อ...คุณผู้หญิงท่านนี้บอกว่าจะมาประชุมผู้ถือหุ้นค่ะ" พนักงานรีบรายงาน "ห๊ะ....เอ๊ะ..คุณ...คุณพรีมใช่ไหมคะ" ผู้จัดการกำลังจะตั้งคำถามแต่ตอนนี้เธอได้คำตอบแล้วถึงแม้จะยังไม่ได้ถามก็ตาม "ใช่ค่ะพรีมเองแบบนี้แล้วพรีมจะเข้าประชุมได้หรือยังคะ" "คุณบวรทราบหรือยังคะว่าคุณพรีมจะมาเข้าประชุมด้วย" "ดิฉันจะมาบริษัทตัวเองต้องแจ้งคนอื่นด้วยหรอค่ะ" "เออ..ไม่ใช้อย่างนั้นค่ะ งั้นเชิญคุณ พิมรดาด้านบนได้เลยค่ะ" ผู้จัดการไม่มีทางเลือกจำใจต้องนำเธอขึ้นไปห้องประชุม โจเดินไปกดเรียกลิฟท์รอไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออก ทั้งเดินเข้าลิฟท์ไป มีโจกับลูกน้องอีก3คนเดินตามเข้ามา [ห้องประชุม] [ก๊อกๆๆ] ทุกสายตาในห้องประชุมหันไปมองประตูที่กำลังเปิดออก ภาคินกับพิมรดาเดินเข้าห้องประชุมมาอย่างสง่าผ่าเผย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD